SkyscraperCity Forum banner

Trat | The Eastern Gem

60K views 151 replies 22 participants last post by  wwc234 
#1 ·
แผนเสกหมู่เกาะช้าง ของบหมื่นล้าน7ปี สวรรค์กลางทะเล

เปิดแผนแม่บทพัฒนาเกาะช้างอพท.ขอหมื่นล้านใน 7 ปี ทุ่มพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานรับแผนเป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮเอ็น ทั้งเร่งศึกษาเปิดเกาะให้เอกชนสัมปทาน"วันไอส์แลนด์ วันรีสอร์ท" สร้างสนามบินเล็ก ท่าเรือเฟอร์รี่ ภายใต้คอนเซ็ปท์อีโค-ทัวร์ริสซึ่ม ด้านนายทุนชะงักหลังที่ดินพุ่งไร่ละ10 ล้านบาท





แม้จะล่าถอยแผนจัดระเบียบเกาะพีพี.เพราะโดนต้านอย่างหนัก แต่ที่เกาะช้างอันเป็นจุดกำเนิดขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) หรืออพท.นั้น ยังทำงานต่ออย่างแข็งขัน


แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการท่องเที่ยว ผู้ประสงค์จะให้ข่าวแต่ไม่ประสงค์ออกนาม แจงว่า เวลานี้การจัดทำแผนแม่บทในการพัฒนาเกาะช้างของอพท.ศึกษาแล้วเสร็จเรียบร้อย แถมผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารของ อพท.รอเพียงเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเร็ว ๆ นี้


ทั้งนี้ ตามแผนแม่บทได้กำหนดเม็ดเงินที่จะใช้ ในการพัฒนาเกาะช้างและเกาะบริวาร 52 เกาะ โดยใช้งบในราว 10,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณประจำปีผูกพันเป็นระยะเวลา 7 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2549-2555 โดยมุ่งพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเชิงนิเวศน์ และมีการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน


"ส่วนงบประมาณร่วมหมื่นล้านจะเป็นงบที่กระจายผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้น ในเรื่องของการสร้างสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เช่น การปรับปรุงถนนหนทางภายในเกาะ การจัดระบบไฟฟ้า แหล่งน้ำ ประปา โทรศัพท์ การคมนาคม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านบริการ ท่าเรือเฟอร์รี ศูนย์อะควอเรียม พิพิธภัณฑ์ สนามบินขนาดเล็ก ฯลฯ ที่ถือเป็นการลงทุนแบบบูรณาการ ซึ่งบางโครงการอาจจะเปิดให้ภาคเอกเชนเข้ามาลงทุนด้วย"


แหล่งข่าวคนเดิมยังระบุอีกว่า ในส่วนที่จะเปิดให้เอกชนเข้าร่วม อาจเป็นการลงทุนในลักษณะเปิดสัมปทาน เช่น ท่าเรือเฟอร์รี่ การลงทุนสนามบินขนาดเล็ก เพื่อเชื่อมโยงในพื้นที่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะหมาก เนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวก รวมถึงแนวทางการเปิดเกาะ ให้ภาคเอกชนสัมปทานลงทุนในลักษณะ"วันไอส์แลนด์วันรีสอร์ท" ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด ซึ่งเบื้องต้นกำหนด 3 เกาะที่จะเปิดให้สัมปทานคือ เกาะคลุ้ม เกาะหวาย และเกาะใบตั้ง


"การเปิดให้ภาคเอกชนสัมปทานลงทุนนั้นจะต้องมีกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ชัดเจนเพราะขณะนี้เป็นเพียงแค่การศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น โดยรายละเอียดจะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยต้องเป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับแผนแม่บท และต้องสร้างรีสอร์ทที่มีมาตราฐาน และภายใต้แนวคิดอีโคทัวร์ริสซึ่ม"


แค่แง้มแนวทาง เวลานี้มีภาคเอกชนหลายรายทั้งในและต่างประเทศ สนใจถามสอบข้อมูลเกาะบริวารทั้ง 52 เกาะ เพื่อเตรียมลงทุน ซึ่งความเป็นไปได้นั้นอาจจะเปิดสัมปทานเหมือนกับที่หมู่เกาะมัลดีฟส์ คือเป็นรีสอร์ทหรูหราและขายห้องพักในราคาแพงมากมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับครบและคุ้มค่ากับการลงทุน"


ส่วนสนามบินก็จะเป็นสนามไซส์จิ๋ว สำหรับเครื่องขนาด 20-30 ที่นั่งเท่านั้น โดยต้องการให้เป็นเครื่องบินแบบเอ็กคลูซีฟ ให้บริการเชื่อมโยงระหว่างเกาะช้างกับเกาะบริวาร เกาะกูด เกาะหมาก เป็นต้น ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงรองรับตลาดระดับเศรษฐี


ขณะที่สนามบินตราดนั้นจะเป็นจุดที่เชื่อมบนฝั่งพื้นดิน เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวระดับสูง ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าของรีสอร์ทลงทุนเองหรือรัฐบาลลงทุนก็ได้


ทั้งนี้สำหรับแผนแม่บทในการพัฒนาเกาะช้างนั้นแบ่งพื้นที่พัฒนาออกเป็น 4 โซนใหญ่ ๆ


ประกอบด้วยกลุ่มเกาะช้าง เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติที่หลากหลายรูปแบบชุมชนนิเวศน์ (อีโค-วิลเลจ) กลุ่มเกาะหมาก เป็นการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลเช่น


ดำน้ำ ชมปะการัง พิพิภัณฑ์ทางทะเล กีฬาทางน้ำและ"วัน ไอส์แลนด์ วัน รีสอร์ท"


กลุ่มเกาะกูด เน้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแบบเอ็กคลูซีฟ โซน มีมาตรการอนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมอย่างเข้ม และพื้นที่เชื่อมโยงผังเมืองตราด เน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์การเกษตร และ


ทรัพยากรชายฝั่ง


"พื้นที่บริเวณหมู่เกาะช้างถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะพิเศษกว่าชายหาดทั่วไป เพราะมีลักษณะเป็นป่าดิบหรือเรน ฟอร์เรส ผสมผสานกับชายหาดและทะเล ซึ่งถือเป็นจุดขายที่สำคัญที่สามารถพัฒนาขึ้นมารองรับตลาดนักท่องเที่ยวระดับบนได้" แหล่งข่าวคนเดิมกล่าว


พูดถึงเกาะช้าง ขาดไม่ได้ที่ต้องถาม"พรชัย เขมะพรรค์พงษ์" กรรมการผู้จัดการ อัยยะปุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะช้าง เลยได้เบาะแสว่า เวลานี้นอกจากกลุ่มเอวาซอนได้เข้ามาซื้อที่ดินบน


เกาะกูดจำนวน 800 ไร่ สำหรับก่อสร้างโรงแรมระดับ 5-6 ดาว มีลานจอดเครื่องบินส่วนตัว


ขนาด 12-16 ที่นั่งแล้ว กลุ่มซีพีที่จับมือกับบันยันทีสร้างโรงแรม 5 ดาวที่เกาะทรายขาว


ล่าสุดกลุ่มทุนเกาหลีได้มีการซื้อที่ดินที่เกาะหวายจำนวน 21 ไร่และที่ดินครอบครองโดยไม่มีเอกสารสิทธิอีกประมาณ 20 ไร่ มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ขณะที่สลักเพชร ซีฟู้ดได้เสนอแผนไปที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ในการขอสัมปทานทำมารีน่า บริเวณอ่าวสลักเพชร มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท


ส่วนกลุ่มเซ็นทรัลนั้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจเท่านั้น ยังไม่ได้มีการซื้อที่ดินแต่อย่างไร สำหรับกลุ่มทุนอื่นๆ แม้จะมีการมาเซอร์เวย์พื้นที่แล้ว แต่ขณะนี้ยังรอดูสถานการณ์ในเรื่องของราคาน้ำมันประกอบกับราคาที่ดินได้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาทิ ที่ดินบริเวณหาดทรายขาวราคาสูงถึง 10 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนบริเวณทั่วไปนั้นราคาไม่ต่ำกว่า 5-6 ล้านบาทต่อไร่


ใครรักเกาะ ชอบเกาะ น่ารีบไปเที่ยวเสียโดยเร็ว เป็นเกาะสวรรค์เมื่อไหร่ รับรองหมดสิทธิ์

Thannews - June 23-25, 05
 
See less See more
#52 ·
ตราดเจรจาทางการค้ากัมพูชา-เวียด ส่งเสริมการค้า-ลงทุน-ท่องเที่ยว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 พฤษภาคม 2553 12:54 น.


ตราด - จังหวัดตราดเจรจาทางการค้ากับกัมพูชา และ เวียดนาม ส่งเสริมการค้า, การลงทุนและท่องเที่ยว ขณะนักธุรกิจ 2 ฝ่าย บรรลุข้อตกลงส่งออกผลไม้ตราด 1,500 ตัน

วานนี้ (11 พ.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมเหลายาอินแลนด์ รีสอร์ท อ.เมือง จ.ตราด นายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วยตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมต้อนรับคณะจากประเทศกัมพูชาและเวียดนาม ซึ่งนำโดย นายซกซ้ง รองประธานหอการค้าประเทศกัมพูชาและ นายลีฮง นักธุรกิจค้าส่งออก จาก จ.โฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม ในการประชุมเจรจาทางการค้ากับประเทศกัมพูชาและประเทศเวียดนาม ภายใต้การส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ACMES

นายแก่นเพชร กล่าวว่า การประชุมเจรจากับประเทศกัมพูชาและเวียดนามเป็นการประสานงานของ พาณิชย์จังหวัดที่นำผู้ประกอบการของประเทศกัมพูชาและเวียดนามมาพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการของจังหวัดตราดซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ เป็นการกระชับความสัมพันธ์ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน มีการแลกเปลี่ยนข้อตกลงทางการค้าและการลงทุน รวมถึงการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและการบริการระหว่างกัน

ที่ผ่านมา จ.ตราด ได้มีการเจรจาด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะจังหวัดเกียงยาง ประเทศเวียดนาม ที่ได้มีการเจรจาเรื่องการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวโดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวของ จ.ตราด ได้เดินทางไปสำรวจลู่ทางและเส้นทางการท่องเที่ยวใน จ.เกียงยางมาแล้ว ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวใน จ.เกียงยาง ก็เดินทางมาที่ จ.ตราด เช่นเดียวกัน การเดินทางมาครั้งนี้ จึงนับเป็นความร่วมมือที่จะสานต่อนโยบายการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวให้มีการกระชับมากขึ้น

นางดวงใจ จันทร เจ้าของบริษัท ไทซิงซิง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ส่งออกผลไม้ของ จ.ตราด ไปยัง 2 ประเทศ เปิดเผยว่า การเจรจาส่งผลไม้ไปยังต่างประเทศมีการดำเนินการแล้ว 80-90% มีพ่อค้าโฮจิมินห์รับซื้อลองกองจำนวน 10 ตัน มังคุด 20 ตัน และมีพ่อค้าสีหนุที่เพิ่งเซ็นสัญญาสั่งซื้อ รวมถึงเซ็น MOU อีก 2 ราย โดยเป็นการปฏิบัติได้จริง และในอนาคตจะมีการขยายตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนการค้ากับประเทศกัมพูชาและเวียดนามไม่มีปัญหาอุปสรรค แต่จะมีปัญหาในการส่งไปประเทศมาเลเซียเนื่องจากรถขนส่งไม่มาตามที่ได้ตกลงไว้ และผลไม้ที่ส่งไปแต่ละประเทศจะเป็นไปตามความต้องการของตลาดและกำลังซื้อของประชาชน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบการค้ากับปีที่แล้ว ในปีนี้การสั่งซื้อของประเทศกัมพูชาจะลดลงแต่ประเทศเวียดนามกลับเพิ่มขึ้น เพราะพ่อค้าของตลาดโฮจิมินห์ มีความต้องการเงาะและลองกองวันละ 500-700 ตัน และคาดว่า ปริมาณในปีนี้จะไม่เกิน 1,500 ตัน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
 
#53 ·
ชาวสวนเทเงาะขวางถนนร้องราคาตก

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:36:34 น. มติชนออนไลน์


เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ชาวสวนเงาะ อ.เขาสมิง จ.ตราด กว่า 100 คน นำรถยนต์ปิคอัพบรรทุกเงาะเต็มคันเดินทางมาที่บริเวณด่านบ้านท่าจอด ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จากนั้นปิดถนนสุขุมวิทขาออก พร้อมเทเงาะจำนวนกว่า 5 ตันลง จากนั้นโจมตีการทำงานของส่วนราชการ ส่งผลให้รถยนต์ที่เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯจำนวนมากต้องเลี้ยวกลับไปยัง จ.ตราด


ต่อมานายแก่นเพชร ช่วงรังสี ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นำคณะเข้าเจรจากับกลุ่มเกษตรกร ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้จังหวัดเข้ามาแก้ไขราคาผลไม้ตกต่ำโดยตรง แต่การเจรจาไม่ได้ข้อสรุป เกษตรกรไม่พอใจ จึงนำรถยนต์มาปิดถนนสุขุมวิทขาเข้าเมืองตราดอีก 2 เลน พร้อมเทเงาะอีก 1 ตัน ลงบนถนน ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด สั่งการให้ พ.ต.อ.หงษ์ มัชฌิมา ผกก.สภ.เขาสมิง และ อส.อำเภอเขาสมิง จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย


นางภัทราวดี แซ่เก๊า ตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า เกษตรกรไม่ต้องการเห็นภาครัฐดูแลพ่อค้ามากกว่าเกษตรกร ที่ผ่านมาราคาผลไม้ตกต่ำจำนวนมาก เงาะในอำเภอเขาสมิงมากกว่า 10,000 ตัน ยังรอขายให้กับพ่อค้า ถ้าหากได้ราคาต่ำกว่า 10 บาท เกษตรกรจะอยู่ไม่ได้ จึงขอเรียกร้องให้เข้ามาแก้ปัญหาให้เกษตรกรโดยด่วน
 
#54 ·
บุกจับนายทุนบุกรุกป่าเกาะกูด 3 จุด กว่า 100 ไร่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มิถุนายน 2553 16:40 น.


ตราด - ทหารนาวิกโยธิน ปกครอง และตำรวจประสานจับนายทุนบุกรุกป่าเกาะกูด 3 จุด กว่า 100 ไร่ พบใช้รถแบ็กโฮทำถนนตัดขึ้นเขาปลูกยางพารา แต่จับลูกจ้างมอญ 2 คนเป็นผู้ต้องหา ส่วนนายทุนยังต้องติดตาม

วันนี้ (17 มิ.ย.) นายพรหมกฤต ม่วงมงคล นายอำเภอเกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด น.อ.ธรรมวัฒน์ มาลัยสุขริน เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด พร้อมกำลังทหารนาวิกโยธินจำนวน 1 กองร้อย อส.เกาะกูด เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เกาะกูด และ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเดินทางไปยัง อ .เกาะกูด หลังจากได้ทราบว่ามีนายทุน 3 ราย บุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณบ้านคลองเจ้า ป่าแดง และ บริเวณบ้านง่ามโข

ก่อนหน้านี้ น.อ.ธรรมวัฒน์ มาลัยสุขริน ได้ส่งกำลังทหารนาวิกโยธินเดินทางลงพื้นที่ล่วงหน้าไปพร้อมกับ อส.เกาะกูด ในเวลา 08.00 น.แล้ว เพื่อควบคุมพื้นที่การบุกรุก เมื่อเฮลิคอปเตอร์ไปถึงได้ลงจอดที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเกาะกูด แล้วเดินทางไปยังจุดที่ได้มีการควบคุมไว้แล้ว 3 จุด และสำหรับจุดที่ น.อ.ธรรมวัฒน์ และนายอำเภอเกาะกูด เดินทางเข้าไป คือ ที่บริเวณบ้านคลองเจ้า ปรากฏว่า พบแรงงานมอญ 2 คนกำลังแผ้วถางป่าอยู่ จึงได้ควบคุมตัวไว้และตั้งข้อหาบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า และเมื่อมีการตรวจพื้นที่พบว่ามีร่องรอยของต้นไม้ถูกตัด และป่าถูกถางเป็นบริเวณกว้าง

น.อ.ธรรมวัฒน์ กล่าวว่า พื้นที่ที่มีการบุกรุกมี 3 จุด คือ บริเวณป่าบ้านคลองเจ้าที่เป็นต้นน้ำลำธาร บริเวณป่าแดงที่เป็นยอดเขาสูง มีการสร้างถนนขึ้นไปปลูกยางพารา และบริเวณบ้านง่ามโข่มีการบุกรุกตัดต้นไม้จำนวนหนึ่ง โดยมีการดำเนินการมานาน จะเห็นพื้นที่บุกรุกเป็นพื้นที่โลก มีป่าไม้ล้อมรอบด้าน ทั้งนี้ พื้นที่เกาะกูดเป็นพื้นที่ที่ทหารเรือเป็นผู้ดูแลอยู่ อีกทั้งทหารเรือได้รับพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ให้ดูแลปกป้องป่าไม้ต้นน้ำลำธารจำเป็นต้องดูแลเป็นกรณีพิเศษ

นายพรหมกฤต กล่าวว่า พื้นที่ทั้ง 3 จุดจำนวนกว่า 100 ไร่ ที่มีกลุ่มนายทุนบุกรุกเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ใช้วิธีตัดป่าล้างท้อง แล้วจ้างแรงงานชาวมอญเข้าไปแผ้วถางป่า แล้วทำการปลูกต้นยางพารา การจับแรงงานชาวมอญได้จะต้องนำมาสอบสวนเพื่อสืบหาผู้จ้างวาน อย่างไรก็ตามได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าใครเป็นผู้บุกรุก ทั้งนี้ อำเภอเกาะกูดไม่ต้องการเห็นเกาะกูดถูกทำลายเหมือนเกาะอื่นๆ ในประเทศไทย เนื่องจากป่าไม้เกาะกูดยังมีความอุดมสมบูรณ์ และควรจะรักษาไว้คู่กับเกาะกูด

การดำเนินการจับกุมครั้งนี้ รับรู้ว่า มีนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง อาจวิ่งเต้นให้ตนเองย้าย ก็พร้อมที่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เป็นที่น่าสังเกตว่า การดำเนินครั้งนี้ไม่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีหลายคนที่มีความขัดแย้งกับนายอำเภอเกาะกูดอยู่บ่อยครั้ง

อนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินยังได้นำกำลังทหาร จำนวน 1 กองร้อย เข้าสำรวจพื้นที่และเฝ้าระวังพื้นที่ ซึ่งจะได้มีการรายงานผลให้กับทางหน่วยฯ ได้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง

 
#55 ·
นอภ.เกาะกูดไล่ล่านายทุนบุกรุกป่า

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7145 ข่าวสดรายวัน


ตราด - นายพรหมกฤต ม่วงมงคล นายอำเภอเกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด น.อ.ธรรมวัฒน์ มาลัยสุขริน เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด พร้อมกำลังทหารนาวิกโยธินจำนวน 1 กองร้อย, อส.เกาะกูด เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เกาะกูด และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด เดินทางมายังอ.เกาะกูดหลังจากทราบว่ามีนายทุน 3 ราย บุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติบริเวณบ้านคลองเจ้า, ป่าแดง และบริเวณบ้านง่ามโข่ เมื่อเดินทางไปพื้นที่พบแรงงานมอญ 2 คนกำลังแผ้วถางป่า

นายพรหมกฤตกล่าวว่า พื้นที่ที่มีกลุ่มนายทุนบุกรุกเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารใช้วิธีตัดป่าล้างท้องแล้วจ้างแรงงานชาวมอญเข้าไปแผ้วถางป่า แล้วปลูกต้นยางพารา ต้องนำมาสอบสวนเพื่อสืบหาผู้จ้างวาน ทางอำเภอเกาะกูดไม่ต้องการเห็นเกาะกูดถูกทำลายเหมือนเกาะอื่นๆ ในประเทศไทย เนื่องจากป่าไม้เกาะกูดยังมีความอุดมสมบูรณ์ควรจะรักษาไว้คู่กับเกาะกูด และการดำเนินการจับกุมครั้งนี้รับรู้ว่ามีนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง อาจวิ่งเต้นให้ตนเองย้ายก็พร้อมที่จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด

ด้านน.อ.ธรรมวัฒน์กล่าวว่า พื้นที่ที่มีการบุกรุกมี 3 จุด คือ บริเวณป่าบ้านคลองเจ้าที่เป็นต้นน้ำลำธาร บริเวณป่าแดงที่เป็นยอดเขาสูงมีการสร้างถนนขึ้นไปปลูกยางพาราและบริเวณบ้านง่ามโข่มีการบุกรุกตัดต้นไม้จำนวนหนึ่ง การกระทำความผิดดังกล่าวมีกระทำการมานานจะเห็นพื้นที่บุกรุกเป็นพื้นที่โล่งมีป่าไม้ล้อมรอบด้าน ทั้งนี้ พื้นที่เกาะกูดเป็นพื้นที่ที่ทหารเรือเป็นผู้ดูแลอยู่

หน้า 28
 
#56 ·
ส่งออกด่านตราดเฉียด1.2หมื่นล. สินค้าไทยบุกเวียดนาม-หนุนตั้งกรรมการชายแดน

วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4240 ประชาชาติธุรกิจ


"ตราด" ค้าชายแดนรุ่ง การค้าครึ่งปีทะลุ 1.2 หมื่นล้าน ไทยได้ดุลการค้ากว่า 1.1 หมื่นล้าน นำเข้าจิ๊บจ๊อยแค่ 32 ล้าน ด้านหอการค้าตราดดันเปิดด่านการค้าบ่อไร่-พระตะบอง รองรับตลาดขยายตัว กำลังซื้อพุ่งทั้งในฝั่งกัมพูชาและเวียดนาม แนะรัฐจริงจังตั้งคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นร่วมมือพัฒนาการค้า ท่องเที่ยว


นายประวัติ เอนกพูนสินสุข นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การค้าระหว่างไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดตราด ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 53) มีอัตราการขยายตัวดีขึ้น โดยมีมูลค่า 11,692 ล้านบาท เพิ่มจากในระยะเดียวกับปีที่ผ่านมา ร้อยละ 13.84 (10,298 ล้านบาท) แบ่งเป็นมูลค่าการ ส่งออก 11,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.83 (10,271 ล้านบาท)

ส่วนการนำเข้า 32.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.29 (26.6 ล้านบาท) ไทยได้ดุลการค้า 11,627.31 ล้านบาท สินค้า ส่งออกที่สำคัญ 5 อันดับ ได้แก่ น้ำตาลทราย นม อาหารเสริม, ขนมต่าง ๆ, เครื่องดื่ม น้ำอัดลม น้ำหวานต่าง ๆ, รถยนต์นั่งส่วนบุคคล และผงชูรส สินค้านำเข้า ได้แก่ ไม้แปรรูป, กากน้ำตาล, ปลาทะเล, หวาย และอุปกรณ์เครื่องวิทยุโทรคมนาคม

นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดตราด กล่าวว่า ความขัดแย้งของการเมืองไทย หรือความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ในกรณี เขาพระวิหารที่ผ่านมา ไม่มีผลต่อการค้าระหว่างไทย-กัมพูชาทางด้าน จ.ตราด เนื่องจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างเมืองชายแดนด้วยกัน มูลค่าการส่งออกยังเพิ่มขึ้นตลอด เนื่องจากการขนส่งสะดวกทั้งทางบกและทางน้ำ โดยเฉพาะการขนส่งทางเรือที่สามารถขนส่งสินค้าไปถึงเวียดนาม ซึ่งเป็นเส้นทางที่สะดวก เสียภาษีแบบเหมาจ่ายถูกกว่าทางบก

ส่วนทางบกใช้เส้นทางถนนหมายเลข 48 นิยมใช้ขนส่งสินค้าที่เป็นของสด น้ำหนักเบา เพราะระบบการเสียภาษีจะเข้มงวดมากกว่าทางเรือ คาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2553 นี้ การค้าจะเติบโตกว่า 10% หรือประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท (ปี 2552 มีมูลค่า 16,778 ล้านบาท) เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว กัมพูชานิยมใช้สินค้าไทย รวมทั้งตลาด การค้าเชื่อมโยงถึงเวียดนาม

ขณะที่การค้าทางด้านเกาะกงก็มีการขยายตัวต่อเนื่อง เพราะเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร แต่มีปัญหาการค้าชายแดนที่จุดผ่อนปรนด้านอำเภอบ่อไร่-จังหวัดพระตะบอง ซึ่งเปิดให้ทำการค้าได้สัปดาห์ละ 3 วัน คือวันจันทร์, พุธ, ศุกร์ มีปริมาณการค้าไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1 ล้านบาท

ดังนั้นจังหวัดตราดควรพัฒนาเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่ทำการค้าได้ทุกวัน เนื่องจากจังหวัดพระตะบองมีศักยภาพการค้าสูงมาก มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน และยังเป็นเขตติดต่อกับจังหวัดโพธิสัตและบันเตียเมียนเจย

นายประเสริฐกล่าวอีกว่า เมื่อมีการลงนามบันทึกข้อตกลงกับจังหวัดชายแดนของกัมพูชาแล้ว ได้แก่ เกาะกง, พระตะบอง, โพธิสัต, สีหนุวิลล์ ควรมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่น เพื่อร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจทั้งด้านการค้า การท่องเที่ยวร่วมกัน แม้ว่าบางครั้งรัฐบาลต่อรัฐบาลมีความขัดแย้งกัน แต่ท้องถิ่นก็สามารถทำการค้ากันได้ตามปกติ

ด้านนายสุพจน์ เลียดประถม สมาชิก วุฒิสภาจังหวัดตราด กล่าวว่า ในช่วงสิ้นปี งบประมาณ 2553 ปริมาณการค้าน่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 15-20% หรือประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมหลัก 3 ด้าน คือจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดทั้งทางน้ำและทางบก ความสัมพันธ์ทางการค้าที่มีมากว่า 20-30 ปี และวัฒนธรรมการค้าที่เป็นแบบพี่น้อง สะดวกทั้งผู้ขาย-ผู้ซื้อ และการขนส่ง

สำหรับจุดผ่อนปรนทางการค้าที่ อ.บ่อไร่ ควรได้รับการพัฒนาเป็นจุดผ่านแดนทางการค้าเร็วที่สุด เพราะเป็นตลาดการค้าขนาดใหญ่ มีเขตติดต่อกับตราดและจันทบุรีใกล้ที่สุดไม่มีทางออกทะเล 3 จังหวัด คือ พระตะบอง มีประชากรกว่า 1 ล้านคน โพธิสัตและบันเตียเมียนเจย ประชากร 1 ล้านคน แม้แต่เกาะกงทุกวันนี้ทางกัมพูชาทำถนนลาดยางอย่างดีมารอเชื่อมชายแดนแล้ว แต่ทางไทยเหลือระยะทางอีก 1.5 กิโลเมตร ไม่สามารถทำถนนได้ ในฤดูฝนน้ำท่วมถนนใช้ไม่ได้ ทำให้การค้าไม่สะดวก ที่ผ่านมาติดเรื่องความมั่นคง เป็นการเสียโอกาสอย่างยิ่ง ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานระดับรัฐมนตรีจะมอบอำนาจให้ท้องถิ่นดูแล แก้ปัญหาการค้าขายกันเอง โดยจัดตั้งเป็นคณะกรรมการประสานงานชายแดนระดับท้องถิ่น

"ภาพประเทศกัมพูชาจากส่วนกลางดู น่ากลัว แต่คนในท้องถิ่นไม่รู้สึกเช่นนั้น ชาวกัมพูชามีกำลังซื้อสูง ดื่มน้ำเปล่าแอเรียนท์ ขวดละ 10 กว่าบาท ใช้เงินดอลลาร์ ทำธุรกิจลงทุน 2-3 ล้านดอลลาร์ มีที่ดิน มีผลผลิตทางการเกษตรที่จะทำคอนแทร็กต์ฟาร์มมิ่ง ควรมองด้วยความเป็นมิตร มองเป็นตลาดการค้า เพราะเป็นสมาชิกอาเซียนด้วยกัน" นายสุพจน์กล่าว

หน้า 23
 
#57 ·
ไปเกาะช้างมาครั้งแรกพักที่ภูมิยามา หาดไม่ค่อยขาวทรายไม่ค่อยละเอียด แต่สะอาดพอสมควร ถนนหนทางค่อนข้างดีแต่ชันมากๆๆๆ จะไปแต่ล่ะหาดก็ใกลนั่งรดไต่เขาแล้วจะอวก ช่วงที่ไปเป็นหน้าฝนมีตกวันที่สองที่ไปทำให้น้ำแลดูขุ่นๆ เวลาเล่นน้ำไปรู้สึกคันๆ ลองหาข้อมูลดูพบว่าน่าจะเป็นแมงกระพรุน โดยรวมพอใจกันการพักผ่อนที่เกาะนี้ให้7/10 เวลาน้อยไปหน่อยไปไม่ทั่วเกาะเลย โดยรวมแล้วเกาะใหญ่มากมีป่ามีเขาสูงและเป็นแหล่งต้นน้ำให้เกาะ

ฝากไว้ให้ภาพหนึ่งก่อน
 
#59 ·
ไปมาสี่ครั้งแล้ว (แต่แปลกมากยังไม่เคยไปเสม็ด) ถนนชันจริงๆ ตอนขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวช่วงขึ้นเขานี่แทบกรี๊ด อารมณ์แบบกูจะไม่เหลียวหลังเลยยยยยย ชันมากกก
 
#61 ·
ค้าชายแดนตราด-กัมพูชาตั้งเป้าทะลุ2หมื่นล.

วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4279 ประชาชาติธุรกิจ


เศรษฐกิจตราดยังรุ่งหลายสาขา ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ กุ้งขาว ขณะที่การส่งออกเนื้อปูตลาดมะกันหดตัว เจอสองเด้งจากปัญหาบาทแข็ง เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้น ประธานหอฯตราดชี้ อย่ามองข้ามตลาดใกล้เคียง ทั้งกัมพูชา เวียดนาม


สำนักงานคลังจังหวัดตราดรายงานภาวะเศรษฐกิจตราดปี 2553 ว่า การส่งออกค้าชายแดนขยายตัวร้อยละ 16 พืชเกษตรยังขยายตัวดี ผลไม้ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน กุ้ง ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้ของเกษตรกรสวนยางพาราขยายตัวจากการปรับเพิ่มขึ้นทางด้านราคา จากมูลค่า 3,592.39 ล้านบาท เป็น 4,202.91 ล้านบาท ส่งผลดีต่อยอดการขายรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คนโตตาม ส่วนด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมส่งออกปูทะเล ข้าวโพดได้รับผลกระทบจากพิษเงินบาทแข็งและการเมือง

ขณะที่รายงานของด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด สรุปภาวะการค้าชายแดนปี 2553 ในช่วงปีงบประมาณ (ก.ย.2552-ต.ค.53) มีมูลค่า19,602.69 ล้านบาท สูงกว่าปี 2552 ถึงร้อยละ 16.8 ส่งออกมูลค่า 19,545.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.79 นำเข้ามูลค่า 56.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.62 โดยสินค้าส่งออกสำคัญยังคงเป็นน้ำตาลทราย นม อาหารเสริม ขนม เครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน และรถยนต์ ส่วนสินค้านำเข้า ได้แก่ ไม้แปรรูป กากน้ำตาล ปลาทะเล และหวาย

นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ในปี 2554 โอกาสการส่งออกของไทยผ่านจังหวัดตราดจะขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันการขนส่งสินค้าไปพนมเปญ สีหนุวิลล์ และผ่านไปประเทศเวียดนาม จีน สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษเกาะกง มีการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ฮุนไดของเกาหลี ที่ชายแดนเกาะกง จะสามารถส่งออกได้ในปี 2554 การก่อสร้างเขื่อนพลังงานไฟฟ้าของจีน 2 เขื่อน ที่บ้านตะไต ทำให้มีการพัฒนาเมืองรองรับ มีการใช้แรงงานกว่า 1,000 คน มีการสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยจำนวนมาก เพราะอยู่ใกล้และราคาถูก รวมทั้งการขนส่งทางถนนหมายเลข 48 มีความสะดวกรวดเร็ว

"คาดปี 2554 มูลค่าการค้าน่าจะถึง 20,000 ล้านบาท แต่จะขยายตัวไม่มากนัก ประมาณ 10% เพราะปี 2553 ขยายตัวสูงถึง 16% เนื่องจากปี 2552 มีอัตราการขยายตัวต่ำมาก เพียง 2% รวมทั้งต่างประเทศยังมีปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งต่อไป กัมพูชาไม่ใช่ประเทศที่ไทยจะมองข้ามได้ โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนของจีน เกาหลี ญี่ปุ่น หรือสินค้าที่มาจากเวียดนาม มาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งของไทย"

นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า ปีนี้หอการค้าจังหวัดตราดจะทำงานวิจัยวิธีการค้ากับกัมพูชาให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน เพื่อให้นักลงทุนที่สนใจเข้าไปลงทุนในกัมพูชาได้ศึกษา เพื่อทำการค้า การลงทุน ส่วนด้านการท่องเที่ยวนั้นต้องมองประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะหลังวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา กัมพูชาได้ยกเลิกค่าวีซ่าเข้าประเทศ และอยู่ในกัมพูชาได้ 14 วัน

นายสุวิทย์ รอบคอบ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยนรับเบอร์โปรดักส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ราคายางพาราพุ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี และคาดว่าราคาน่าจะดีต่อเนื่อง เพราะปริมาณการใช้ยางธรรมชาติในอุตสาหกรรมรถยนต์จีนและอินเดียมีสูง ขณะที่ผลผลิตยางในประเทศมีไม่เพียงพอ ประกอบกับผลผลิตยางในภาคใต้ลดลงจากภาวะน้ำท่วมและฝนตก ซึ่งตลาดรับซื้อหลักของไทย คือจีนและอินเดีย มีปริมาณยางจากไทยมากถึง 70-80% ที่เหลือเป็นของเวียดนาม อินโดนีเซีย

นายพิพัฒน์ ฤกษ์สหกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมการเกษตร ยางพารา ปาล์มน้ำมันราคายังคงพุ่งสูง เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศ ส่วนกุ้งขาวราคาดีเพราะผลผลิตของประเทศเพื่อนบ้านเสียหาย ส่วนสับปะรดกระป๋องและข้วโพดกระป๋องยอดการสั่งซื้อไม่ลดลง ราคาวัตถุดิบสับปะรด ลูกใหญ่ 6 บาท ข้าวโพดกิโลกรัมละ 5-6 บาท ในบางช่วงมีปัญหาวัตถุดิบไม่พียงพอต้องสั่งซื้อจากต่างจังหวัด ซึ่งในภาคเกษตรจะมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมากในช่วงฤดูกาลผลไม้ สภาอุตสาหกรรมได้เสนอให้จังหวัดช่วยผ่อนปรนการใช้แรงงานต่างด้าว

นายไพสันฑ์ วงษ์บุญ ผู้จัดการ บริษัท กัลฟ์ โครช คแร็บ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตเนื้อปูบรรจุกระป๋องส่งออก เปิดเผยว่า ปริมาณการส่งออกเนื้อปูไปตลาดสหรัฐอเมริกา ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 จากเดือนละ 40 ตู้คอนเทนเนอร์ กระทั่งมีปริมาณต่ำสุดในปีที่ผ่านมา เหลือเพียงเดือนละ 24 ตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของอเมริกาและค่าเงินบาทแข็ง ทำให้ไม่มีออร์เดอร์เข้ามา ทุกวันนี้ บริษัทจะผลิตเก็บสต๊อกไว้เพียง 4-5 ตู้

ทั้งนี้ ได้หันมาเพิ่มโปรดักต์ปลาแช่แข็งส่งออกด้วย เช่น ปลานิล ปลาทับทิม เพราะจะทำให้ตลาดรับซื้อกว้างขึ้น เนื่องจากเป็นอาหารที่มีราคาถูก ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม 2554 นี้ บริษัทจะไปออกบูทที่เมืองบอสตัน

หน้า 24
 
#63 ·
ผู้ว่าฯขึ้นฮ.บินตรวจเกาะกูด-เกาะช้าง พบบุกรุกแผ้วถางปลูกยาง-สั่งสอบบ้านกลางป่า

วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7473 ข่าวสดรายวัน


ตราด - น.ส.เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย น.อ.พิสัย สุขวัน รองผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายทหาร น.อ.กิตติคุณ นาคสุข ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เดินทางไปตรวจพื้นที่ป่าไม้และการบุกรุก ที่อ.เกาะกูด และอ.เกาะช้างหลังพบว่ามีการบุกป่าไม้ใน 2 อำเภอ ขณะเดียวกันก็เป็นการตรวจพื้นที่ป่าไม้ตามปกติ โดยน.ส.เบญจวรรณ กล่าวว่า พบว่ามีการบุกรุกทำลายป่าไม้ในพื้นที่ อ.เกาะกูด อยู่บ้าง แต่มองเห็นไม่ชัดเจนว่ามีการบุกรุกที่ดินมากนัก เนื่องจากเป็นจุดเล็กและป่าไม้รกทึบ จำเป็นต้องส่งให้ในระดับพื้นที่ลงไปตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนพื้นที่อ.เกาะช้าง มีร่องรอยการบุกรุกที่นานแล้ว แม้จะมีจำนวนมากกว่าก็ตาม จะได้ให้นายอำเภอทั้ง 2 อำเภอได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่โดยละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบ้านปลูกอยู่บนเขาในอ.เกาะกูด ทางฝ่ายทหารจับพิกัดไว้แล้วเพื่อตรวจสอบถึงพื้นที่อีกครั้งว่ามีเอกสารสิทธิในที่ดินหรือไม่ หากไม่มีก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้านน.อ.กิตติคุณ กล่าวว่า ทหารนาวิกโยธินมีภารกิจในการช่วยฝ่ายปกครองในการดูแลป่าไม้ใน 2 อำเภอ และในพื้นที่รอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งจ.ตราดและจันทบุรี ที่มีการบุกรุกแผ้วถางเป็นประจำ ในการบินตรวจสอบครั้งนี้พบมีร่องรอยการบุกรุกเกิดขึ้นแต่ตรวจสอบในพื้นอากาศจะไม่ชัดเจน จะต้องลงไปในระดับพื้นที่ ผู้บุกรุกจะใช้วิธีการบุกรุกแผ้วถางแล้วปลูกต้นยางพาราแซมเข้าไป บางครั้งมองในระดับสูงไม่เห็น ต้องตรวจสอบในพื้นที่ แต่หากปล่อยระยะเวลาเนิ่นนานก็จะทำลายได้ยาก ขณะที่ฝ่ายทหารพร้อมดำเนินการป้องกันในเรื่องนี้

หน้า 29

http://www.khaosod.co.th/view_news....nid=TURNeE13PT0=&day=TWpBeE1TMHdOUzB4Tmc9PQ==
 
#64 ·
ค้าชายแดนจ.ตราดฮวบเคนขมรแอนตี้ไทย

วันพุธที่ 13 กรกฏาคม 2011 เวลา 10:18 น.

ค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราดช่วง 8 เดือนปีงบทรุดฮวบเกือบ 1,400 ล้านศุลกากรคลองใหญ่ ชี้สาเหตุหลักจากผลกระทบการขนส่งทางเรือเจอมรสุม ขณะที่การขนส่งสินค้าทางบกเจอผลจากรัฐบาลกัมพูชามีนโยบายต่อต้านสินค้าไทย เปิดช่องสินค้าเวียดนามเสียบแทนที่ มั่นใจรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์"แก้ขัดแย้งได้

นายกฤษฎา อินทชาติ พาณิชย์จังหวัดตราด เปิดเผยถึง มูลค่าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราดช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 2554 (ต.ค.53- พ.ค.54) ว่ามีมูลค่าการค้ารวม 14,999.49 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ ปี 2553 มีมูลค่า 16,371.59 ล้านบาท หรือลดลง 1,372.10 ล้านบาท ในจำนวนนี้แยกเป็นการส่งออกของไทยไปกัมพูชามูลค่า 14,936.42 ล้านบาท ต่ำกว่าปีงบประมาณ 2553 ที่มีการส่งออก 16,327.33 ล้านบาท หรือลดลง 1,390.91 ล้านบาท ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 49.45 ล้านบาท ต่ำกว่าปี 2553 ที่มีมูลค่า 56.60 ล้านบาท

สำหรับสินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทยไปกัมพูชาด้านจังหวัดตราดในช่วงดังกล่าว ได้แก่ น้ำตาลทรายมูลค่า 2,646 ล้านบาท นมและอาหารเสริม 1,172 ล้านบาท และขนมต่าง ๆ 879 ล้านบาท และเครื่องดื่ม น้ำอัดลม และน้ำหวานต่างๆ รวม 554 ล้านบาท และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 514 ล้านบาท ส่วนสินค้านำเข้าของไทยจากกัมพูชา 5 อันดับแรกได้แก่ ไม้แปรรูปมูลค่า 14 ล้านบาท กากน้ำตาล 12 ล้านบาท หอยลายสด 5.7 ล้านบาท ปลาทะเลสด 3.6 ล้านบาท และมะพร้าวผล 3.6 ล้านบาท

"มูลค่าการค้าชายแดนด้านจังหวัดตราดที่ลดลง มีสาเหตุหลักจากเส้นทางการขนส่งทางทะเล มีอุปสรรคในเรื่องมรสุมทำให้คลื่นมีขนาดใหญ่ ทำให้ไม่สะดวกต่อการเดินทาง ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ ก็มีส่วนอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก เพราะจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าใด และทั้งสองฝ่ายก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดี ขณะที่แนวโน้มในอีก 4 เดือนข้างหน้าคาดว่า 1-2 เดือนนี้ยังมีมรสุมอยู่ แต่หลังจากนั้น จะเข้าสู่ปกติ ซึ่งจะทำให้พ่อค้าในกัมพูชา สั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น"

ขณะที่นายประเสริฐ ศิริ อดีตประธานหอการค้า จังหวัดตราด และเจ้าของท่าเรือ กัลปังหา ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่า การค้าชายแดนด้านกัมพูชาในช่วงปลายปี 2553 ถึงต้นปี 2554 มีมูลค่าลดลงราว 500-800 ล้านบาท สาเหตุหลักนอกจากคลื่นลมมรสุม ทำให้การขนส่งสินค้าลำบากแล้ว ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศก็มีส่วนทำให้นักธุรกิจกัมพูชา ชะลอการสั่งซื้อสินค้าจากไทย อีกทั้งรัฐบาลกัมพูชามีนโยบายต่อต้านสินค้าไทย เปิดช่องให้สินค้าเวียดนามเข้ามาตีตลาดสินค้าไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วง 4-5 เดือนนี้ คาดว่าการส่งออกของไทยไปกัมพูชาจะเพิ่มขึ้น เพราะการเมืองไทยชัดเจน และรัฐบาลชุดใหม่ที่จัดตั้งขึ้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา ทำให้มั่นใจว่าการค้าชายแดนกับกัมพูชา ด้านจังหวัดตราดจะดีขึ้นตามลำดับ และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณ 2555 การค้าไทย-กัมพูชาจะทะลุถึง 22,000 ล้านบาท

ด้านนายธีระ สถิตถาวร ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด รักษาการนายด่านฯ กล่าวว่า ตัวเลขการค้าชายแดนที่ลดลงไปบ้างนั้น มีปัญหาจากราคาน้ำตาลในประเทศที่มีความผันผวน และราคาสูงขึ้นทำให้การส่งออกชะงักไประยะหนึ่ง ระหว่างเดือนเมษายน 2554 และมีมูลค่าส่งออกลดลง แต่ระหว่างเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2554 มีมูลค่าส่งออกในแต่ละเดือนมีมูลค่าสูงถึง 1,800 - 1,900 ล้านบาท/ปี ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2553

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,652 14-16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
 
#66 ·
^^ ผมเคยไปเที่ยวครับ ถึงเมืองจะเล็กแต่น่าอยู่ครับ ที่เี่ที่ยวเยอะด้วย ที่เห็นภูเขาไกลๆน่าจะเป็นเกาะช้างป่าวครับ
 
#67 ·
^^แลเห็นโลตัสอยู่ริบๆ ใหญ่เหมือนกันแห่ะสาขาตราด:)
 
#69 ·
กรมเจ้าท่า จัดเวทีแจงโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่ มูลค่า 1.2 พันลบ.พรุ่งนี้

วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2011 เวลา 19:42 น.

(31 ส.ค.) นายพงษ์วรรณ จารุเดชา รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ตามที่กรมเจ้าท่า ได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ยูนิค จำกัด ดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเอนกประสงค์ จังหวัดตราด เพื่อพัฒนาท่าเทียบเรือเพื่อการขนส่งสินค้า ท่องเที่ยว และโดยสารเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนประชาชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการหันมาใช้การขนส่งทางน้ำมากขึ้น ก่อให้เกิดการพัฒนาคมนาคมทางน้ำ สร้างมูลค้าการค้าชายแดนมากยิ่งขึ้น โดยโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่ จะเป็นการก่อสร้างสะพานเท่าเรือยาว 2,058 เมตร พร้อมท่าเรือเอนกประสงค์และท่องเที่ยว ท่าเรือตรวจการณ์ ท่าเรือประมง แนวกันคลื่นยาว 1,000 เมตร รวมทั้งก่อสร้างอาคารโกดังสินค้า อาคารตรวจสินค้า อาคารทหารเรือ รวมถึงโรงอาหารและที่พนักเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ซึ่งมีมูลค่าโครงการถึง 1,295.0 ล้านบาท และใช้เวลานารก่อสร้าง 990 วัน

ทั้งนี้บริษัทผู้รับเหมาได้ลงพื้นที่เตรียมดำเนินโครงการแล้ว ทางกรมเจ้าท่าจึงกำหนดจัดประชุมเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลของโครงการ แผนงานก่อสร้าง มาตรการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและประชาชน ขึ้น ในวันพรุ่งนี้( 1 ก.ย. 54) ระหว่างเวลา 13.00 น. – 15.30 น. ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลคลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมประชุมชี้แจงในวันและเวลาดังกล่าว

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=81772&catid=176&Itemid=524
 
#70 ·
“ผู้ว่าฯ ตราด” ฟื้นสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา นำร่องค้าชายแดนรับเปิดเสรีอาเซียน

โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 22 กันยายน 2554 11:18 น.

5 นโยบายกระชับความสัมพันธ์ไทย - กัมพูชา “ด้านสาธารณสุข-เศรษฐกิจการค้าชายแดนแน่นแฟ้นสุด ” ส่วนความแข็งแกร่งด้านอื่นๆ หลังจากปี'57ตราดเปิดท่าเรือน้ำลึกจะขึ้นแท่นเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญ พร้อมเปิดเส้นทางส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศ ฟื้นการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมประมง รองรับการค้ายุคเปิดเสรีอาเซียน

ตามที่นโยบายของ รัฐบาลต้องการพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกัมพูชา ใน 5 ประเด็นทางด้านความสัมพันธ์ประทศไทย - กัมพูชา คือ ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรม ด้านการท่องเที่ยว และด้านเศรษฐกิจ ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น



เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง


“เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง” ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เผยกับ“ ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์” ถึงนโยบายด้านสาธารณสุขและด้านอนามัย เป็นสิ่งที่เข้ามาเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และสามารถนำมาต่อยอดได้ทันที เนื่องจากช่วงปี 2549 มีการดำเนินการสร้างความร่วมมือกัน ประเทศไทยให้งบประมาณพัฒนาสถานีอนามัย อันดองตึ๊ก ในชุมชนของจังหวัดเกาะก ง ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 6 ล้านบาท โดยให้กระทรวงสาธารณสุข เข้าไปดำเนินโครงการก่อสร้างและพัฒนาสถานีอนามัย อันดองตึ๊ก อาทิ การปรับปรุงอาคารโครงสร้างพื้นฐาน ให้ยา เวชภัณฑ์ และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ สนับสนุนด้านการพัฒนาบุคลากร

ที่ผ่านมาได้ให้ประเทศกัมพูชา คัดเจ้าหน้าที่ที่รู้ภาษาไทยเข้ามาอบรมความรู้ทางการแพทย์และพยาบาลให้เป็นอาสาสมัคร ปฏิบัติหน้าที่ดูแลด้านสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรคติดต่อตามแนวชายแดนทั้งสองประเทศ ให้กับชาวเกาะกง ในประเทศกัมพูชา

รองลงมาเป็นความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่มีการนำเข้าสินค้าประเภทอุปโภค - บริโภคและวัสดุก่อสร้างผ่านจุดผ่านแดนชั่วคราว และจุดผ่านแดนถาวร โดยเป็นการแลกเปลี่ยนกันประเทศไทยนำเข้าสินค้าที่เป็นของป่าที่ผลิตได้เองมาขายในประเทศไทยและเทศกัมพูชาซื้อสินค้าไทยกลับไป โดยมูลค่าการค้าที่นำเข้าและส่งออกไปนั้นต่างกันมาก เพราะจากตัวเลขที่ผ่านด่านศุลกากรคลองใหญ่ปี 2554 ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกของประเทศไทยสร้างรายได้ปีละ 1,600 กว่าล้านบาท ส่วนมูลค่านำเข้าประมาณ63 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้รายได้จากการส่งออกสินค้าของจังหวัดตราดจะมีการเติบโตคิดเป็นมูลค่าที่ 20,000 กว่าล้านบาท

ทั้งนี้แม้ที่ผ่านมามีความกังวลทางด้านปัญหาความมั่นคง และเศรษฐกิจการค้าขายชายแดนกระทบต่อชายแดนจังหวัดตราดนั้น ทว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ที่มีข่าวกระแสการบอยคอตสินค้าไทย แต่ในข้อเท็จจริงมีการใช้สินค้าอุปโภค-บริโภคจากฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง

เส้นทางส่งผลไม้ไปตปท.

ขณะเดียวกันการส่งออกของสินค้าประเภทผลไม้ที่จุดผ่านแดนนี้ยังคงมีการขยายตัวอย่างเนื่อง เนื่องจากเป็นเส้นทางผ่านที่สำคัญเมื่อส่งไปที่ประเทศกัมพูชาแล้วยังต่อไปที่ประเทศอื่นๆอีก ทำให้จุดผ่านแดนตราด ถือว่าเป็นตลาดหลักของการส่งออกผลไม้ต่อไปตลาดต่างประเทศ

ส่วนปํญหาการส่งออกผลไม้ไปกัมพูชาที่ผ่านมา พบปัญหาเรื่องของการเก็บภาษี อาทิ เมื่อประเทศกัมพูชานำเข้ามะม่วงเข้ามาขายในประเทศไทยที่ยังไม่มีการเก็บภาษี 0% และผลไม้บางอย่างมีการเก็บภาษีที่สูงมากซึ่งมีการขอผ่อนปรนอัตราบางส่วนเป็นการภายใน ไม่เรียกเก็บในราคาปรกติ หรือเจ้าหน้าที่ไปเข้มงวดเก็บในบางจุดผ่านชายแดน อาทิ จัดเก็บภาษีในราคาที่สูง ปัญหามะนาวราคาตกต่ำซึ่งในขณะนั้นส่งผลต่อเกษตรกรผู้ปลูกมะนาวไปร้องทุกข์กับกระทรวงพาณิชย์ว่า การที่นำเข้ามะนาวกับสินค้าพื้นบ้านบางประเภทเข้ามา ส่งผลกระทบให้ราคามะนาวตกต่ำทำให้กระทรวงพาณิชย์ออกมาแก้ปัญหาโดยมีการเข้มงวดจัดเก็บอัตราภาษีตามกฏหมาย ในจุดเองเองที่ทำให้เป็นข้อขัดแย้งกันไม่ราบรื่น ต่อมามีการตกลงผ่อนผันให้กันได้มากขึ้น ในฤดูกาลผลไม้มีผลผลิตมาก จากเดิมปิดด่านเร็ว ล่าสุดนั้นมีการพูดคุยผ่อนผันเพื่อขอยืดระยะเวลาปิดด่านในเวลา 4 ทุ่ม

ประมงถ้อยทีถ้อยอาศัย

ส่วนอุตสาหกรรมประมงไทยที่เข้าไปลงทุนในน่านน้ำประเทศกัมพูชา ในปัจจุบันไม่พบปัญหาเพราะ เรื่องของการขัดแย้งประมงในเขตทับซ้อน จากเมื่อก่อนที่มีการล้ำเขตเข้าไปน่านน้ำประเทศกัมพูชาแล้วต้องจ่ายใต้โต๊ะ ปัจจุบันนี้ เรียกว่า สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีการพูดคุยตกลงกันได้ โดยแนวโน้มคาดว่าจะดีขึ้น เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศดีขึ้นทำให้ใการปฏิบัติต่อกันมีความเป็นมิตรกันมากขึ้น

ในจุดที่ทำให้ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดตราดราบรื่นยิ่งขึ้น เพราะความสัมพันธ์ของประชาชนที่ด่านชายแดน บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด กับคนที่เกาะกง ประเทศกัมพูชา มีความเป็นญาติพี่น้องมีเชื้อชาติเดียวกัน และในระดับเจ้าหน้าก็มีถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ขอกันได้ทำให้ไม่มีอุปสรรคมากนัก





ปี'57เปิดท่าเรือน้ำลึก

จุดผ่านแดนชายแดนไทย-กัมพูชาที่จังหวัดตราด เมื่อเทียบกับชายแดนไทย-กัมพูชาในจังหวัดอื่นๆ มีจุดเด่น เพราะเป็นจุดผ่านแดนถาวรเส้นทางจะออกไปประเทศเวียดนามระยะทางใกล้ เส้นทางคมนาคมสะดวก ที่สำคัญการคมนาคมทางเรือเป็นจุดเด่น เส้นทางจันทบุรีขนส่งทางเรือไม่ได้ จุดนี้ทำให้มูลค่าการส่งออกสูง เพราะมีสินค้าที่ส่งไปทางเรือได้

โดยเฉพาะในปี 2557 ประเทศไทยมีท่าเรือของเอกชน ขนส่งสินค้าส่งออกโดยทางเรือ ซึ่งช่วยลดต้นทุนที่ต่ำ ทำให้มีรายได้จากสินค้าจากที่อื่นส่งผ่านแดนจุดนี้ไปที่ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้หลังโครงการสร้างท่าเรือน้ำลึกมูลค่า 1,300 ล้านบาทแล้วเสร็จ เพื่อมารองรับการขนส่งเรือบรรทุกสินค้าขนาด 500 ตัน ซึ่งจะช่วยให้ความสะดวกในการขนส่งได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ที่มีท่าเรือรองรับเรือขนาดเล็กซึ่งบรรทุกสินค้าได้ไม่มาก

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะยกระดับท่าเรือจังหวัดตราดขึ้นมาเป็นท่าเรือระบบโลจิสติกส์ที่สำคัญในการส่งออกไปประเทศต่างๆด้วยเช่นกัน เป็นทางลัดไปประเทศเวียดนาม ประเทศจีนโดยไม่ใช้เวลามากนัก โดยการขนส่งทำให้เรือใหญ่มาขนส่งสินค้าส่งผลต่อต้นทุนที่ต่ำลง อาทิ การขนส่ง น้ำตาลทราย นม อาหารเสริม ขนมขบเคี้ยว ยางรถยนต์ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม ผงชูรส เม็ดพลาสติก รถยนต์นั่งสวนบุคคล น้ำมันหล่อลื่น ของใช้ที่ผลิตจากเมล็ดพลาสติก สินค้าเหล่านี้ติดอันดับการนำเข้า อันดับแรกๆที่ประเทศกัมพูชานำเข้าจากประเทศไทย

ฟื้นการท่องเที่ยว

ทางด้านความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นจะช่วยเสริมศักยภาพ ผลักดันเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยวไทย-กัมพูชาให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากจุดเด่นที่ภาคตะวันออกเป็นเมืองชายทะเล ทำให้สามารถจัดเส้นทางการท่องเที่ยวได้หลากหลายเส้นทาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศเวียดนาม จากเดิมที่การเดินทางต้องผ่านแดนที่จังหวัดมุกดาหาร ปัจจุบันสามารถเดินทางผ่านประเทศไทย-กัมพูชา-เวียดนามเข้ามาเที่ยวโซนตะวันออกของประเทศไทยได้อีกด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวอีกว่า เส้นทางที่มีการเชื่อมต่อไปประเทศเวียดนาม ถือเป็นการเปิดตลาดที่สำคัญเพื่อไปเจาะกำลังซื้อของคนในประเทศเวียดนามที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงรองรับการเปิดเสรีอาเซียนต่อยอดไปที่ประเทศจีนอีกด้วย

แผนรับAEC

ด้านแนวทางเพื่อรองรับการเปิดเสรีในเวทีประชาคมอาเซียนของจังหวัดตราด ที่ผ่านเริ่มตื่นตัวโดยให้ความสำคัญกับการศึกษาให้ความรู้กับความหมายของการค้าขายในอาเซียนให้กับผู้ประกอบการ ทั้งด้านภาษาเพื่อนบ้าน ภาษากัมพูชา เวียดนาม ที่สามารถเสริมศักยภาพการทำการค้าชายแดนมีความสะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดรับแรงงานจากประเทศกัมพูชาเข้ามา เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีพรหมแดนติดกัน การสื่อภาษาติดต่อกันได้ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นกว่าเดิม

“โอกาสอาเซียนของจังหวัดตราด” ในเรื่องของการค้าเอง ในแง่ที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิต แหล่งอาหาร ทางด้านการเกษตร การประมง ดังนั้นในสิ่งเหล่านี้ที่เป็นจุดแข็งจะมีตลาดที่เข้าไปขายได้ง่ายมากขึ้น หรือ การเข้าไปตั้งฐานการผลิตในประเทศการที่มีพื้นที่ใกล้เคียงติดกันนั้นเลย และนำกลับมาเป็นอุตสาหกรรมของประเทศไทย ซึ่งมีหลายทางเลือกให้กับการดำเนินธุรกิจ อุปสรรคอาเซียน ในวันนี้ เมื่อไม่มองว่ามิตรภาพเหล่านี้คือ คู่แข่ง แต่เปลี่ยนภาพว่า ประเทศเพื่อนบ้านเป็นพันธมิตร อาจมีการลงทุนที่ต่างประเทศ และเข้ามาลงทุนในประเทศ ทว่าเมื่อไหร่ที่มองเป็น คู่แข่งจะมีเรื่องอุปสรรค”

สำหรับการตอบรับประคมอาเซียนของจังหวัดตราด ในระดับนักธุรกิจเริ่มมีการตื่นตัวกันมากขึ้น ส่วนในระดับชาวบ้านทั่วไปต้องยอมรับว่า มีการตื่นตัวน้อยมาก เรียกว่า ระดับประเทศเอง ก็มีการตื่นตัวน้อยมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับผลสำรวจกับประชาชนของสปป.ลาว ซึ่งต้องเป็นผลจากระบบการศึกษาไทย ให้ความสำคัญในการเรียนรู้ประเทศอเมริกา และประเทศในยุโรปมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านรอบตัวเราเองอีก

“การเตรียมรับมือในระดับจังหวัด โดยทางสมาคมมิตรภาพไทย - กัมพูชา จังหวัดตราดได้เสนอแนวคิดในการให้การศึกษาความรู้ในประเทศอาเซียนเข้าไปในระบบการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะทางด้านภาษา-ความรู้ความเป็นไปของประเทศเพื่อนบ้านหรือประวัติศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงกับประเทศไทย ซึ่งในจุดนี้มีโครงการให้นักเรียนจากกัมพูชาเข้ามาเรียนในประเทศไทยด้วย นับว่าเป็นการปลูกฝังความเป็นมิตรประเทศต่อกันที่ดี เพราะแม้มีเส้นแบ่งเขตแดนแบ่ง แต่จิรงแล้วก็รวมเป็นชาติทวีปเดียวกัน ในความเป็นจริง ยังมีการทำการค้าขายไปมาหาสู่กัน” “ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด” กล่าว

http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9540000120743
 
#71 ·
เมืองเล็กๆ ไม่วุ่นวายเหมือนบ้านผมเลย จะวุ่นเฉพาะหน้าท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาวครับ ส่วนเกาะช้างสมชื่อครับ ขนาดมองไกลๆ ยังขนาดนี้เลยนะ
 
#72 ·
จัดสปีดโบ๊ท5ลำข้ามเกาะช้าง แก้เผ็ดท่าเรือยึกยักปรับเงื่อนไข บรรเทาผลกระทบนักท่องเที่ยว

น.ท.สมบัติ บุญเกิดพานิช นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่ ผู้ประกอบการเรือเฟอร์รี่ข้ามฝาก 2 แห่ง คือ ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์เฟอร์รี่ และท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยวและรถยนต์ที่จะข้ามไป อ.เกาะช้าง ทั้งการยกเลิกการขึ้นเรือเฟอร์รี่ของรถยนต์ 4 ล้อ และปรับเปลี่ยนวัน-เวลา กลับ ต้องแจ้ง ทำให้ผู้เป็นสมาชิกและนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบนั้น

เพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด และผู้ประกอบการ เรือเร็ว จึงได้ร่วมกันนำเรือเร็วหรือสปีดโบ๊ทมารับส่งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ อ.เกาะช้าง มาเปิดให้บริการ โดยจะใช้ท่าเรืออนุสรณ์สถานฝั่ง อ.แหลมงอบ เป็นที่รับ-ส่ง และฝั่ง อ.เกาะช้าง ใช้ท่าเรือบ้านด่านเก่าเป็นที่รับ-ส่ง ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

การเปิดให้บริการเรือโดยสารข้ามฟากโดยใช้เรือเร็ว หรือเรือสปีดโบ๊ท เป็นการจับมือร่วมทุนกันระหว่างผู้ที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด โดยเฉพาะผู้ที่ เป็นเจ้าของเรือเร็ว ส่วนหนึ่งก็เป็นสมาชิก ที่มีความสามารถในการขับเรือเร็วอยู่แล้วทำให้ ไม่ต้องมีการลงทุนมากนัก ในเบื้องต้นได้เตรียม เรือเร็วไว้คอยบริการ รวมทั้งสิ้น 5 ลำด้วยกัน มีให้เลือกทั้งสองประเภท ทั้ง 15 และ 30 ที่นั่ง อย่างน้อยก็เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ไม่ได้ใช้พาหนะส่วนตัวในการเดินทางและต้องการความสะดวกรวดเร็ว ก็จะมีบริการตลอดทั้งวัน ตามตารางเวลาและในช่วงเวลากลางคืน ก็ยังมีเรือเร็วไว้คอยบริการ

http://www.naewna.com/news.asp?ID=284219
 
#74 ·
“เกาะขาม” เละหลังนักลงทุนสร้างเขื่อนกันคลื่นบุกรุกทะเล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2554 16:18 น.


ตราด - “เกาะขาม” ใน อ.เกาะกูด จ.ตราด เละ หลังนักลงทุนสร้างเขื่อนกันคลื่นบุกรุกทะเล เจ้าท่าตราดฟ้องบุกรุกลำน้ำนาน 1 ปี คดีไม่คืบ อบต.เกาะหมาก ยันถูกต้อง

นายจักรพรรดิ ตะเวทีกุล นายก อบต.เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่มีผู้ประกอบการ, นักท่องเที่ยว และทางจังหวัดได้สอบถามถึงการพัฒนาเกาะขามที่เป็นเกาะหนึ่งใน ต.เกาะหมาก ว่า ทำไมมีการก่อสร้างโรงแรมขึ้น และมีการรุกล้ำทะเลอันเนื่องมาจากการทำเขื่อนกันคลื่นและทำหาดทรายเทียมนั้น ทางผู้ประกอบการได้ขออนุญาตในการดำเนินการที่ถูกต้องในการขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมที่จะทำเป็นแบบบังกะโลพูลวิลล่า (มีสระว่ายน้ำในตัว) โดยจะก่อสร้างไม่เกิน 2 ชั้น ลักษณะเดียวกับโรงแรมโซเนวา ใน ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด ส่วนเรื่องการถมทะเลเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับ อบต.เกาะหมาก เพราะเป็นเรื่องของเจ้าท่าตราด ซึ่งทราบว่ามีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ลงทุนแล้ว

“อบต.เกาะหมาก ได้แจ้งให้นายอำเภอเกาะกูด ได้รับทราบไปแล้วในเรื่องการก่อสร้างทราบว่าทางผู้ลงทุนได้ซื้อทรายขาวจาก ต.อ่าวใหญ่ แล้วขนมาลงในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ ส่วนการรุกล้ำทะเลทางเจ้าท่าตราด ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินคดีจาก ตำรวจ สภ.เกาะกูด”

ด้าน นายทรงกลด พึ่งสอนรักษ์ ปลัดฝ่ายปกครองที่ว่าการ อ.เกาะกูด กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว และทาง อบต.เกาะหมาก ที่ทำหนังสือรายงานมาให้ทางอำเภอรับทราบแล้ว แต่ทางอำเภอเกาะกูด ไม่มีอำนาจในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม หากโรงแรมแห่งนี้จะขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ทางอำเภออาจจะไม่ให้ใบอนุญาต เพราะมีการกระทำผิดกฎหมายการก่อสร้างและหากจะดำเนินธุรกิจก็จะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน ส่วนเรื่องที่เจ้าท่าสั่งฟ้องก็ดำเนินการไปตามกฎหมายเจ้าท่าไป

สำหรับการฟ้องร้องดำเนินคดีของเจ้าท่าตราด กระทำในสมัยที่ นายสุรชัย บุรพานนทชัย อดีตเจ้าท่าตราดดำรงตำแหน่ง และได้มอบหมายให้ นายประสงค์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ช่วยเจ้าท่าตราด เป็นผู้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในข้อหาบุกรุกลำน้ำแล้ว โดยการสร้างเขื่อนรอบเกาะแล้วใช้ทรายถม ลงไปเพื่อเพิ่มเติมพื้นที่ มีการก่อปูนบริเวณหาดห่างจากเกาะ 1-1.5 เมตร ซึ่งแจ้งความไปแล้วนานกว่า 1 ปี 6 เดือน แต่เรื่องยังไม่ขึ้นศาล จ.ตราด โดยผู้เป็นเจ้าของ เป็นนักธุรกิจร้านอาหาร ใน จ.ชลบุรี

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000155805
 
#75 ·
เกาะกูดวอนปัญหาเอกสารสิทธิ ผู้ว่าฯตราดชี้เหตุใหญ่-ราคาที่ดินสูงล่อใจ

วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7731 ข่าวสดรายวัน

ตราด - นายวิชิต ไทรทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.เกาะกูด กล่าวถึงปัญหาของอำเภอเกาะกูดนั้นมีปัญหาหลายสาเหตุ ซึ่งปัญหาที่สำคัญคือปัญหาทางด้านพื้นที่ทำกินที่ประชาชนในพื้นที่เกาะกูดในหลายพื้นที่ยังคงไม่มีพื้นที่ทำกินเป็นของตนเอง และปัญหาทางด้านไฟฟ้าตกที่ยังคงมีเป็นบางช่วง และน้ำที่ประชาชนในบางพื้นที่ในช่วงน่าแล้งจะมีปัญหาเป็นอย่างมาก ขอให้ทางจังหวัดเข้าช่วยเหลือ

นายเสมอ เป็ดแก้ว อายุ 76 ปี ชาวบ้าน ม.1 ตำบลเกาะกูด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่ชาวบ้านบนเกาะมีปัญหามากที่สุดนั้นคือ ปัญหาพื้นที่ทำกิน ได้ยื่นหนังสือเพื่อให้เข้าสำรวจและช่วยเหลือ ผ่านมาแล้วจำนวน 3 ครั้งแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน หากเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจแล้ว ชาวบ้านไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำกินได้ก็ยอมที่จะเช่าที่เพื่อประกอบอาชีพ

ด้านนางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ทางจังหวัดโดยทางธนารักษ์จังหวัดก็เร่งรัดในการพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินอยู่ ทยอยออกเอกสารสิทธิไปบ้างแล้วการดำเนินการยังมีปัญหาติดขัดอยู่บ้าง เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ ที่ดินที่ชาวเกาะกูดครอบครองอยู่เป็นที่ดินของตนเองจริงหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ควรจะยอมรับจะได้หาช่องทางอื่นในการเข้ามาครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

"อยากจะให้ชาวเกาะกูดยอมรับว่าที่ดินที่ทำประโยชน์อยู่มันใช่หรือไม่ใช่ของตัวเอง ถ้าไม่ใช่ก็ขอเช่าจากธนารักษ์จะได้ครอบครองอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนที่มีปัญหาไปขายสิทธิ์ให้กับนายทุนไปแล้วก็เป็นเรื่องที่จะต้องแก้ไข ราคาที่ดินที่เป็นสิ่งล่อใจ นำที่ดินที่มีอยู่ไปขายให้กับนายทุนเนื่องจากเห็นว่าราคาที่ดินสูง ที่สุดแล้วก็ไม่มีที่ดิน หันไปบุกรุกที่ดินในป่าเพื่อทำกินอีก ป่าไม้เกาะกูดก็จะหายไปอีก ส่งผลกระทบเหมือนกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในประเทศ"

หน้า 9

http://www.khaosod.co.th/view_news....nid=TURNeE13PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB5T1E9PQ==
 
#76 ·
ครม.อนุมัติกฟภ.ลงทุนเคเบิลใต้น้ำ1.4พันล.

ครม.อนุมัติ กฟภ.ลงทุนโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้าด้วยสายเคเบิลใต้น้ำ เกาะกรูด-เกาะหมาก 1.4 พันล้าน ประเมินผลตอบแทนการเงินติดลบ11.45%
นายภักดีหาญ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบโครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะกูด เกาะหมาก จังหวัดตราด ของโครงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) วงเงินการลงทุน 1,413 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกู้เงินในประเทศ จำนวน 1,059 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินกู้ และใช้รายได้ของ กฟภ. ลงทุนเองจำนวน 354 ล้านบาท

ทั้งนี้ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ของการกู้เงินตามความเหมาะสมและจำเป็น เพื่อการลงทุนโครงการดังกล่าว

แม้ว่าโครงการดังกล่าวจะไม่มีความคุ้มค่าการลงทุน เพราะมีอัตราผลตอบแทนการลงทุนทางการเงิน -11.45% แต่เมื่อพิจารณาถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการประหยัดค่าสูญเสียทางเศรษฐกิจเนื่องจากไฟฟ้าดับ และการลดปัญหาในด้านการปฏิบัติการและการบำรุงรักษาของระบบไฟฟ้า

รวมทั้งโครงการดังกล่าวมีผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ในระดับที่ยอมรับได้ ที่มีอัตราผลตอบแทนการลงทุนทางเศรษฐศาสตร์ 15.64% ประกอบกับสถานะทางการเงินของ กฟภ.สามารถรองรับการลงทุนได้

http://www.bangkokbiznews.com/home/...ครม.อนุมัติกฟภ.ลงทุนเคเบิลใต้น้ำ1.4พันล..html
 
This is an older thread, you may not receive a response, and could be reviving an old thread. Please consider creating a new thread.
Top