SkyscraperCity Forum banner

Nakhon Phanom | The Mekong Province

1M views 4K replies 224 participants last post by  wpreecha 
#1 · (Edited)
ภาพลานกันเกรา หนึ่งในสวนสาธารณะ เขื่อนหน้าเมืองนครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขงครับ
ถ่ายเมื่อ 19/03/51

 
See less See more
1
#397 ·
ที่ภูลังกา อำเภอบ้านแพง (ถ้าจำไม่ผิด) มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า มีวัดรอบภู เยอะมาก ประมาณ 50 วัด

อยากเห็นภาพ จังเลยครับ คิดไม่ออกว่าจะเป็นยังไง วัดตั้งมากมาย อยู่บนภูเขาลูกเดียวกัน
 
#398 ·
นครพนม - ชาวบ้านหนองบัว อำเภอปลาปาก นครพนม แห่กราบไหว้พระพุทธรูปทองคำยุคเชียงแสน อายุราว 2,500 ปี ที่ชาวนาไถโพนดินพบบรรจุอยู่ในไห

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับแต่บ่ายวานนี้ (3 มี.ค.) ที่วัดนารีสีบัวบาน บ้านหนองบัว หมู่ 16 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม ชาวบ้านหลายร้อยคนแห่หลั่งไหลนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชาพระพุทธรูปทองคำพร้อมกับบูชาดินและน้ำมนต์สรงอาบพระพุทธรูปหลังมีการขุดพบพระพุทธรูปหลายองค์บรรจุในไหอยู่ในโพนดินหัวไร่ปลายนาชาวบ้านในหมู่บ้านหนองบัง

นายเพชร เชื้อสายทุม อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 74 ปีชาวบ้านหนองบัว ซึ่งเป็นมัคคถายกวัดเปิดเผยถึงเหตุการณ์พบพระพุทธรูปโบราณครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมาช่วงเวลา 14.00 น.ขณะที่นายตี พรหมลังอายุ 30 ปีชาวบ้านในหมู่บ้านได้นำรถไถไปปรับแปลงนาพร้อมกับไถโพนดินในทุ่งนาของตนเองขณะไถอยู่นั้นได้พบพระพุทธรูปสีเขียวขนาดครึ่งฟุต 2 องค์โผล่ขึ้นมาบนกองดินให้เห็นก่อนที่จะพบไหเก่าอีก 1 ใบบรรจุพระพุทธรูปหลายองค์

โดยพระพุทธรูปที่พบมีจำนวน 8 องค์เป็นพระบุทองคำ 3 องค์ บุเงิน 5 องค์ โดยพระทั้งหมดได้นำมาไว้ที่วัด ตั้งโต๊ะให้ชาวบ้านกราบไหว้ พร้อมกับบูชาดินและน้ำมนต์โดยนำรายได้บำรุงวัด

ด้านนายธนิตศักดิ์ อุ่นตา หัวหน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม กล่าวว่าสำหรับพระพุทธรูปที่พบนั้นจากประสบการณ์ที่ตนได้ศึกษาด้านโบราณคดีและที่มีการพบเห็นพระพุทธรูปในลาว เช่น ถ้ำปลาผา แขวงคำม่วน และที่วัดพระธาตุพนมวรวิหารยุคที่พระธาตุพนมล้มจะพบพระพุทธรูปลักษณะเหมือนกัน

จึงสันนิษฐานได้ว่าน่าจะอยู่ในยุคเชียงแสนและอาณาจักรล้านช้างที่มีการทำพระลักษณะนี้มาบรรจุในวัดพระธาตุพนม หรือวัดเก่าแก่โบราณตามแนวลำน้ำโขงมีอายุราว 2,500 ปี โดยพระพุทธรูปจะไม่ใหญ่มาก ฐานกว้างแล้วจะเรียวแหลมขึ้นบนและเกศพระจะมียอดปลายแหลมทุกองค์ที่คือเอกลักษณะของพระพุทธรูปศิลปะลาวในอดีต

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000030665
 
#399 ·
น้ำโขงเหือดหนักรอบ30ปีเรือข้ามฟากต้นทุนพุ่ง

วันที่ 4 มีนาคม 2553 04:04 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ด่านศุลกากรบึงกาฬ เผยเรือสินค้าไปกลับ2ช.ม.ปกติไม่เกิน45นาทีเหตุต้นทุนพุ่ง หอค้านครพนมเผยระดับน้ำเหลือ0.35เมตร ปกติเกือบ2เมตรเหือดสุดรอบ30ปี

สถานการณ์ภัยแล้งกำลังลามในหลายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมไปถึงปริมาณแม่น้ำโขงปัจจุบันลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ธุรกิจเรือขนส่งสินค้า แพขนานยนต์ทั้งไทย-ลาวได้รับผลกระทบอย่างหนัก

นางสาวสมสุข ขุทกะพันธุ์ ผู้ช่วยนายด่านศุลกากบึงกาฬ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ด่านศุลกากรบึงกาฬ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว โดยการนำเข้า-ส่งออกสินค้าบริเวณนี้จะคมนาคมโดยการใช้เรือและแพขนานยนต์ แต่จากสถานการณ์น้ำแม่น้ำโขงขณะนี้ระดับน้ำลดลงมากประมาณ 20-30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ไม่สะดวกต่อการคมนาคม โดยเฉพาะด้านการขนส่งสินค้า ซึ่งสินค้าที่นำเข้าไทยส่วนใหญ่จะเป็นไม้แปรรูป ส่วนสินค้าส่งออกส่วนมากจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค

หลังน้ำโขงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรือขนส่งสินค้าและผู้โดยสารต้องเพิ่มระยะเวลาในการเดินทางมากขึ้น จากปกติหากเป็นฤดูน้ำหลากการเดินทางไปกลับฝั่งไทย-ลาวใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที แต่ในช่วงหน้าแล้งต้องเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมง เพราะต้องขับเรืออ้อมไกลเพื่อหลีกเลี่ยงจุดที่มีระดับน้ำตื้นเขิน ทำให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารหรือแพขนานยนต์มีต้นทุนค่าขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น

"ในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า หากระดับน้ำโขงยังลดลงเช่นนี้ เชื่อว่าการขนส่งสินค้าทางน้ำคงเลิกไปเลย เพราะแพขนานยนต์จะวิ่งไม่ได้ อาจจะต้องใช้เรือกีบในการขนส่งผู้โดยสารหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดแทน ส่วนจะมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงเกิดขึ้นหรือไม่นั้น เรื่องจากการสร้างสะพานเป็นเรื่องระดับรัฐบาลของสองประเทศ และใช้งบประมาณมหาศาล แต่หากเกิดขึ้นได้ก็จะดี เพราะจะเป็นการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า" นางสาวสมสุข กล่าว

ส่วนที่ จ.นครพนม สภาพแม่น้ำโขงบริเวณด่านศุลกากรนครพนม เขตเทศบาลเมือง จ.นครพนม ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ระดับน้ำก็ลดลงเช่นเดียวกัน แต่เรือใหญ่ยังสามารถวิ่งให้บริการได้ เนื่องจากมีท่าเรือน้ำลึก

นายสถาพร เจาะจง อายุ 45 ปี คนขับเรือโดยสารข้ามฟาก เปิดเผยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงไปมาก แต่เรือใหญ่ยังสามารถวิ่งได้ ต่างไปจากที่บริเวณจุดผ่อนปรน อ.บ้านแพง จ.นครพนม ที่ขณะนี้เรือใหญ่ไม่สามารถวิ่งได้ ต้องใช้เรือกีบในการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคแทน

"ระดับน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ขณะนี้แพที่พักผู้โดยสาร ซึ่งในปกติฤดูน้ำหลากแพจะอยู่กลางน้ำ แต่ขณะนี้แพตั้งอยู่บนดินแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 มุกดาหาร-แขวงคำม่วน ซึ่งอยู่ห่างจากด่านศุลกากรประมาณ 9 กม.เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นช่องทางในการขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวกแทนการขนส่งทางเรือ" นายสถาพร กล่าว

ขณะที่ นายมงคล ตันสุวรรณ ประธานหอการค้า จ.นครพนม ระบุว่า จากการวัดความลึกของน้ำโขงจากตลิ่งพบว่า ความลึกเหลือเพียง 0.35 เมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับ 2 ปีที่แล้วที่มีปริมาณน้ำลึก 0.6-0.8 เมตร จากปกติที่ระดับความลึกจะอยู่ที่ 1.90-2.0 เมตร ซึ่งถือว่าปริมาณน้ำในปัจจุบันแห้งหนักสุดในรอบ 30 ปี

อย่างไรก็ตาม หากมองถึงผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจจากระดับน้ำที่ลดลง ก็จะทำให้เป็นอุปสรรคในการขนถ่ายสินค้าข้ามฟาก โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้างเขื่อนน้ำเทินที่ฝั่งลาว และอาจำให้ต้นทุนการขนส่งและราคาสินค้าอาจจะปรับเพิ่มขึ้น หรือการระวางหรือการบรรจุสินค้าในเรือก็อาจจะน้อยลง

ทั้งนี้หากมองในแง่ของผลกระทบเชิงบวกของระดับน้ำที่ลดลง ก็คือ จะทำให้กระบวนการในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 มีความคล่องตัวมากขึ้น และทำให้คาดการณ์ว่าการก่อสร้างสะพานจะเสร็จเร็วขึ้นสัก 2-3 เดือน จากเดิมกำหนดแล้วเสร็จ วันที่ 11/11/11 (11 พ.ย.54) ก็อาจจะแล้วเสร็จราวเดือน ก.ย.54 ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 30%
 
#400 ·
ความก้าวหน้าการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 3
ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2553

03 มี.ค. 2010 09:24น.

ผลงานประจำเดือน 3.55 %
ผลงานรวม 34.97 %
แผนงานประจำเดือน 3.02 %
แผนงานรวม 15.80 %
เร็ว / ช้า กว่าแผน 19.17 %

ปัญหาอุปสรรคและอื่นๆ
- มีฝนตกในช่วงต้น (ประมาณ 5 วัน) และช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งฝนตกในช่วงต้นเดือนจะมีลมกรรโชกแรง

ความก้าวหน้าของโครงการฯ
- งานฐานรากสะพานในแม่น้ำโขง (Main Bridge) ด้านฝั่งไทย ก่อสร้างแล้วเสร็จครบ 100% (รวม 2 ตับ)
- งานฐานรากสะพานในแม่น้ำโขง (Main Bridge) ด้านฝั่ง ส.ป.ป.ลาว จำนวน 2 ตับ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือน มีนาคม 2553



 
#403 ·
กระทู้นครพนม ตายสนิทครับ...

หลังจากที่แขวงการทางนครพนม หยุดปล่อยภาพ อัพเดทสะพาน

ตอนนี้ผมก็ไม่ได้อยู่นครพนมด้วยสิ

เลยถ่ายรูปมาให้ดูไม่ได้

ใครได้ผ่านไปเยี่ยมยามแถวนั้น ก็ ถ่ายรูปมาให้เบิ่งแหน่เด้อครับ

^v^
 
#405 ·
ทหารพัฒนาฯนครพนม แจกน้ำชาวบ้านแก้ภัยแล้ง

ไทยรัฐออนไลน์ - 25 มีนาคม 2553



เมื่อวันที่ 25 มี.ค. พ.อ.ศุภกร กุดชุมพิสัยประภา ผู้บังคับการหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก จ.นครพนม สำนักงานพัฒนาภาค 2 ระดมกำลังทหารนำรถบรรทุกน้ำอุปโภคบริโภค ออกไปแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ในพื้นที่อ.นาแก เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ระบบน้ำประปาและแหล่งน้ำสาธารณะแห้งขอด ทำให้ระบบประปาไม่สามารถผลิตน้ำส่งไปแจกจ่ายได้ โดยหน่วยทหารพัฒนาได้นำถังน้ำไฟเบอร์กลาสออกไปแจกจ่ายตามหมู่บ้านต่างๆ ที่ประสบปัญหา พร้อมน้ำรถบรรทุกน้ำไปเติมน้ำไว้ใช้แล้ว จำนวน 43,200 ลิตร และมีการแจกจ่ายน้ำดื่มสำเร็จรูปที่ผลิตโดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา

นอกจากนี้ยังมีการระดมรถแบ็กโฮ ออกไปขุดลอกปรับปรุงหนองน้ำและลำห้วย ตามพื้นที่ประสบปัญหา ให้สามารถเก็บกักน้ำได้ตลอดปี เป็นการช่วยเหลือภัยแล้งในระยะยาว ช่วยให้ชาวบ้านสามารถนำน้ำไปใช้ในการเกษตรอีกด้วย

พ.อ.ศุภกร กล่าวว่า สำหรับในปีนี้พื้นที่นครพนม ถือว่าประสบปัญหาภัยแล้งหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนขาดน้ำในการอุปโภคบริโภค ดั้งนั้น หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 ถือเป็นหน่วยงานสำคัญ ที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ โดยให้การช่วยเหลือเป็น 2 ลักษณะคือ ในระยะสั้น มีการนำถังน้ำไฟเบอร์กลาส ขนาดบรรจุ 3,000 ลิตร พร้อมรถบรรทุกน้ำ และน้ำดื่มสำเร็จรูป ออกไปแจกจ่ายช่วยเหลือตามหมู่บ้านประสบภัย ส่วนการช่วยเหลือระยะยาว มีการจัดสรรงบประมาณออกไปพัฒนาขุดลอกหนองน้ำและลำห้วยสำคัญ ให้สามารถกักน้ำได้ตลอดปี รองรับการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรได้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ดำเนินการขุดลอกปรับปรุงแหล่งน้ำในพื้นที่อ.นาแก ทั้งหมด 25 จุด โดยเฉพาะการขุดลอกหนองผีป่าช้า อ.นาแก พื้นที่ประมาณ 293 ไร่ ลึกประมาณ 4 เมตร ทำให้มีน้ำกักเก็บส่งไปพื้นที่การเกษตร จำนวน 5 หมู่บ้าน กว่า 15,000 ไร่ ให้เกษตรกรสามารถทำเกษตรสร้างรายได้ในหน้าแล้ง

ส่วนปี 2553 ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 5 ล้านบาท ทำการขุดลอกหนองน้ำในพื้นที่ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม จำนวน 23 แห่ง และพื้นที่ อ.ปลาปาก อีก 2 แห่ง และยังนำถังน้ำไฟเบอร์กลาสไปแจกจ่ายแล้ว 34 ใบ ที่สำคัญยังได้ทำการสำรวจขุดบ่อน้ำ ให้เกษตรกรที่มีรายได้น้อย เพื่อทำการเกษตรแบบครบวงจร โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าไปส่งเสริมเกี่ยวกับอาชีพเกษตร ปลูกผัก เลี้ยงปลา ให้เกิดอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งโครงการเหล่านี้เชื่อว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี.
 
#406 ·
เอามาฝากพี่น้องชาวอีสานทุกคนคับ ก่อนนอนคับ ไม่รู้ว่าชอบกันไหม.....:):):)

เห็นมี พสมช.ไปฝึกงาน หรือทำงาน หรือเรียนหนังสือ อยู่ต่างที่ต่างแดนกันหลายๆคนคับ ผมเคยฟังแล้วคิดถึงบ้านเราคับ เป็นอะไรที่บ่งบอกอีสานเราดีมากๆคับ

คิดเหมือนกันไหมคับ อิอิอิ

http://radio.sanook.com/music/player/อีสานบ้านเฮา-โฬม-พัชฎะ/117823/

อีกแนวคับ คึกดีคับ ผมชอบอะ....อิอิอิ คิดฮอดดอกจาน...

http://www.naronk.org/uboard/listen.php?&id=T1376
 
#407 ·
จังหวัดนครพนม ร่วมกับ เทศบาลเมืองนครพนม เทศบาลตำบลเรณูนคร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัดงาน “เทศกาลสงกรานต์นครพนม รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว” ประจำปี 2553 วันที่ 12 – 15 เมษายน 2553 ณ บริเวณหน้าตลาดอินโดจีนริมฝั่งแม่น้ำโขง,หาดทรายทองศรีโคตรบูร และอำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม งานบุญที่ยิ่งใหญ่ของชาวอีสานที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ

ปีใหม่ไทยปีนี้ จังหวัดนครพนมจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยการสืบสานประเพณีการเล่นน้ำตามแบบวิถีไทย จัดกิจกรรม “ทอดผ้าป่ามหากุศลเชื่อมโยงสองแผ่นดิน” พระธาตุพนมสู่พระธาตุศรีโคตรบอง สปป.ลาว, กิจกรรม สรงน้ำ, ตบปะทาย (ก่อเจดีย์ทราย) ขอพรพระธาตุประจำวันเกิด ทั้ง 7 แห่งในจังหวัดนครพนม

ช่วงเดือนเมษายน นี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของวิวทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำโขงโดยเฉพาะ “ หาดทรายทองศรีโคตรบูร UNSEEN THAILAND ” ชมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาชายหาด พร้อมชม และร่วมสนุกกับกิจกรรมการก่อสร้างประติมากรรมทราย หลากหลายรูปแบบ ที่สร้างสรรค์ผลงานโดยช่างยอดฝีมือระดับประเทศบนหาดทรายทองศรีโคตรบูร แห่งเดียวในประเทศไทย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นน้ำ ปีนี้เทศบาลเมืองนครพนม จัดเตรียมกิจกรรม “ถนนข้าวปุ้น” ริมแม่น้ำโขงให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำแบบสนุกสนาน พร้อมทั้งยังเปิดให้ชิม “ข้าวปุ้น(ขนมจีน)” ฟรี ...ชมกิจกรรมขบวนแห่สงกรานต์ การแข่งขันสะบ้าทอย กินข้าวพาแลง และการแข่งขันกีฬาพื้นบ้านนานาชาติ ณ บริเวณหาดทรายทองศรีโคตรบูร

อีกหนึ่งความประทับใจที่อยากให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส คือ “สงกรานต์ของชาวเรณูผู้ไทย.. สืบสานความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นแห่งเดียว ที่มีความสวยงาม เริ่มจาก...วันที่ 12 เมษายน 2553 ชมความวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมประเพณี (ฮีต 12 ครอง 14) ของชนเผ่าผู้ไทยที่ถ่ายทอดผ่าน “ถนนวัฒนธรรม” เวลาบ่ายของวันที่ 13 เมษายน 2553 เป็นต้นไป ชมขบวนแห่สงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่สวยงามกว่า 20 ขบวน แต่งกายด้วยชุดผู้ไทย พร้อมใจกันเคลื่อนขบวนตามถนนรอบ ๆ ตัวอำเภอเรณูนคร เฉลิมฉลองการเริ่มต้นสู่ศักราชปีใหม่ ชุมฉ่ำด้วยบรรยากาศของการเล่นน้ำแบบไทย ๆ ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จนกว่าจะถึงเวลาเย็นทุกคนจะไปร่วมกันจัดกิจกรรม อาทิ การประกวดสาวงามผู้ไทย, กิจกรรมรำวงย้อนยุค และร่วมรับประทานอาหารแบบพาข้าวแลง พร้อมชมการแสดงการฟ้อนผู้ไทยที่เป็นการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมแบบพื้นเมืองอย่างหนึ่งของชาวผู้ไทยที่ได้รับการถ่ายทอดกันจากบรรพบุรุษของชาวเผ่าผู้ไทย มาเป็นเวลาช้านาน

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ยังมีการจัดงานนมัสการพระพุทธบาทเวินปลา ณ เกาะกลางน้ำโขง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครพนม ประมาณ 10 กม. รอยพระพุทธบาทดังกล่าว ห่างจากฝั่ง 100 เมตร และห่างจากวัด 150 เมตร นมัสการได้ต่อเมื่อน้ำโขงลดในฤดูแล้ง เดือนมกราคม- พฤษภาคม ของทุกปี ซึ่งชาวบ้านจะร่วมกันสร้างสะพานไม้จากริมตลิ่งทอดยาวไปจนถึงรอยพระพุทธบาทอำนวยความสะดวกแก่ผู้คนที่จะหลั่งไหลไปกราบไหว้บูชา และชมทัศนียภาพสองฝั่งไทย-ลาว

นอกจากนี้ ในช่วงงานเทศกาลสงกรานต์ ยังม่วนซื่นในงานบุญยิ่งใหญ่ของชาวลาวที่เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน การสรงน้ำพระธาตุศรีโคตรบองอันศักดิ์สิทธิ์ ชมขบวนแห่นางสังขาน(นางสงกรานต์) อันยิ่งใหญ่ตระการตา พร้อมสนุกสนามกับการละเล่นสาดน้ำในแบบฉบับลาว

นายวิชุกร กุหลาบศรี ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนครพนม จึงขอเชิญชวนให้เดินทางไปเที่ยวงาน “เทศกาลสงกรานต์นครพนม รื่นรมย์บุญปีใหม่ไทย-ลาว” และสรงน้ำพระธาตุประจำวันเกิดในจังหวัดนครพนม ในช่วง
สงกรานต์ที่จะถึงนี้เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงของ
จังหวัดนครพนม สกลนคร และมุกดาหาร ทึ่งกับภูมิปัญญาชาวบ้านชมการผลิตเครื่องดนตรีอีสานทั้งหมู่บ้านที่นาหว้า ชมกรรมวิธีการผลิตผ้า
ย้อมสีธรรมชาติ ย้อมครามย้อมโคลนที่บ้านพันนา นมัสการพระธาตุเชิงชุม และนมัสการรูปเหมือน “พระอาจารย์มั่น” ชมความยิ่งใหญ่ของวัดสองคอน Unseen Thailand II โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่งดงามได้รับรางวัลจากสมาคมสถาปนิกแห่งเอเชีย โปรแกรมชมเมืองนครพนม ได้แก่ พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัด พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมิตรภาพไทย - เวียดนาม บ้านโฮจิมินห์ วัดนักบุญอันนา หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ปิดท้ายก่อนตะวันลับด้วยโปรแกรมล่องเรือชมสองฝั่งโขง ไทย-ลาว

ก่อนเดินทางนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวได้ที่ ททท. สำนักงานนครพนม โทร 042 513 490 เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. นครพนม
 
#408 ·
ความก้าวหน้าการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 ประจำเดือนมีนาคม 2553

29 มี.ค. 2010 09:49น.

ผลงานประจำเดือน 4.88 %
ผลงานรวม 39.85 %
แผนงานประจำเดือน 4.13 %
แผนงานรวม 19.93 %
เร็ว / ช้า กว่าแผน 19.92 %

ความก้าวหน้าของโครงการฯ
- งาน Column ของสะพานในแม่น้ำโขง (Main Bridge) ฝั่งไทยก่อสร้างแล้วเสร็จ 100 % (รวม 2 ตับ)
- งานฐานราก (Pile Cap) และงาน Column ของสะพานในแม่น้ำโขง (Main Bridge) ฝั่ง ส.ป.ป.ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100 % (รวม 2 ตับ)
- งานฐานราก (Pile Cap) Column และ Crosshead ของสะพานบนบก ฝั่ง ส.ป.ป.ลาว ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100 % (ครบรวม 4 ตับ)
- บริษัทฯ เริ่มงาน Pier Head Segment ฝั่งไทยตับที่ P.3 เป็นตับแรกและทำการเทคอนกรีต ชั้นแรกแล้ว เมื่อ 24 มี.ค. 53 โดยมีการวางแผนเททั้งหมด 3 ชั้น
- บริษัทฯ ทำการวางคาน (Bridge I - Girder) ของสะพานบนบก ทั้งฝั่งไทยและฝั่ง ส.ป.ป.ลาว แล้วเสร็จ 100 % (รวมฝั่งไทย 19 ตับ ลาว 3 ตับ)
 
#411 ·
หน้าร้อน นครพนม ชมหาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์



ถนนสุนทรวิจิตร ริมโขง เหลืองอร่ามไปด้วยดอกคูนที่พากันบานสะพรั่ง รับสงกรานต์ ครับ



หน้าตลาดอินโดจีน นักท่องเที่ยวก็ยังเยอะเหมือนทุกวันครับ



ป้ายประชาสัมพันธ์งานสงกรานต์ นครพนม ถนนข้าวปุ้น ก็เริ่มติดกันทั่วเมืองแล้ว
 
#412 ·


หาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์ หาดทรายกลางแม่น้ำโขงที่สวยที่สุด แห่งหนึ่งในประเทศไทยครับ



 
#415 ·
“ท่าเรือนครพนม” สร้างเสร็จ 5 ปี ร้างประจานผลงาน “บิ๊กจิ๋ว”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 เมษายน 2553 11:29 น.



นครพนม- อนาถ! ท่าเรือน้ำลึกขนส่งสินค้าข้ามโขง ระหว่างนครพนม-แขวงคำม่วน ส.ป.ป.ลาว มูลค่า 113 ล้าน ยุค “พ่อใหญ่จิ๋ว” ผลักดันงบก่อสร้าง จนแล้วเสร็จกลับปล่อยร้างไม่มีการใช้งานมากว่า 5 ปีแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้ถูกตั้งข้อสงสัยเป็นอย่างมากจากประชาชนในจังหวัดนครพนม เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกขนส่งสินค้าระหว่างจังหวัดนครพนมกับแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ส.ป.ป.ลาว) ตั้งอยู่ริมถนนสายนครพนม-ท่าอุเทน เขต ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ตรงข้ามบ้านเวินใต้แขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งก่อสร้างเสร็จมากว่า 5 ปีแล้ว และถูกปล่อยทิ้งร้างไม่ใช้ประโยชน์มากว่า 5 ปีเช่นกัน

ปัจจุบันท่าเรือมีสภาพหญ้าขึ้น อาคารขนาดใหญ่ปล่อยร้างว่างเปล่า ขณะที่แพโดยสารถูกทิ้งอยู่ริมตลิ่งโขงทางลง ด้านผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดไม่ว่ายุคใด ไม่มีใครอยากออกมาพูดชี้แจงต่อประชาชนในประเด็นดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการสืบค้นฐานข้อมูลเดิม พบว่า ท่าเรือน้ำลึกแห่งนี้ถูกผลักดันจาก ส.ส. นักการเมืองในจังหวัดสมัยพรรคความหวังใหม่เรืองอำนาจ มี พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี อนุมัติงบ 113 ล้าน เพื่อก่อสร้าง โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็น รมต.คมนาคม ขณะนั้น ดำเนินการก่อสร้างฝั่งไทยและใช้งบจำนวนนับ 10 ล้านบาท และมีการก่อสร้างถนนทางขึ้นให้ฝั่งลาวด้วย

ท่าเรือน้ำลึกแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยข้ออ้างเพื่อต้องการย้ายท่าเรือเดิมที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองมาอยู่ที่นี่ ลดมลภาวะเป็นพิษในตัวเมือง โดยท่าเทียบเรือสร้างเสร็จในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ แต่ไม่มีการเปิดใช้งาน



ทั้งนี้ ได้ทำพิธีเปิดหลอกตาในยุคคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ และมี พล.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมต.คมนาคม มาเป็นประธานเปิดใช้ให้เรือแล่นข้ามโชว์เพียงวันเดียวเท่านั้น

แม้จะเข้าสู่ยุคการบริหารงานของ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่าเทียบเรือแห่งนี้ก็ยังไม่มีการใช้งานแต่อย่างใด ปล่อยให้ร้างมีเจ้าหน้าที่เฝ้า 3-4 คน

กระนั้นก็ตาม ในช่วงหน้าแล้งของทุกปี แม้จะเปิดใช้ท่าเทียบเรือแห่งนี้ก็ไม่สามารถแล่นเรือได้ เพราะติดเนินทราย ส่วนหน้าฝนก็แล่นไม่ได้เช่นกัน เพราะติดกระแสน้ำหมุน น้ำโขงซัดทรายมากองริมตลิ่งฝั่งลาว

เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หนาหูจากคนในท้องถิ่น ว่า ท่าเทียบเรือแห่งนี้สร้างด้วยเงินภาษีประชาชน 113 ล้านบาท เพียงเพื่อการหาเสียงของนักการเมืองและต้องการส่วนต่างจากงบก่อสร้าง ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าในทางปฏิบัติไม่สามารถใช้งานได้จริง จึงถูกทิ้งร้างไม่ใช้ประโยชน์มากว่า 5 ปี ขณะที่นักการเมืองในจังหวัดที่เคยวิ่งเต้นดึงงบก่อสร้างจนสำเร็จนั้น ปัจจุบันไม่มีใครแยแส ไม่วิ่งเต้นขับเคลื่อนแก้ปัญหาเพื่อให้ท่าเทียบเรือแห่งนี้ใช้ประโยชน์ได้แม้แต่คนเดียว
 
#417 ·
เลาะโขง...เที่ยวสงกรานต์ย้อนยุคเผ่าผู้ไทยที่เรณูนครพนม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2553 14:24 น.



นครพนม-งานเทศกาลสงกรานต์ที่เรณูนครหรือนครพนมมีเสน่ห์ของการจัดงานที่คงรูปแบบวัฒนธรรมดั้งเดิมของบรรพบุรุษชนเผ่าที่ปีนี้ ททท.ร่วมกับเทศบาลตำบลเรณูนครจัดงานดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

นางรัตนาภรณ์ คงพราหมณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเรณูนคร สาวเผ่าผู้ไทยของแท้ในฐานะเจ้าภาพใหญ่ได้ฉายภาพงานสงกรานต์ปีนี้ว่าทางอำเภอเรณูนครร่วมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เขต 4 ตลอดจนชาวเรณูทั้งอำเภอจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 12 – 13 เมษายน 2553 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับโครงการ”check In i-san” ที่อีสานครึกครื้นเศรษฐกิจอีสานคึกคัก โดยรูปแบบงานจะชูจุดขายวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นโบราณดั่งเดิมของเผ่าผู้ไทย

ทั้งนี้ จะเนรมิตถนนในเขตเทศบาลบ้านเรือนริมทาง จะถูกตกแต่งตั้งซุ้มตามแบบธรรมเนียมของชาวผู้ไทยย้อนยุค เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมอันดีงามของชาวผู้ไทยที่มีมาแต่โบราณ เพื่อแสดงถึงศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ของชาวผู้ไทยที่แท้จริงในยุคโบราณที่หาดูได้ยากมาก

ภาพที่จะเห็นคือ“หนุ่มผู้ไทยจะแต่งชุดพื้นเมืองนุ่งผ้าม้อห่อมผ้าขาวม้าคาดเอวปะแป้งใบหน้าทัดด้วยดอกจำปา ขณะที่สาวผู้ไทยจะมวยผมนุ่งชิ้นเสื้อผ้าไหมพื้นเมืองสีน้ำเงินขลิบลายสีขาวสวมด้วยกำไลเงินแท้ข้อมือและข้อเท้า แสดงถึงหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานพร้อมเปิดประตูใจให้ชายหนุ่มทุกคนมาจีบถ้าใครได้ใจสาวสวยพิธีกรรมวิวาห์ก็แค่เอื้อม(แต่สินสอดต้องถึงนะ)

แต่ถ้าชายใดคิดจะมาลิ้มลองสัมผัสเชยชมเล่นๆแล้วจากไป ก็ต้องบอกว่า”อย่านึกว่าง่าย”เพราะชนเผ่านี้เชื่อผีที่สุดนับถือที่สุดคือ”ผีปู่ถลา”และถือว่าผิดผีอย่างแรงบางครั้งหนุ่มสาวรักกันมากแต่ความรักเต็มด้วยขวากหนาม ต้องออกจากบ้านไปคองคู่กันสุดท้ายถึงแม้เวลาจะผ่านไปกี่ปี ทั้งคู่ต้องกลับมาเข้าพิธีแต่งงานตามกฏและขมาผี ซึ่งในงานที่ก็จะมีพิธีกรรมแต่งงานแบบผู้ไทยให้ชม

ตลอดการเลี้ยงผีพิธีกรรมต่างๆของชาวผู้ไทยให้ชมตลอด จนการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุและการรดน้ำสงพระพุทธรูปที่ต่อรางไม้ไผ่รดน้ำตามรางไม้ แบบพื้นเมืองโบราณ

ในเรื่องอาหารเมนูเด็ดที่เรณูนครจะขึ้นชื่อเรื่องข้าวปุ้นน้ำนัว ข้าวปุ้นน้ำปลาร้าและอีกหลายสูตร โดยแต่ละซุ้มชาวบ้านแต่ละชุมชนจะพากันบีบข้าวปุ้นปรุงกันสดๆให้นักท่องเที่ยวที่มาชมงานบริโภคหรือกินแบบฟรีๆพร้อมเยี่ยมชมซื้อสินค้าโอทอป จากภูมิปัญญาชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเหล้าไห(เหล้าอุ)ที่ขึ้นชื่อชาวเรณูนคร ทีเด็ดคือถ้าใครมาดูดอุในงานนี้จะได้ชนช้างหรือดูดอุเคียงแก้มสาวเรณูหรือบ่าวผู้ไทยด้วย

ที่สำคัญประชาชน นักท่องเที่ยว นอกจากจะได้เที่ยวสัมผัสงานสงกรานต์เรณูผู้ไทยแล้วยังจะได้มีโอกาสไปกราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุพนม และพระธาตุเรณู เป็นสิริมงคล อีกด้วย ซึ่งจังหวัดนครพนมได้จัดให้อำเภอธาตุพนม กับ อำเภอเรณูนคร เป็นอำเภอท่องเที่ยวคู่แฝด หากประชาชน นักท่องเที่ยว สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม หรือสำนักงานเทศบาลเรณูนคร

ด้านนายวิชุกร กุหลาบศรี ททท.เขต 4 นครพนม งานสงกรานต์ย้อนยุคของเผ่าผู้ไทยเรณูนครที่ยึดหลักวิถีวั ฒนธรรมคนท้องถิ่นถูกจัดอยู่ในโปรแกรมการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัส ในปัจจุบัน ททท.เขต 4 มีแผนโปรโมทการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมในแต่ละจังหวัดซึ่งแต่ละจังหวัดถือว่ามีของดีอยู่แล้วโดยเราไม่ต้องลงทุนมากคือของเขามีอยู่แล้วเราเพียงแต่ส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศให้รู้จักพร้อมการอำนวยความสะดวก

ในแต่ละปีจะมีเม็ดเงินท่องเที่ยวไหลมาตรงจุดนี้อย่างมหาศาลและต่อเนื่องในทางกลับกันร้านอาหารที่พักก็จะได้รับผลดีไปด้วย

นายวิชุกรกล่าวย้ำว่า อยากแนะนำให้มาเที่ยวที่อำเภอเรณูนครเพราะที่นี่เป็นงานสงกรานต์จริงๆไม่ได้มุ่งเพียงสาดน้ำกันเล่นยังได้สัมผัสวัฒนธรรมชาวชนเผ่าผู้ไทยเรณูนคร ซึ่งปีหนึ่งเขาจะมีครั้งเดี่ยวเท่านั้นที่จัดครบเต็มรูปแบบ และเคล็ดลับหนุ่มๆที่จะสามารถใกล้ชิดพูดคุยกับสาวผู้ไทยเรณูนั่นก็คือสาวผู้ไทยมีกฏปฏิบัติมานับพันปี ถ้าหากมีชายหนุ่มมาขอชนช้างคู่สาวจ้าวก็ต้องชนด้วยและหนีไม่ออกการชนช้างก็ คือ การดูดอุ คือจะมีท่อไม้ไผ่ขนาดเล็กเสียบลงไปในไหอุสองท่อฝ่ายชายก็ดูดท่อหนึ่งฝ่ายชายก็ดูดท่อหนึ่ง

ทั้สำคัญ คือต้องดูดพร้อมกันจะทำให้ใบหน้าฝายชายแทบชนกับแก้มสาว ชนิดหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียวสามารถส่งสายตาหยาดเยิ้ม สื่อความหมายนำร่องการรู้จักกันครั้งแรกก่อนที่จะมีการพัฒนาตามกลไกลแห่งความไกลชิด..

ทีเด็ดเคล็บลับนี้ถ้ามาเรณูนครพนมถ้าไม่ได้ชนช้างกับสาวผู้ไทย ถือว่าท่านยังมาไม่ถึงครับ นอกจากนี้อำเภอณูนครจะอยู่ติดกับวัดพระธาตุพนม สามารถเดินทางไปกราบนมัสการองค์พระ





 
#419 ·
วัดที่นครพนม สวยงามมากมายเลยนะครับ

วัดหนึ่งที่โด่งดังนอกเหนือจากวัดธาตุพนม วัดธาตุมหาชัย รู้จักหรือเปล่าครับ

เป็นวัดของหลวงพ่อคำพันธ์ เกจิดัง เมืองนครพนม ผู้ที่สนใจพระเครื่องน่าจะรู้จักนะครับ
 
#420 ·


วัดธาตุมหาชัยครับ... ตั้งอยู่บ้านมหาชัย อ.ปลาปาก

ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กว่า กิโลเมตร ครับ

เป็นวัดของหลวงปู่คำพันธ์ พระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพนับถือ ของชาวนครพนมครับ

แต่ตอนนี้ ท่านได้มรณภาพไปแล้ว...
 
#423 ·
สวัสดีครับ พี่น้องชาว skyscrapercity ทุกท่าน

วันนี้จะพาไปชม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ที่ นครพนม กันครับ

ขณะนี้ กำลังก่อสร้าง เสร็จไปแล้ว ประมาณ 30 กว่า เปอร์เซ็นต์ แล้วครับ

อีกไม่นาน คงจะได้ใช้กันแล้วหล่ะครับ...

ไปชมกันเลย

ภาพแรก เอาแบบ ยาวๆ ใหญ่ๆ เลยละกัน


 
Top