SkyscraperCity Forum banner

Khon Kaen | Skyline of the Northeast

12M views 46K replies 749 participants last post by  rawipadnrs 
#1 ·
เอารูปตึกเมืองขอนแก่นมาฝากอ่ะครับ
อันนี้เป็นวิวโดยรวมๆ ของตัวเมืองขอนแก่น บ้านเกิดป๋ม :)
Khonkaen City



ตึกสูงๆเกือบทั้งหมดเป็นโรงแรมทั้งนั้นเลยอ่ะครับ ตึกสีเหลืองตรงกลางชื่อ โรงแรม Charoen Thani Princess
สูงกี่ชั้นก็จำไม่ได้เหมือนกัน แฮะๆ



ส่วนนี่ เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่หรูที่สุดของภาคอีสาน เค้าชื่อ Hotel Sofitel Raja Orchid Khonkaen
( ภาพนี้ถ่ายจากทางด้านหลังของโรงแรมครับ )
- สูง 25 ชั้น ออกแบบเป็นรูปแคน 2 เต้าประกบกัน ( แคนเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของขอนแก่นอ่ะครับ )
-ค่าก่อสร้างประมาณ 2,500 ล้านบาท
-เป็นโรงแรมแห่งแรกในประเทศ ที่มีโรงกลั่นเบียร์สดอยู่ภายใน ชื่อ Kronen Brauhaus
-2ชั้นบนสุด เป็นห้องโรยัลสวีท ประกอบด้วยห้องนอน 5 ห้อง , ลิฟต์ส่วนตัว , ห้องรับแขกพิเศษ ,
ห้องประชุมขนาดมารตรฐาน , ห้องอาหาร , สระว่ายน้ำปรับอุณหภูมิได้ , ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว ,
มีบัตเลอร์ประจำห้อง ปกติห้องนี้จะเอาไว้รับเสด็จฯ หรือไม่ก็ประธานาธิบดีจากต่างประเทศอ่ะครับ



รูปนี้แสกนมาจากโบรชัวร์ของทางโรงแรมงับ เป็นศรีสง่าแก่เมืองขอนแก่นโดยแท้ เหอ เหอ



มาดูอนุสาวรีย์ฟองสบู่กันบ้างดีก่า ตึก Kosa Complex Tower ( 31 ชั้น 1?? เมตร ) นี่ไงครับ
ตอนแรกที่สร้างก็ดีใจมากๆ ว่าขอนแก่นจะมีอาคารระฟ้าที่สูงที่สุดในภาคอีสานแย้ว
แต่ก็ต้องมาสะดุดพิษเศรษฐกิจเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเค้า ( เศร้าเลย )
ผลออกมาก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่หล่ะครับ ( ใครรวยๆมาเทคโอเว่อร์ เอาไปสร้างให้มันแล้วๆทีเถอะครับ
เห็นแล้วบาดลูกกะตาอ่ะ แถมสูงเด่อยู่ตึกเดียวด้วย )



ปล.1 ต้องขอโทษด้วยนะครับที่พิมพ์เป็นแต่ภาษาไทย เพราะผมไม่เก่งอังกฤษอ่ะครับ แฮะๆ :sleepy:
ปล.2 รูปสีจัดไปหน่อยนะครับ เพราะเครื่องแสกนเนอร์ที่บ้านไม่ค่อยดีอ่ะครับ
 
See less See more
5
#2,621 ·

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ได้แสดงปาฐกถานำการประชุมใหญ่เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านและพหุภาคีภาคอีสาน ครั้งที่ 1/ เรื่อง “จากเมืองขอนแก่นอยู่เย็นเป็นสุข สู่ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุขร่วมกัน” เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.45 น. ณ ห้องประชุมจำลอง มุ่งการดี ชั้น 4 อาคารสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โรงพยาบาลขอนแก่น เสนอแนวทางการสร้างความอยู่เย็นเป็นสุขเมืองขอนแก่นเพื่อเป็น “เมืองสวรรค์บนดิน” โดยสนับสุนให้เกิด 5 ส. ที่ดี คือ สัมมาชีพดี คือ การประกอบอาชีพที่ดีมีรายได้มั่นคงในชีวิต สุขภาพดี คือ มีสุขภาพใจ กาย ปัญญาดี สังคมดี คือ มีสังคมที่พอเพียง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน มีสิ่งแวดล้อมดี คือ มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ สิ่งแวดล้อมที่ปราศจากมลพิษ และมีสมองดี คือ มีกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างสติปัญญาในการร่วมพัฒนาท้องถิ่น



นอกจากนั้นราษฎรอาวุโส ยังได้นำเสนอแนวทางขั้นตอนการสร้าง “ขอนแก่นอยู่เย็นเป็นสุข” โดยการมีส่วนร่วมของประชาสังคมขอนแก่น 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) สร้างความฝันร่วมกันที่จะเห็นจังหวัดขอนแก่นอยู่เย็นเป็นสุข 2) มีเวทีจัดทำวิสัยทัศน์และเป้าหมายของการพัฒนาเมืองให้ชัดเจน โดยอาจเริ่มจากการทำแผนที่ความรู้ (Mapping) เพื่อให้รู้ว่าในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นทั้งหมด ใครทำอะไร ที่ไหน ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมขอนแก่น เป็นการสำรวจองค์ความรู้ทรัพยากรด้านต่างๆ ของพื้นที่ อันจะนำมาซึ่งการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนพื้นที่ 3) ส่งเสริมการทำแผนยุทธศาสตร์ชุมชนท้องถิ่นจากกระบวนการมีส่วนร่วมของพหุพาคี อาจจะจัดตั้งสภาผู้นำชุมชน ขึ้นเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนแผนงาน เช่น แผนสร้างเสริมสุขภาพ แผนการแก้ไขปัญหาความยากจน 4) สร้างกระบวนการติดตามและสนับสนุน ให้กำลังใจให้คนทำงานไปตามแผนงานที่ตั้งไว้ และ 5) มีเวทีนโยบายสาธารณะ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมือง อาจจะเป็นเวทีประชุมเดือนละครั้ง เพื่อนำเสนอผลผลการทำงานเข้าสู่วาระ


“เวทีนำเสนอข้อมูลเพื่อทราบความสำเร็จ และร่วมกันแก้ไขปัญหา เป็นกระบวนการที่สำคัญ ติดขัดตรงไหนอาจจะช่วยกันหาข้อมูลด้วยการศึกษาวิจัยและประเมินผลมาช่วยให้การทำงานบรรุลุเป้าหมายง่ายขึ้น ทั้งนี้ต้องระดมภาคประชาชน ภาคธุรกิจมาช่วยคิด ช่วยขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้เราสามารถสร้างขอนแก่นให้เป็นเมืองในฝัน หรือ เมืองสวรรค์บนดินได้ ผมขอเอาใจช่วยเต็มที่ครับ” ศ.นพ.ประเวศ วะสี กล่าวสรุปในที่สุด



ในช่วงของรายการเวทีชาวบ้าน เรื่อง “ภาพชาวขอนแก่นอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันที่อยากเห็น” นั้น” ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มข. (RDI) หนึ่งในผู้ร่วมเวทีเสวนา แสดงความคิดเห็นและตอบข้อซักถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะสถาบันการศึกษาที่สำคัญของขอนแก่น และภาคอีสานว่า “บทบาทของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มีนักวิชาการ คณาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา เกือบ 2,000 คน สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเสริมการดำเนินกิจกรรม ให้คำแนะนำ ตลอดจนร่วมขับเคลื่อนแผนกิจกรรม ของทางเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านและพหุภาคีภาคอีสาน ได้เป็นอย่างดีและผมเชื่อว่าประชากรในมข. พร้อมที่สนับสนุนงานด้านการสร้างองค์ความรู้และข้อมูลในการพัฒนาขอนแก่นร่วมกับภาคีต่างๆ เพื่อให้ขอนแก่นอยู่เย็นเป็นสุข” ผอ. RDIกล่าวในที่สุด




นอกจากนั้น การประชุมครั้งนี้ วิทยากรได้เปิดเผยความสำเร็จที่ทำให้ราษฎรในชุมชน มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์เป็นบ่อเกิดของความสุข และเป็นเหตุให้คนมีอายุยืน รวมถึงแนวทางการจัดหา การทำอาหารปลอดสารเคมีโดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่ถูกสุขลักษณะ มีสารอาหารครบถ้วนและสามารถนำไปเผยแพร่ให้ราษฎรในพื้นที่จัดทำในลักษณะเดียวกันได้อย่างยั่งยืน ซึ่งบรรยากาศการประชุมครั้งนี้เต็มไปด้วยสีสัน ให้เห็นภาพของตลาดชุมชนในยามเช้า เนื่องจากทางผู้จัดงานจัดให้ชาวชุมชนต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่น นำผลผลิตที่เป็นเกษตรปลอดสารพิษ ออกร้านจำหน่ายให้กับผู้เข้าร่วมประชุมด้วย
------------------------------------------------------------

ข่าวปีที่แล้วครับ แต่ผมว่าไม่ถือว่าเก่านะ เพราะการพัฒนาหรือต่อยอดเรื่องแบบนี้ บางทีใช้เวลานับสิบปี แค่ข่าวปีเดียวก็ถือว่าอัพเดทแล้ว :lol:
 
#2,622 ·
ความคืบหน้าโครงการพสส.ในประเด็น ขอนแก่น:เมืองแห่งสุขภาวะ


1. เวที การศึกษาขอนแก่นทศวรรษหน้า จัดในวันวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2552 ณ ห้อง 1509 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีกลุ่มบุคคลผู้เข้าร่วมประชุมโดยประมาณ 100 คน จากบุคคลากรทางการศึกษาทั้งในระดับประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย จากภาคเอกชน และภาครัฐพบว่า ผลจากการระดมความคิดเห็นมีข้อเสนอแนะต่อทิศทางการศึกษาของขอนแก่นในอนาคตว่า การเรียนการสอนควรมีความหลากหลายไม่จำกัดที่ห้องเรียน การศึกษาในระบบจะเล็กลง การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยมากขึ้น รัฐและสังคมควรส่งเสริมการศึกษานอกระบบให้เป็นที่ยอมรับทั้งทางสังคม และตามกฎหมาย ส่วนการศึกษาในระบบควรมีการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นเฉพาะของขอนแก่น เป็นหลักสูตรเชิงบูรณาการในทุกระดับการศึกษาตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงระดับอุดมศึกษาที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งผู้ปกครอง ครู นักเรียน โดยมีการฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรม และควรมีหลักสูตรทางเลือกในโรงเรียน

2. เวที ขอนแก่นกับการจัดการขยะและน้ำเสียเพื่อลดวิกฤตภาวะโลกร้อน จัดในวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2552 ณ ห้องภูพาน โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีผู้เข้าร่วมประชุมโดยประมาณกว่า 100 คน จากหลากหลายหน่วยงานทั้งจากเทศบาล อบต. และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในเวทีนี้ คุณจุลนพ ทองโสภิต รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่นได้ให้ข้อคิดเห็นต่อนโยบายการจัดการขยะของเทศบาลไว้ว่า เทศบาลไม่เน้นการใช้เทคโนโลยีการกำจัดขยะที่ต้องใช้งบประมาณสูง การกำจัดขยะนี้จะให้ทางภาคเอกชนมารับช่วงไปดำเนินการ ส่วนเทศบาลเองจะเน้นการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางเพื่อให้มีขยะหลงเหลือในการกำจัดน้อยที่สุด เช่น ส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะโดยชุมชนเพื่อนำไปขายสร้างรายได้ เป็นต้น ส่วนผลจากการระดมความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมเสวนามีข้อเสนอแนะต่อการจัดการขยะและน้ำเสียในชุมชน แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ

1) การจัดการระดับครัวเรือน ควรมีการจัดประกวดบ้านที่มีการจัดการขยะ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อลดขยะ
2) การจัดการระดับโรงเรียน ควรมีการจัดทำศูนย์วัสดุรีไซเคิล มีกิจกรรมให้นักเรียนเก็บขยะแลกคะแนน
3) การจัดการโดยวัด โดยมีการจัดผ้าป่าขยะ และควรมีการส่งเสริมบทบาทพระสงฆ์ในการบรรยายธรรมเรื่องสิ่งแวดล้อม และ
4) การจัดการภาครัฐ ควรมีการจัดเก็บค่าขยะตามปริมาณขยะที่ทิ้ง เพื่อให้ผู้ทิ้งขยะเป็นผู้รับผิดชอบต่อปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ภาระของรัฐอีกต่อไป

หลังจากเสร็จสิ้น 2 เวทีนี้แล้ว จะมีเวทีเสวนาอีกครั้ง วันที่ 20 กรกฎาคม 2552 ในประเด็น เมืองสีเขียว (Green city) กับการขนส่งและการใช้พลังงาน ที่โรงแรมแก่นอินน์ จ.ขอนแก่น เวทีเสวนาเหล่านี้มีการจัดมาแล้ว 6 เวทีด้วยกันตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 เพื่อให้คนในขอนแก่นได้ร่วมระดมความคิดเห็นพัฒนาเมืองขอนแก่นให้น่าอยู่ในประเด็นต่างๆ เช่น สุขภาพ เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม การศึกษา และอื่น ๆ และยังมีประเด็นที่จะจัดในครั้งถัดไปคือประเด็นเศรษฐกิจพอเพียง นับเป็นกิจกรรมที่สร้างความร่วมมือร่วมใจของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานด้านสถาบันการศึกษา หน่วยงานวิชาการของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับต่าง ๆ ที่จะมาร่วมกันพัฒนาเมืองขอนแก่น ข้อมูลของการระดมความคิดเห็นจากทุกเวทีจะถูกรวบรวมนำไปสังเคราะห์เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอในการทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองขอนแก่นให้น่าอยู่ต่อไป

โดยสามารถติดตามข้อมูลผลการระดมความคิดเห็นของแต่ละเวทีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ถึงปัจจุบันได้ใน www.rdi.kku.ac.th /โครงการพสส./

ขอนแก่นเมืองแห่งความสุข
 
#2,623 ·
แถลงข่าว RDI_Symposium 2009


ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย รองผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
คุณจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารรัฐวิสาหกิจ และ
นางสาวอริสรา ธนูแผลง ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดส่วนงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB)
คุณปกิติศักดิ์ ลิมปิฐาภรณ์ หัวหน้าฝ่ายกิจกรรมพิเศษฝ่ายประสานและบริการ SME. สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
และคณะสื่อมวลชน
โดยมีการรายงานถึงความเป็นมา และวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เนื้อหา รูปแบบการสัมมนา และแนะนำองค์กรร่วมจัดคือ

1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น

2. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

3. มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

4. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

5. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร

6. สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)

7. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

8. สำนักงานสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

9. สถาบันองค์กรพัฒนาชุมชน (อพช.)

10. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)

แนะนำองค์ปาฐก และวิทยากรในงาน นำเสนอรูปแบบการประชาสัมพันธ์ และนิทรรศการ
หลังจากนั้นได้บันทึกเทปคำสัมภาษณ์ เพื่อออกอากาศรายการ "สนามเป้าเล่าข่าว" วันที่ 20 สิงหาคม 2552 เวลา 07.05 น. ทางสถานีโทรทัศน์ ททบ.5

------------------------------------------------------
ตอนนี้เรามี RDI ร่วมวิจัยและพัฒนาขอนแก่นร่วมกับมข.แล้ว เจ๋งมากๆ
 
#2,624 ·
น่าสนใจนะครับเมืองในสวน บ้านเมืองคงจะสวยงามน่าอยู่ ถ้าทำได้จริง
มข.ต้นไม้สีเขียวเยอะดีสบายตา
มข.โชคดีมากที่มีพื้นที่เยอะเห็นว่า8,000ไร่ (พื้นที่ติดกันหมดหรือเปล่าอะ)
เเต่ มอ.ทางภาคใต้ตอนนี้ไม่เหลือพื้นที่เเล้ว อาคารต่างๆก็ขึ้นเอาในระดับตึกสูงเเออัดกันอยุ๋ในพื้นที่เเค่690ไร่เองเห้นว่าต้องตัดต้นไม้กันเลยที่เดียวเพื่อสร้างตึกใหม่ๆ
 
#2,625 ·
^^ ต่อไปกลายเป็นอยู่กลางเมือง ก็จะแบ่งที่ให้เอกชนเช่าเหมือนจุฬาฯ รวยไม่รู้เรื่อง เลยทีนี้
 
#2,626 · (Edited)
มข.ต้นไม้สีเขียวเยอะดีสบายตา
มข.โชคดีมากที่มีพื้นที่เยอะเห็นว่า8,000ไร่ (พื้นที่ติดกันหมดหรือเปล่าอะ)
เเต่ มอ.ทางภาคใต้ตอนนี้ไม่เหลือพื้นที่เเล้ว อาคารต่างๆก็ขึ้นเอาในระดับตึกสูงเเออัดกันอยุ๋ในพื้นที่เเค่690ไร่เองเห้นว่าต้องตัดต้นไม้กันเลยที่เดียวเพื่อสร้างตึกใหม่ๆ
เข้าใจว่าสมัยก่อนต้นไม้ไม่เยอะขนาดนี้ครับ แต่เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้มข. ทำการปลูกต้นไม้เยอะๆ เมื่อครั้งเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต จากนั้น มข. ก็ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดในการรับน้องบางคณะรุ่นพี่จะให้ปลูกต้นไม้คนละ 1 ต้น (ศิษย์มข. ช่วยแก้ด้วยครับ (ถ้าผิด))

เนื้อที่มข.ติดกันหมดครับ และอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นทั้งผืนกินเนื้อที่เป็น 10 ตารางกิโลเมตร รวมทั้งบึงแก่นนครขนาดประมาณ 600 ไร่ ก็อยู่ในเขตเทศบาล เนื้อที่เทศบาลจริงที่สามารถอยู่อาศัยได้จึงมีอยู่น้อยกว่าอาณาเขตของเทศบาลมาก ทำให้จำนวนประชากรในเขตเทศบาลนครขอนแก่นมีน้อย แต่ถ้าดูจากตำบลที่เป็นบริวาณของขอนแก่นแล้ว ตำบลเหล่านั้นจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นทุกปี

จริงๆ แล้วตำแหน่งของมข. เป็นอุปสรรคต่อการขยายเมือง (แต่ถ้าไม่มีมข. ขอนแก่นคงไม่มาถึง ณ จุดนี้ (เอ๊ะยังไง)) หลายคนรวมถึงบุคลากรของมข. ก็อยากให้เฉือนพื้นที่ของมข. ใจแทบขาดเพราะจะได้เอามาพัฒนา (เหมือนจุฬาฯ) ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้จากการบริจาคพื้นที่เพื่อตัดถนนใหม่ ก็คงต้องรอดูอนาคตต่อไปว่ามข. จะดำเนินการอย่างไร

ถนนที่ว่าคือเส้นนี้ครับ ซึ่งมีแผนจะตัดผ่านแถวศรีฐานหลังโรงพยาบาลขอนแก่นราม ทะลุไปถึงม.ภาค และถนนเหล่านาดี





 
#2,627 ·
มข.ต้นไม้สีเขียวเยอะดีสบายตา
มข.โชคดีมากที่มีพื้นที่เยอะเห็นว่า8,000ไร่ (พื้นที่ติดกันหมดหรือเปล่าอะ)
เเต่ มอ.ทางภาคใต้ตอนนี้ไม่เหลือพื้นที่เเล้ว อาคารต่างๆก็ขึ้นเอาในระดับตึกสูงเเออัดกันอยุ๋ในพื้นที่เเค่690ไร่เองเห้นว่าต้องตัดต้นไม้กันเลยที่เดียวเพื่อสร้างตึกใหม่ๆ
มันผิดกัน มอ ถึงที่น้อยแต่วิทยาเขตเยอะกว่า หลากหลาย กว่า สร้างความเจริญทั่วทุกวิทยาเขตที่ตั้ง เป็น การกระจายโอกาสให้ ทุก นศ ทุกท้องที่ มอ คือมหาวิทยาลัยของคนใต้ ไม่ใช่ของจังหวัดใดจังหวัดนั้นจังหวัดเดียว :lol::lol::lol:
 
#2,628 ·
KKC panorama skyline จากชั้น 19 โรงพยาบาลศรีนครินทร์ครับ



ภาพจาก http://forum.khonkaenlink.info/ ครับ

:banana:
 
#2,629 ·
มันผิดกัน มอ ถึงที่น้อยแต่วิทยาเขตเยอะกว่า หลากหลาย กว่า สร้างความเจริญทั่วทุกวิทยาเขตที่ตั้ง เป็น การกระจายโอกาสให้ ทุก นศ ทุกท้องที่ มอ คือมหาวิทยาลัยของคนใต้ ไม่ใช่ของจังหวัดใดจังหวัดนั้นจังหวัดเดียว :lol::lol::lol:
อย่าสร้างประเด็นครับ เดี๋ยวยาวอีก :bash:
 
#2,630 ·
เอาภาพตอนกลางวันมาให้ดูครับ ถ่ายจากที่เดิม ชั้น8 คณะเทคนิคการแพทย์

[/url] Thanks: seo เอเชียประกันภัย[/IMG]




[/url] Thanks: seo เอเชียประกันภัย[/IMG]


[/url] Thanks: seo เอเชียประกันภัย[/IMG]


[/url] Thanks: seo เอเชียประกันภัย[/IMG]
:)

ขออนุญาตท่านเจ้าของภาพ ลองเอาภาพมาต่อนะครับ

ดูๆ แล้ว มันต่อเป็นพาโนราม่าได้

 
#2,631 ·
มันผิดกัน มอ ถึงที่น้อยแต่วิทยาเขตเยอะกว่า หลากหลาย กว่า สร้างความเจริญทั่วทุกวิทยาเขตที่ตั้ง เป็น การกระจายโอกาสให้ ทุก นศ ทุกท้องที่ มอ คือมหาวิทยาลัยของคนใต้ ไม่ใช่ของจังหวัดใดจังหวัดนั้นจังหวัดเดียว :lol::lol::lol:

ผมเห็นด้วยกับคุณ mamui นะครับ มอ.กระจายความสำคัญไปให้วิทยาเขตต่างๆได้ในระดับที่เกือบเ่ท่ากัน ไม่น้อยหน้าที่หาดใหญ่เลย ทั้งปัตตานี ภูเก็ต ก็เด่น ผมเคยไปอยู่มอ.หาดใหญ่มาช่วงนึง(ประมาณ3-4วัน) เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มอ.เป็นมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่เล็ก เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยระดับภาคอย่าง มช. มข. อาจเป็นเพราะอยู่ใกล้เขาคอหงษ์ อารมณ์ประมาณ ม.บูเลย เพียงแต่ที่มอ.ติดเขา ม.บูติดทะเล
ผมอยากให้มข.พัฒนาวิทยาเขตหนองคายให้ยิ่งใหญ่ เหมือนกับที่เคยวางรากฐานให้ม.อุบลได้สำเร็จมาแล้ว และก็เชื่อว่ามข.ก็กำลังทำเช่นนั้นอยู่:)
 
#2,632 ·
มันผิดกัน มอ ถึงที่น้อยแต่วิทยาเขตเยอะกว่า หลากหลาย กว่า สร้างความเจริญทั่วทุกวิทยาเขตที่ตั้ง เป็น การกระจายโอกาสให้ ทุก นศ ทุกท้องที่ มอ คือมหาวิทยาลัยของคนใต้ ไม่ใช่ของจังหวัดใดจังหวัดนั้นจังหวัดเดียว :lol::lol::lol:
ผมไม่แน่ใจว่าคุณรู้ข้อมูลของมข. หรือ มช. หรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ มากแค่ไหนนะครับ แต่ผมเชื่อว่าทุกมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในภูมิภาคต่างก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องที่นั้น ขอนแก่นที่มีวันนี้ได้ก็เพราะมข. และทั้งมช. และมอ. ต่างก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดและภูมิภาค

ผมว่าการวิเคราะห์วิจารณ์แบบขาวหรือดำ โดยที่คุณไม่ได้แสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ จริง เป็นเรื่องที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้นะครับ ผมคงไม่เดือดร้อนอะไรมาก เพราะไม่ใช่ศิษย์เก่ามข. แต่หลายๆ คนในที่นี้ เป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียโดยตรง เค้าอาจจะไม่พอใจก็ได้ เพราะฉะนั้นวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ที่กว่าครับ

คุณเป็นคนรุ่นใหม่ที่กล้าวิเคราะห์วิจารณ์ดีนะครับ ผมชื่นชม แต่ขอให้กล้าในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย ไม่ใช่เฉพาะแต่โลกไซเบอร์ สังคมจะได้รับประโยชน์อีกเยอะครับ
 
#2,633 ·
บังเอิญไปเจอข้อมูลมาครับ เรามาสำรวจกันหน่อยดีไหมว่าเราเป็นคนเชื้อสายไหนในขอนแก่น :lol::lol:

-----------------------------------------------------------------------

การอพยพของประชากรเข้ามาตั้งถิ่นฐานบ้านเมืองอยู่ในเขต จังหวัดขอนแก่น แบ่งเป็นเส้นทางใหญ่ได้สามทางคือ


1.อพยพมาจากแขวงหลวงพระบาง ได้เข้ามาทางจังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเขต อำเภอภูผาม่าน อำเภอชุมแพ และอำเภอสีชมพูสำเนียงภาษาพูดเหมือนกับชาวหลวงพระบางใช้วรรณยุกต์จัตวาเป็น ส่วนใหญ่


2.อพยพมาจากแขวงเวียงจันทน์ เนื่องจากหลีกหนีภัยสงครามและถูกต้อนมาอันเนื่องจากการสงคราม เข้ามาทางจังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภูเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเขต อำเภอภูเวียง อำเภอสีชมพู อำเภอชุมแพ และอำเภอหนองเรือสำเนียงภาษาใช้วรรณยุกต์ตรีเป็นส่วนมาก


3.อพยพมาจากแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อขอมสิ้นอำนาจการปกครองดินแดนที่ราบสูงโคราชแล้วชาวลาวก็ได้เริ่มอพยพ เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นจำนวนมากยิ่งขึ้น โดยมาอยู่ที่เมืองท่งซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ปัจจุบันอยู่ในเขต อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ดแล้วจึงอพยพขึ้นมาตามลำน้ำชี มาตั้งบ้านเรือนเป็นชุมชนกระจายในพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นในเขต อำเภอเมือง ฯ อำเภอน้ำพอง อำเภอบ้านไผ่ อำเภอชนบท อำเภอมัญจาคีรี ฯลฯออกเสียงสำเนียงภาษาใช้วรรณยุกต์โทเป็นส่วนมาก เหมือนสำเนียงพูดของชาวจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ด


นอกจากประชากรดั้งเดิมแล้ว ในเขตเมืองขอนแก่นยังมีชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นชุมชนใหญ่และมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่าง มาก รวมถึงชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม และชาวต่างชาติ ซึ่งย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานในจังหวัดขอนแก่น


ชุมชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น มีทั้งสิ้น 82 ชุมชน แบ่งออกเป็น 4 เขต


ในปัจจุบันแนวโน้มของจำนวนประชากรในเขตเทศบาลนครขอนแก่นมีจำนวนลดลง เนื่องจากการขยายตัวของเขตที่อยู่อาศัยชิดเขตเทศบาลในรูปแบบของหมู่บ้านจัด สรรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างปี พ.ศ. 2546-2549 อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน เขตเมืองขอนแก่น (ในเขตเทศบาลนครรวมถึงพื้นที่ติดกับเขตเทศบาล ซึ่งได้แก่ เทศบาลตำบลศิลา เทศบาลตำบลบ้านเป็ด เทศบาลตำบลเมืองเก่า และเทศบาลตำบลท่าพระ) มีจำนวนประชากรจดทะเบียน รวมถึงประชากรแฝงรวมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและหนาแน่นประมาณ 450,000 คน โดยประมาณ

สถิติล่าสุดเมื่อ ( Tuesday, 26 February 2008 )

------------------------------------------------------------


ผมเพิ่มให้เป็น

4.ชาวกทม/ภาคอื่นในประเทศไทย รวมถึงชาวตะวันตก ที่อพยพเข้ามาอยู่ในเขตอ.เมือง เพื่อศึกษา และทำงาน บ้างก็มีครอบครัวที่นี่ บ้างก็ย้ายมาประจำตำแหน่งถาวรกันทั้งครอบครัว :lol:

และจากข้อมูลในย่อหน้าสุดท้ายน่าจะตอบข้อสงสัยได้ถึงการลดลงของจำนวนประชากรในเขตเทศบาลนครขอนแก่นของหลายๆท่าน และก็ข้อสงสัยของผมเองเช่นกัน :)
 
#2,635 ·
ใจร่มๆครับคุณ YongWon ผมว่าคุณ mamui เค้าไม่มีเจตนาหรอกครับ :)

อ้อลืมบอกไป เนื้อหาข่าวข้างบนมาจากเวบ "พัฒนาขอนแก่น"
http://www.kkp.kku.ac.th:cheers:
ผมใจเย็นครับ ไม่ได้คิดอะไรเกินไปกว่าเขียนจริงๆ เพราะในโลกไซเบอร์เราไม่ได้สื่อสารด้วยเสียง สีหน้า ภาษากาย มีแต่ตัวอักษร เพราะฉะนั้น การใช้ภาษาก็ต้องระวังครับ ไม่งั้นจะเข้าผิด ผมว่าต้องใช้ความใจเย็นในระดับเดียวกับการขับรถเลย เพราะการขับรถไม่ได้สื่อสารด้วยภาษาเหมือนกันเลยเข้าใจผิดง่าย (เหมือนโดนแซงคิว กับโดนปาดหน้ารถครับ) ผมก็เพียงแต่อยากมีส่วนร่วมในสังคมดีขึ้นไม่ว่าในโลกไซเบอร์ หรือโลกแห่งความเป็นจริง
 
#2,636 ·



ดูการจราจรบริเวณเซ็นทรัลแล้วก็บรื๋ออออแทน นี่ขนาดห้างยังไม่คลอด ยังขนาดนี้ ต่อไปเราคงได้ยินคำว่า ไม่ผ่านเซ็นทรัลได้ไหม รถติด เหมือนที่ขับรถแล้วไม่อยากผ่านแฟรี่เล๊ยยยยย :lol::lol:

ส่วนมากคนที่มุ่งหน้าไปอุดร หนองคาย เค้ามักจะเลือกที่จะวิ่งเข้าเส้นมิตรภาพเข้าเมืองแทนเลี่ยงเมือง เพราะมิตรภาพเราวิ่งตรง และถนนกว้างมาก แต่ต่อไปนี้ ทางหลวงคนดีใจ เพราะเลี่ยงเมืองคงขายออกตั้งแต่ปีใหม่นี้เป็นต้นไป :lol:



ติดมาตั่งแต่กลางเมืองเลย





ส๊วยสวยถนนช่วงนี้

จากขอนแก่นลิ้งค์เจ้าเก่าครับ :)
 
#2,637 ·
ศรีจันทร์ ช่วงนี้ เป็นที่เดียวในขอนแก่น ที่ไม่มีสายไฟข้างทาง

จริงๆ
 
#2,638 ·
ผมไม่แน่ใจว่าคุณรู้ข้อมูลของมข. หรือ มช. หรือมหาวิทยาลัยอื่นๆ มากแค่ไหนนะครับ แต่ผมเชื่อว่าทุกมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในภูมิภาคต่างก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องที่นั้น ขอนแก่นที่มีวันนี้ได้ก็เพราะมข. และทั้งมช. และมอ. ต่างก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดและภูมิภาค

ผมว่าการวิเคราะห์วิจารณ์แบบขาวหรือดำ โดยที่คุณไม่ได้แสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ จริง เป็นเรื่องที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้นะครับ ผมคงไม่เดือดร้อนอะไรมาก เพราะไม่ใช่ศิษย์เก่ามข. แต่หลายๆ คนในที่นี้ เป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียโดยตรง เค้าอาจจะไม่พอใจก็ได้ เพราะฉะนั้นวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ที่กว่าครับ

คุณเป็นคนรุ่นใหม่ที่กล้าวิเคราะห์วิจารณ์ดีนะครับ ผมชื่นชม แต่ขอให้กล้าในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย ไม่ใช่เฉพาะแต่โลกไซเบอร์ สังคมจะได้รับประโยชน์อีกเยอะครับ
ขออนุญาติถูกพาดพิงนิหน่อย ผมยอมรับ มข มช และยอมรับมอ บ้านผมเป็นน้องสุดท้องในจำนวน3 มหหาลัยนี้ ถ้าคุณ มาเป็นคนที่นี่ คุณก็ต้องมีใจแบบนี้ มอ เป็นมหาลัย ที่จัดกิจกรรมน้อยสุดแถบจะไม่มีเลย เช่น กีฬามหาลัย มีจัดได้ครั้งเดียว ที่ มอ ปัตตานีนานเป็น10ๆปีแล้ว แต่เห็นจัดวนอยู่ ม ช มข จุฬา ธม กษ ราม จะว่า ม อ เล็กจนจัดไม่ได้ก็ไม่ใช่ ขนาดมบูรพา ยังได้จัดเลย ทั้งๆเพิ่งตั้งไม่นานมันเหมือน มหาลัยทางนี้ไม่ได้รับการส่งเสริมไงไม่รู้ งบทุกอย่างรู้สึกทุ่มไปทางนู้นมากกว่า คณะเรียนก็มากกว่า คนเลยมีที่เรียน ทางนั้นมากกว่า แล้ว ใครจะมาเรียนก็ ที่เรียนมันน้อย สมัยนายกคนนู้น มอ เคยขอ 800ล้านมาสร้างหอประชุม โดนตัดให้เหลือ300กว่าล้าน ทางนี้จำใจรับมาสร้างถ้าไม่เอาก็อด ถ้าไม่เอาเงินส่วนนี้จะต้องถูกเอาไปให้ ที่ไหน ก็คงรู้ๆนะ ในขณะที่ทางนู้นจะสร้างหอประชุม ได้งบเป็น2000ล้าน แบบนี้เรียกว่ายุติธรรมมั้ย มี รัฐบาลนี้ งบออกมาแล้ว ได้มาเยอะหน่อย แล้วตอนนี้ มอ ก็จะขยายออกไปทางด้านหลัง พอทางนี้ได้งบเยอะ ทางนั้นแหกปากว่า ช่วยพวกเดียวกัน ทั้งๆที่ทางนี้ เสียโอกาสมาเยอะแล้ว กะไม่ให้ทางนี้ เจริญบ้างหรือ ไม่เห็นแก่ตัวไปหรือ
 
#2,639 ·
^^

เหมือนจะไม่ใช่นะครับเพราะทางโน้นได้งบปี 53 แบบถล่มทลายเลยแม้แต่จังหวัดที่แทบจะไม่โดดเด่นอะไรเลยอยู่ฝั่งตะวันออกคนไม่ค่อยพูดถึงกันยังได้ตั้งพันกว่าล้าน ทราบคือเมืองศูนย์กลางของทางโน้นได้งบประมาณปี 53 เยอะเป็นอันดับสองรองจากเมืองหลวงของประเทศไทยหมายถึงงบประมาณแผ่นดินในการบริหารจัดการนะไม่ใช่ไทยเข้มแข็งเพราะคนละเรื่องกันก็อย่างว่าแหละไทยเ้ข้มแข็งก็ได้รองจากเมืองหลวงอีกเห็นมีแต่คนทางนั้นโวยนะทำไมรัฐบาลนี้งบไปลงโน้นไปลงนั่นหมดเลยการเจรจาต่อรองของพรรคร่วมมันเยอะงบเลยไปลงทางนี้เผลอๆไม่อาจจะพลิกผันงบปี 53 อาจจะไปลงทางนี้มากกว่าทางโน้นก็ได้นะเพราะถ้าพรรคร่วมกดปุ่มระเบิดเวลาเมื่อไหร่หลุดตำแหน่งแน่ๆ
 
#2,640 ·
ขออนุญาติถูกพาดพิงนิหน่อย ผมยอมรับ มข มช และยอมรับมอ บ้านผมเป็นน้องสุดท้องในจำนวน3 มหหาลัยนี้ ถ้าคุณ มาเป็นคนที่นี่ คุณก็ต้องมีใจแบบนี้ มอ เป็นมหาลัย ที่จัดกิจกรรมน้อยสุดแถบจะไม่มีเลย เช่น กีฬามหาลัย มีจัดได้ครั้งเดียว ที่ มอ ปัตตานีนานเป็น10ๆปีแล้ว แต่เห็นจัดวนอยู่ ม ช มข จุฬา ธม กษ ราม จะว่า ม อ เล็กจนจัดไม่ได้ก็ไม่ใช่ ขนาดมบูรพา ยังได้จัดเลย ทั้งๆเพิ่งตั้งไม่นานมันเหมือน มหาลัยทางนี้ไม่ได้รับการส่งเสริมไงไม่รู้ งบทุกอย่างรู้สึกทุ่มไปทางนู้นมากกว่า คณะเรียนก็มากกว่า คนเลยมีที่เรียน ทางนั้นมากกว่า แล้ว ใครจะมาเรียนก็ ที่เรียนมันน้อย สมัยนายกคนนู้น มอ เคยขอ 800ล้านมาสร้างหอประชุม โดนตัดให้เหลือ300กว่าล้าน ทางนี้จำใจรับมาสร้างถ้าไม่เอาก็อด ถ้าไม่เอาเงินส่วนนี้จะต้องถูกเอาไปให้ ที่ไหน ก็คงรู้ๆนะ ในขณะที่ทางนู้นจะสร้างหอประชุม ได้งบเป็น2000ล้าน แบบนี้เรียกว่ายุติธรรมมั้ย มี รัฐบาลนี้ งบออกมาแล้ว ได้มาเยอะหน่อย แล้วตอนนี้ มอ ก็จะขยายออกไปทางด้านหลัง พอทางนี้ได้งบเยอะ ทางนั้นแหกปากว่า ช่วยพวกเดียวกัน ทั้งๆที่ทางนี้ เสียโอกาสมาเยอะแล้ว กะไม่ให้ทางนี้ เจริญบ้างหรือ ไม่เห็นแก่ตัวไปหรือ

I do not agree in your logic aa...
Do you have to ask University Dean why they do not wanna be a host of The Ugames, the project proposal should be came from Songkla not Bangkok....
Whose fault??
 
This is an older thread, you may not receive a response, and could be reviving an old thread. Please consider creating a new thread.
Top