SkyscraperCity Forum banner

Nakhon Phanom | The Mekong Province

1M views 4K replies 224 participants last post by  wpreecha 
#1 · (Edited)
ภาพลานกันเกรา หนึ่งในสวนสาธารณะ เขื่อนหน้าเมืองนครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขงครับ
ถ่ายเมื่อ 19/03/51

 
See less See more
1
#282 ·
ชาวนครพนมกว่า 30 รายโวยประปาฯ มั่วค่าน้ำรีดเงินกว่า 2 หมื่น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2552 12:25 น.



นครพนม - ชาวบ้านหนองจันทร์นครพนม 30 ราย ร้องสื่อโวยประปาฯ เลือดเรียกเก็บค่าใช้น้ำกว่า 20,000 บาท จากปกติเคยเสียแค่ 300 บาท ผจก.ประปาฯ โบ้ยความผิดพนักงานจดมิเตอร์วัดน้ำผิด

วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 11.30 น. นางครุธ ประพัฒพงษ์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมด้วย นายสิงห์ ภาคภูมิ อายุ 82 ปี นำเอกสารหลักฐานใบแจ้งเก็บชำระค่าน้ำประปาของสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดนครพนม ประจำเดือนตุลาคม 2552 เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ เนื่องจากยอดการแจ้งเก็บชำระมียอดสูงผิดปกติถึงคนละ 1,5000 บาท จากที่เคยเสียมาไม่เกินเดือนละ 300 บาท โดยได้แจ้งไปยังสำนักงานการประปานครพนม ซึ่งได้แจ้งให้ขอแบ่งยอดผ่อนชำระ แต่ชาวบ้านไม่ยินยอมเนื่องจากเชื่อว่าเป็นความผิดพลาดของสำนักงานประปาฯนครพนม เพราะมีชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันอีกจำนวน 30 ราย ที่มีปัญหาเช่นเดียวกัน มียอดแจ้งเก็บค่าน้ำตั้งแต่ประมาณ 1,000 บาท ถึง 30,000 บาท ทำให้ไม่มีเงินจ่าย แต่เกรงว่าจะถูกตัดน้ำ จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน

นางครุธ หนึ่งในชาวบ้านผู้เดือดร้อนเล่าว่า ตนอาศัยอยู่กับลูก 4 คนในบ้าน ก็ใช้น้ำอาบ ล้างจาน รดต้นไม้นิดหน่อย เป็นเวลาเกือบ 20 ปี เสียค่าน้ำไม่เกิน 300 บาท แต่มาเดือนตุลาคม 52 ตนตกใจมากแทบเป็นลม เห็นใบแจ้งมาเก็บค่าน้ำ เป็นเงิน 10,789 บาท ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะในบ้านใช้น้ำเป็นปกติ จึงได้สอบถามเพื่อนบ้าน ก็พบปัญหาเช่นกันอีกหลายราย แต่ตนไม่มีเงินไปจ่ายแน่นอน เพราะหาเช้ากินค่ำ ในครอบครัวหาเงินได้แค่วันละไม่กี่ร้อยบาท จึงขอความเป็นธรรมให้หน่วยงานมาดูแล เพราะมีเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าหากไม่จ่ายจะตัดน้ำ

ด้าน นายสิงห์ ชาวบ้านที่เดือดร้อนอีกรายกล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจหลังจากเห็นบิลแจ้งค่าน้ำเดือนตุลาคมมียอดสูงถึง 15,468 บาท จากที่เคยเสียไม่เกิน 500 บาทก็ถือว่าใช้มากแล้ว ตนจึงตรวจเช็คตามท่อประปา ก็ไม่พบว่าแตกชำรุด แต่คงเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่แน่นอน จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่มีแจ้งให้ไปชำระ เพราะหากไม่ชำระจะตัดน้ำ แต่ตนไม่มีเงิน และคิดว่าใช้น้ำไม่ถึงแน่นอน ซึ่งหากจะตัดก็จะเลิกใช้ โดยได้นำเรื่องไปแจ้งต่อประปาไว้แล้ว เพราะเพื่อนบ้านอีกหลายคนก็เจอปัญหาอีกหลายคน มียอดชำระค่าน้ำสูงเท่าตัวจากที่เคยจ่าย จึงขอหน่วยงานเกี่ยวข้องมาแก้ไขที

ส่วน นายจรุง ศิลปรายะ ผู้จัดการสำนักงานการประปาฯนครพนม ชี้แจงว่า หลังจากได้มีชาวบ้านร้องเรียนกรณีปัญหาค่าน้ำประปาสูงผิดปกติ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบหาสาเหตุ เบื้องต้นทราบว่า เกิดจากปัญหาที่พนักงานของบริษัท พร้อมวอเตอร์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำสัญญารับจ้างกับการประปาส่วนภูมิภาค ทำหน้าที่จดวัดมิเตอร์ออกบิลแจ้งค่าน้ำ

แต่เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่เกิดปัญหา ไม่ไปจดมิเตอร์วัดน้ำตามจริง
โดยใช้วิธีการสุ่มเอา ทำให้เกิดความผิดพลาด มียอดแจ้งชำระสูงเกินจริง จำนวน 31 ราย สูงสุดมีรายละ 30,000 บาท ขณะนี้การประปาฯ ได้ทำหนังสือแจ้งกับบริษัทดำเนินการแก้ไข รับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น จึงขอแจ้งประชาชนที่เกิดปัญหา ให้นำบิลมาติดต่อเขียนคำร้อง เพื่อจะช่วยเหลือแก้ไข และขอยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการตัดน้ำอย่างแน่นอน

ส่วนยอดเงินที่เป็นปัญหาจะต้องให้บริษัทรับผิดชอบ และดำเนินการแก้ไขโดยด่วน หากไม่ดำเนินการจะต้องใช้วิธีทางกฎหมาย เพราะมีสัญญาจ้างเป็นข้อตกลงอยู่ ที่สำคัญฝากประชาชนผู้ใช้น้ำหากพบยอดแจ้งชำระผิดปกติให้มาติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงาน หรือแจ้งได้ที่โทรศัพท์ 0-4251-1409, 0-4251-3140 และควรหมั่นตรวจสอบบิลแจ้งหนี้ทุกครั้ง

นายจรุงกล่าวอีกว่า จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า การที่รัฐบาลรับภาระค่าน้ำให้กับประชาชนไม่ต้องเสียค่าน้ำ คนละไม่เกิน 30 หน่วย เป็นเงินไม่เกิน 399 บาท ทำให้เจ้าหน้าที่จดมาตรวัด ใช้วิธีการสุ่มตัวเลขไว้ที่สูงสุดไม่เกิน 30 หน่วย โดยไม่ไปจดตามจริง เพื่อให้ง่ายประหยัดเวลาในการทำงาน ทำให้เกิดความผิดพลาดจนเกิดปัญหาดังกล่าวตามมา
 
#283 ·
พลิกฟื้นธุรกิจสหกรณ์ฯอีสาน

พุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 14:48 น. — RD1677: ร่วมด้วยช่วยคลายทุกข์



นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดงานพลิกฟื้นธุรกิจภาคสหกรณ์ไทย ผ่านกลไกการบัญชี ซึ่งจัดที่จังหวัดนครพนมว่า ในช่วงปี 2549-2551 แม้ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจจะผันผวน ส่งผลกระทบให้สถาบันหลายแห่งประสบปัญหา แต่พบว่าสถาบันสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรในภาคอีสานตอนบนประกอบด้วย นครพนม เลย อุดรธานี สกลนคร ขอนแก่น หนองคาย หนองบัวลำภู ซึ่งมีจำนวนสมาชิกและทุนที่เกิดจากธุรกิจรับฝาก-กู้ยืมเงิน จัดหาสินค้ามาจำหน่าย รวบรวมผลผลิต และแปรรูป มีเงินหมุนเวียนจากธุรกิจของสหกรณ์มูลค่าถึง 12,776.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ถึง 3,222.52 ล้านบาท สร้างรายได้รวม 6,916.27 ล้านบาท และสามารถสร้างระบบเงินออมให้สมาชิกได้ 4,961.48 บาทต่อคน

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการสร้างระบบเตือนภัย อีกทั้งให้สหกรณ์เกิดความเข้มแข็ง มีการพัฒนาที่ยังยืน กรมตรวจบัญชีฯ จึง ร่วมกับสถาบันเกษตรกร จัดโครงการ “พลิกฟื้นธุรกิจภาคสหกรณ์ไทย ผ่านกลไกการบัญชี” โดยยึดสถาบันเกษตรกรเป็นศูนย์กลางการให้บริการ พร้อมทั้งใช้มิติการปรับเปลี่ยนทั้งการสร้างโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ เพื่อลดต้นทุนหรือเพิ่มรายได้สร้างโอกาสเข้าถึงการรวมกลุ่ม ทุนดำเนินการ ระบบตลาด (ไตรภาคีตลาดสินค้า) ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนากระบวนการรวมกลุ่มของสหกรณ์ภาคการเกษตร มาใช้เป็นแนวทางใน การพลิกฟื้นธุรกิจภาคสหกรณ์ไทยอย่างยั่งยืน

สำหรับสหกรณ์ภาคเกษตรในภาคอีสานตอนบนจากเดิมในปี'49-51 มีจำนวน 453 แห่ง มีสมาชิก 675,637 คน เพิ่มขึ้นเป็น 795,241 คน ทุนดำเนินงาน 9,547.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 1,772.64 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ 23.07 เปอร์เซ็นต์.
 
#285 ·
ขอบคุณมากๆ ครับ

^v^
_/\_
 
#286 ·
ทีโอที นครพนม จัดโครงการ TOT Young club ลดภาวะโลกร้อน

www.ThaiPR.net -- พุธที่ 4 พฤศจิกายน 2009 09:49:09 น.



เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2552 ( เวลา 13-16.00 น. ) ส่วนบริการลูกค้าจังหวัดนครพนม บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้จัดโครงการ TOT Young club ลดภาวะโลกร้อน โรงเรียนที่ 3 ประจำปี 2552 ณ หอประชุมรัตนโกเศศ โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย จ.นครพนม นายพีระพัฒน์ กนิษฐานนท์ ผู้จัดการส่วนบริการลูกค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) โดยส่วนบริการลูกค้าจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดทำโครงการ TOT Young club ลดภาวะโลกร้อน เพื่อสร้างสังคมการเรียนรู้ และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และสถานศึกษา กิจกรรมในโครงการประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการรักโลก รักษ์สิ่งแวดล้อม การให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ควบคู่กับความรู้ด้านวิชาการสิ่งแวดล้อม กิจกรรมการเขียนเรียงความ เรื่อง เราจะช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร เพื่อชิงทุนการศึกษา พร้อมนี้ยังมีการประกวดโครงงานเกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย โดยมีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 — 3 เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน
โครงการ TOT Young club ลดภาวะโลกร้อน ของส่วนบริการลูกค้าจังหวัดนครพนม บมจ.ทีโอที ในปี 2552 กำหนดจัดขึ้น 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนธาตุพนม ,โรงเรียนนครพนมวิทยาคม ซึ่งได้ดำเนินโครงการไปแล้ว และ โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย เป็นโรงเรียนสุดท้ายของปีนี้
 
#287 ·
พบรอยเท้าโบราณอุทยานฯภูลังกา
วันศุกร์ ที่ 06 พฤศจิกายน 2552 เวลา 0:00 น





จาก อ.เมืองนครพนม ถึง อุทยานแห่งชาติภูลังกา อยู่บนเส้นทางสายนครพนม-บ้านแพง ทางหลวงสาย 212 ระยะทางประมาณ 92 กิโลเมตร ภูลังกา ถึงอำเภอบ้านแพง เลี้ยวเข้าไปที่ทำการอุทยานฯ อีกประมาณ 4 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 31,250 ไร่ หรือประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะเป็นภูเขาทับซ้อนกัน 3 ลูก ทอดยาวตั้งขนานไปกับลำน้ำโขง เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกหลายแห่ง เช่น น้ำตกตาดขาม น้ำตกตาดโพธิ์ และลำธารใหญ่น้อย หลายสาย เป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ของ ดอกไม้ กล้วยไม้ และพรรณไม้นานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งสมุน ไพรที่หายาก

สำหรับการเดินทางขึ้นสู่ภูลังกา จากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ใกล้น้ำตกตาดโพธิ์ เขตตำบลไผ่ล้อม เป็นเส้นทางเดินเท้าขึ้นภูเขา สองข้างทางเป็นต้นไม้น้อยใหญ่ บางช่วงบางตอนเป็นทางลาดชันเต็มไปด้วยรากไม้ เถาวัลย์ และต้นไม้ใหญ่น้อย หนาแน่น มีจุดชมวิวหลายแห่งที่สวยงาม ยิ่งสูงขึ้นไปก็จะเป็นภูเขาหินทรายสลับซับซ้อนแซมด้วย ดอกไม้ป่า ดอกหญ้า และกล้วยไม้ป่าหลายชนิด เช่น หญ้าจิ้มฟันควายสีขาวและม่วง เหลืองพิสมร ม้าวิ่ง เอื้องบายศรี เขาพระวิหาร และกล้วยไม้สกุลสิงโต ซึ่งมีอยู่ตามทางเดินเลาะริมไปตามไหล่เขา เมื่อเดินถึงบนยอดสุด ก็จะพบ เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ เป็นเจดีย์ที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศเนปาล เมื่อปี พ.ศ. 2543 ตั้งอยู่บนลานหินที่มีลักษณะคล้ายกองข้าว ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของภูลังกา สูงประมาณ 563 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะทั่วไปเป็นลานหินกว้าง สลับด้วยพรรณไม้นานาชนิด มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เป็นจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ขึ้นจากแม่น้ำโขง และทิวเขาใน สปป.ลาว ส่วนด้านตรงข้ามจะมองเห็นผาใจขาด และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่บริเวณบึงโขงหลง ถ้ามาช่วงปลายฝนต้นหนาวก็จะพบดอกไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งสัมผัสความหนาวเย็นบนยอดเขาได้อย่างจับใจ

นายวิเศษศักดิ์ วิเศษโวหาร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ภูลังกา ได้รับแจ้งจากพระสงฆ์ที่ขึ้นไปธุดงค์บนภูลังกา รวมทั้งชาวบ้านที่ขึ้นไปเก็บของป่า พบรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่บนลานหิน บนยอดเขาภูลังกาทางทิศใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่ชาวบ้านเรียกว่า สารคึ (สา-ระ-คึ) พร้อมกันนั้น หัวหน้าอุทยานฯและนายวิชุกร กุหลาบศรี ผอ.ททท.สำนักงานนครพนม พร้อมคณะสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่ ได้ไป สำรวจหาข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2552 และได้ พบรอยเท้าคล้ายรอยเท้ามนุษย์ อยู่บนลานหินทรายแดง จำนวน 8 รอย ขนาดกว้าง 4 นิ้ว ยาว 9 นิ้ว ลักษณะเป็นรอยเท้าย่างเดินจากทางทิศใต้ ไปทางทิศเหนือ จากรอยแรกเป็นรอยเท้าซ้าย ไปถึงรอยที่ 6 สำหรับ รอยที่ 7-8 เป็นรอยเท้าคู่ ไปหยุดเดิน สิ้นสุดอยู่ขอบหน้าผา หันหน้าไปทางทิศเหนือ ซึ่งจะมองเห็นแม่น้ำโขงไหลอ้อมภูลังกา ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น รอยเท้ามนุษย์โบราณ ซึ่งจะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์โบราณคดี และการท่องเที่ยวในอนาคต โดยจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาทำการสำรวจพิสูจน์ในเร็ว ๆ นี้

นายวิชุกร ผอ.ททท.สำนักงานนครพนม ให้สัมภาษณ์ว่า การพบรอยเท้ามนุษย์โบราณในครั้งนี้ อาจจะนับได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งไม่เคยปรากฏพบเห็นมาก่อน และมีความสำคัญต่อการสืบค้นประวัติความเป็นมาของมนุษย์ ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญ และควรที่จะได้มีการอนุรักษ์ไว้ สำหรับในด้านการท่องเที่ยว จังหวัดนครพนมได้พบรอยเท้า ไดโนเสาร์ที่บ้านพนอม อำเภอท่าอุเทน ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางไดโนเสาร์ จากภูเวียง จังหวัดขอนแก่น และภูกุ้มข้าว จังหวัดกาฬสินธุ์ การพบรอยเท้ามนุษย์โบราณ จึงสามารถเชื่อมต่อเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยว ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้แหล่ง ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญของโลกที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา ในจังหวัดนครพนม

นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปพักแรม เพื่อสัมผัสความสวยงามตามธรรมชาติ ภูมิอากาศที่หนาวเย็น ความประทับใจ ความศรัทธาของพุทธศาสนิก ชน และขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ สามารถติด ต่อที่พักและการเดินทางได้ที่อุทยานแห่งชาติ ภูลังกา 0-4224-4175 08-3348-2549 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ททท. สำนักงานนครพนม 0-4251-3490-2

 
#288 ·
'บิ๊กจิ๋ว'ลั่นต้องการสร้างความสมานฉันท์

จันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 11:47 น. — INN

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พบปะชาวนครพนม แจงเหตุผลที่กลับมาทำงานการเมือง เพราะต้องการสร้างความสมานฉันท์ พร้อมมอบเงินกว่า 2 แสนบาท ให้กับกลุ่มต่างๆ

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ลงพื้นที่ จ.นครพนม พบปะชาวบ้าน ซึ่งได้ชี้แจงถึงการกลับมาทำงานการเมืองอีกครั้ง มีชาวบ้าน กว่า 500 คน มาร่วมรับฟัง พร้อม ส.ส. ในพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ในโอกาสนี้ พล.อ.ชวลิต ยังได้มอบเงินจำนวน 250,000 บาท ให้กับกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.นครพนม ที่ ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลาง จ.นครพนม ซึ่งตนยอมรับว่า ก้าวแรกที่ต้องการกลับมาทำงานการเมือง เพื่อสร้างสมานฉันท์ให้กับประเทศไทย โดยต้องตอบคำถามว่า ที่มาของปัญหานั้นมาจากไหน
 
#289 ·
“บิ๊กจิ๋ว” เมินเสียงค้านลุยพบผู้นำพม่า-มาเลเซีย ด่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นบ้าตัดสัมพันธ์กัมพูชา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤศจิกายน 2552 16:39 น.






นครพนม- “บิ๊กจิ๋ว” เปิดใจที่นครพนม อ้างรับเป็น ปธ.ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ต้องการแก้ 4 ปัญหา โดยเฉพาะปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ย้ำ “นช.ทักษิณ” ยังจงรักภักดีสถาบัน พร้อมยืนยันเดินหน้าพบผู้นำรัฐบาลพม่า-มาเลเซีย ด่าซ้ำรัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังเป็นบ้าที่ตัดความสัมพันธ์รัฐบาลกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 พ.ย.) ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ได้เดินทางมาพบกับประชาชนชาวนครพนมประมาณ 500 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต.และชาวบ้านกลุ่มเสื้อแดง

ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ตนรับหน้าที่ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เพราะต้องการแก้ไขปัญหา 4 เรื่อง เรื่องแรกคือแสดงให้สังคมรับทราบว่าคนเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และรักหวงแหนประเทศชาติ

เรื่องที่สอง คือ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของประชาชน 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อเหลืองที่มีความรักชาติสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกัน เพียงแต่ว่ามีความคิดเห็นยังไม่ตรงกัน

ทั้งนี้ คนกลุ่มเสื้อเหลืองก็มีแต่น้องรักกันทั้งนั้น ซึ่งได้มีการพูดคุยกันในระดับหนึ่งจะสังเกตในช่วงหลังความร้อนแรงของกลุ่มเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองจะลดลงไปมาก ส่วนเรื่องที่ 3 คือ ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันรัฐต้องเสียงบประมาณถึง 1 แสนล้านบาท และกำลังพลเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ซึ่งตนมั่นใจแก้ปัญหาได้เพราะประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ข้างตน และรู้ความต้องการของเขาว่าต้องการเช่นไร

ความต้องการของพวกเขานั้นมี 3 ข้อ คือ 1.เขาขออยู่ใต้ร่มพระบารมีในหลวงฯและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ 2.เขาอยากได้สังคมภูมิพุทธคือประชาชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกัน 3.เขาต้องการนครรัฐปัตตานี เขาจะได้มีอำนาจบริหารพัฒนาพื้นที่ของเขาแต่อยู่ภายใต้กฎหมายไทย มันก็เหมือนกับการกระจายอำนาจลงสู่ อบต. อบจ.นั่นเอง ปัญหาภาคใต้นั้นมันเกิดจากภาครัฐนำปัญหาไปหมักหมมจนเกิดแรงต้านจากประชาชน เหมือนกับยุคคอมมิวนิสต์ นี่คือชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องการ

ส่วนประเด็นที่ 4 คือ การขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน การที่ตนไปเยี่ยมผู้นำกัมพูชามีแต่สิ่งดีๆ ที่เราต้องไม่แย่งปืน หาสู่กันความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเป็นสิ่งที่ดี แต่กลับมาบอกว่าตนทรยศชาติ ซึ่งตนจะเดินทางไปพบกับผู้นำพม่า มาเลเซีย และอีกหลายประเทศแน่นอน แต่การที่รัฐบาลไทยตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชานั้น ตนถือว่ารัฐบาลกำลังเป็นบ้า อีกหน่อย พ.ต.ท.ทักษิณไปประเทศไหนรัฐบาลไทยก็ตัดสัมพันธ์กับประเทศนั้นใช่หรือไม่
 
#290 ·
ชาวบ้านร้องค้านแบ่งเขตเทศบาลตำบลน้ำก่ำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 พฤศจิกายน 2552 14:09 น.



นครพนม-ชาวบ้านตำบลน้ำก่ำจังหวัดนครพนม 11 หมู่บ้านบุกศาลากลางจังหวัดยื่นหนังสือคัดค้านการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งเทศบาลตำบลน้ำก่ำ จี้ อบต.จัดเวทีประชาพิจารณ์ให้ชาวบ้านแสดงความคิดเห็นหลังงุบงิบแบ่งเขต

วันนี้(11 พ.ย.)เวลา 09.00 น. ที่ศาลกลางจังหวัดนครพนม นายสุภาพ วันดี อดีตกำนันตำบลน้ำก่ำอำเภอธาตุพนมจังหวัดนครพนม พร้อมชาวบ้านในตำบลน้ำก่ำจำนวน 11 หมู่บ้าน ได้รวมตัวยื่นหนังสือต่อจังหวัดและ กกต.จังหวัด เพื่อคัดค้านการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งเทศบาลตำบลน้ำก่ำ โดยมีนายธำรงศักดิ์ โพธิสูง ป้องกันจังหวัดนครพนมเป็นตัวแทนจังหวัดรับหนังสือซึ่งเป็นที่พอใจของชาวบ้านก็จะเดินางกลับ

โดยนายสุภาพ วันดี แกนนำคัดค้านกล่าวว่าการร้องคัดค้านครั้งนี้สืบเนื่องจาก อบต.น้ำก่ำได้ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลและได้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งออกมาเป็น 2 เขต แต่การดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งของ อบต.น้ำก่ำนั้นไม่โปร่งใสทำโดยไม่มีการจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นถึงความต้องการจากชาวบ้านว่าต้องการเช่นไร เมื่อ อบต.แบ่งเขตเสร็จก็นำเสนอต่ออำเภอจังหวัดเพื่อรอประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ

จึงทำให้ชาวบ้านทั้ง 11 หมู่บ้านไม่พอใจรวมตัวออกมาคัดค้านครั้งนี้ตามสิทธิ์รัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้สามารถยื่นคัดค้านได้ก่อนที่จะประกาศใช้ โดยความต้องการของชาวบ้านนั้นต้องการให้ อบต.น้ำก่ำจัดเวทีประชาพิจารณ์ให้ชาวบ้านได้แสดงความคิดเห็นและเห็นชอบใหม่ก่อนที่จะประกาศใช้เพื่อลดความขัดแย้งในชุมชน

 
#291 ·
ผู้ว่าฯ เร่งประสาน รมว.คมนาคมหาเครื่องบินลงสกลนคร-นครพนม

หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- 23 ชั่วโมง 51 นาทีที่แล้ว

ผู้ว่าฯ สกลนคร เร่งประสานงานอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นการด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาสายการบินพีบีแอร์หยุดบินมานาน 2 สัปดาห์ ส่งผลกระทบถึง 3 จังหวัด คือสกลนคร นครพนม มุกดาหาร ทั้งด้านเศรษฐกิจ ท่อง
เที่ยว และการค้าเสียหายยับ

สกลนคร/ นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผวจ.สกลนคร กล่าวว่า จากการที่สายการบินได้หยุดการบินมา 2 อาทิตย์แล้วนั้น ได้พูดคุยกับกัปตันพิษณุ เขาก็ได้แจ้งมาว่าตามที่เขาทำสัญญากับสายการบินวันทูโก แต่ว่าหมดสัญญาแล้ว โดยมีปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อน ทางจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังเร่งดำเนินการให้ ทั้งนี้พี่น้องประชาชนต้องลำบาก เพราะจะต้องไปขึ้น
เครื่องไกลถึงอุดรธานี เป็นระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งตนก็ทำหนังสือไปยังกระทรวงคมนาคมซึ่งเกี่ยวข้องให้รีบดำเนินการ โดยให้ใช้สายการบินไทยมาบินแทน ทั้งนี้เราได้ทำหนังสือแจ้งมติที่ประชุมให้ทราบว่ามีการประชุมกับหอการค้า มหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสถานศึกษา หอการค้านครพนม เพื่อหาทางแก้ไข โดยแจ้งสาเหตุไปที่ กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางอากาศที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ โดยขอให้สายการบินใดสายการบินหนึ่งมาบินเป็นประจำ สายการบินใดก็ได้ที่ราคาประหยัด สำหรับสายการบินแอร์เอเชียกำลังมีการศึกษาดูข้อมูลอยู่

ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวอีกว่า สำหรับสายการบินพีบีแอร์ที่ขาดทุนเพราะว่าผู้โดยสารน้อย ซึ่งประคองตัวมานานแล้ว ถ้าหาก ไม่มีสายการบินมาให้ใช้เราก็จะเดือดร้อนเพราะประชาชนจะเดินทางไม่ได้ ไม่ใช่แต่เฉพาะจังหวัดสกลนครเท่านั้น ยังมีนครพนม มุกดาหาร ก็มาใช้บริการกับเราด้วย ตนเชื่อว่าจะต้องมีสายการบินใดสายการบินหนึ่งมาให้บริการแน่นอน แต่ตอนนี้คนไปขึ้นเครื่องที่ อุดร ซึ่งที่ไปขึ้นอุดรเป็นเพราะอะไร ระยะเวลาเดินทางเหมาะสมหรือเปล่า เราก็แจ้งสาเหตุไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่าจะมีการรับพระทานปริญญาบัตรของผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎภาคอีสานที่สกลนคร และจะมีการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ถ้าหากบินมาลงที่อุดรแล้วก็ต้องนั่งรถต่อไปที่จังหวัดสกลนครทำให้ลำบาก

นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทราบข่าวว่าจังหวัดสกลนครจะมีสายการบินต่างจังหวัดเข้าร่วม เขาตกลงกันแล้วว่าการบินไทยจะเข้ามา บินชั่วคราว โดยในช่วงต้นเดือนจะมีสายการบินเข้ามาบินอยู่ด้วย ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจส่วนผู้โดยสารไม่ว่าจะเป็น สกลนคร นครพนม เราก็แจ้งให้ทราบว่า สกลนครกับนครพนม เส้นทางบินเดียวกัน โดยสกลนครมีประชากรอยู่ประมาณล้านกว่าๆ จังหวัดนครพนมมีประชากรประมาณ 5 แสนกว่าคน รวมทั้งมุกดาหาร 3 แสนกว่าคน โดย 3 จังหวัดรวมกันก็ประมาณสองล้านกว่าคน เป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง แล้วธุรกิจก็ไม่แพ้จังหวัดอื่นเนื่องจากสกลนครเป็นเมืองศูนย์กลางของกลุ่มจังหวัด อย่างไรก็ตามยืนยันว่า เราได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่
 
#292 · (Edited)
ความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 3
ประจำเดือนพฤศจิกายน 2552


สรุปผลการก่อสร้าง ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2552

แผนงานประจำเดือน พฤศจิกายน 2552 0.8 %

ผลงานประจำเดือน พฤศจิกายน 2552 0.659 %

แผนงานรวมถึงเดือน พฤศจิกายน 2552 5.589%

ผลงานรวมถึงเดือน พฤศจิกายน 2552 6.66 %

เร็วกว่าแผน (+) 1.071 %











**ขอขอบคุณข้อมูจาก แขวงการทางนครพนม ครับ
 
#293 ·
นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทการบินพีบีแอร์ ซึ่งเปิดทำการบินเส้นทางกรุงเทพฯ-สกลนคร-นครพนม มาโดยตลอด มีประชาชนที่เดินทางด้วยสายการบินดังกล่าวหลายจังหวัด รวมทั้งจากประเทศเพื่อนบ้านใช้บริการวันละ 80-100 คน กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา สายการบินพีบีแอร์ ได้หยุดทำการบินโดยสิ้นเชิง และไม่มีเที่ยวบินมาลงสนามบินสกลนคร-นครพนมอีกเลย ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อสภาพสังคม เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ข้าราชการและประชาชนที่เดินทางไปมาเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่มีการประเมินความเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมา ทางจังหวัดสกลนคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งพยายามที่จะแก้ไข เพื่อให้มีเที่ยวบินลงตามปรกติ ซึ่งจะได้เป็นผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจ

นายสมบัติกล่าวต่อด้วยว่า ที่ผ่านมา มีการประสานงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้งอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศมาโดยตลอด เพื่อขอให้มีเที่ยวบินมาลงที่สกลนคร และนครพนม เนื่องจากที่ผ่านมา หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบอย่างมาก และจากการประสานงานดังกล่าว จนได้รับแจ้งจากอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ ว่า ได้รับการติดต่อประสานงานจากสายการบินนกแอร์ ว่าจะเข้ามาทำการบินแทนบริษัทพีบีแอร์ เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อน ซึ่งขอให้ประชาชนใน จ.สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียงและพี่น้องจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับทราบว่า ทางบริษัทการบินนกแอร์ จะเข้ามาทำการบินตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป ส่วนรายละเอียดว่าจะมีเที่ยวบินมาลงวันละกี่เที่ยว ราคาเท่าใด ต้องรอความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
 
#295 ·
วันนี้อากาศดีครับ

ออกไปเดินเล่น เลยเก็บภาพมาฝาก...







 
Top