|
|
|
 |
forums map | news magazine | posting guidelines |
|
|||||||
| Regional Thailand Anything about Southern, Northern, Eastern and North eastern of Thailand |
| Global Announcement |
|
As a general reminder, please respect others and respect copyrights. Go here to familiarize yourself with our posting policy. |
 |
|
|
Thread Tools |
June 21st, 2009, 08:52 PM
|
#121 | |
|
我爱曼谷
Join Date: May 2009
Location: Pathumwan in Bangkok
Posts: 368
Likes (Received): 8
|
Quote:
2.การที่ผมเป็นห่วงธุรกิจเดิมในท้องถิ่น เป็นทัศนคติส่วนตัว และก็ไม่ได้พาลไปด่าเอาจังหวัดอื่นๆ เช่นอุดร หรือขอนแก่น อย่างที่คุณว่า สิ่งที่คุณโพสต์มาจึงเป็นการใส่ร้ายกล่าวหาผม 3.บอร์ดนี้ไม่ใช่บอร์ดไกด์อุบล แน่นอน ผมมีสติดี 4.ผมไม่เคยเลยเถิดเที่ยวไปแจกแจงชื่อห้างท้องถิ่นขึ้นมาตั้งหลายชื่อ คิดว่าเค้าไม่เสียหายเหรอที่ยกชื่อเค้าออกมา ระวังจะโดนเค้าฟ้องนะว่าไม่ปรับตัว คุณจึงต้องเห็นว่าต้องปรับตัว ผมไม่เกี่ยวกับคุณนะกรณีนี้ 5.ผมไม่เคยดูถูกมหาวทยาลัยนเรศวร เพราะคิดว่าสิ่งที่เค้าอ้างการจัดอันดับนั้นมันไม่ใช่การจัดอันดับคุณภาพมหาวิทยาลัย ซึ่งอันดับคุณภาพน่าจะได้ดีกว่าอันดับที่ 11 ของประเทศ อย่างน้อยเท่าที่ผมทราบมหาวิทยาลัยนี้เค้าโดดเด่นเรื่องการวิจัย คุณไม่รอบคอบในการวิจารณ์ผมอีกแล้ว 6.ผมไม่เคยกัดใคร มีสติและเหตุผลที่ไม่คิดจะกัดใคร เพียงแค่แสดงความเห็นประกอบเหตุผลเท่านั้น กรุณาให้เกียรติกันด้วยดัวย กริยานี้คุณควรเก็บเอาไว้ใช้เฉพาะกับคุณคนเดียวโดยเฉพาะ เพราะคุณกล่าวหาผมโดยไร้เหตุผลเหมือนสิ่งที่กัดคนอื่นได้ 7.คุณไม่จำเป็นต้องยืนยันความเห็นเรื่องการจัดลำดับมหาวิทยาลัยของผมหรอก ผมรู้ดีและมั่นใจในความรู้ที่ได้ตรวจสอบแล้วของผม Last edited by LoveBangkok; June 21st, 2009 at 09:25 PM. |
|
|
|
| Sponsored Links | |||
|
Advertisement |
|
||
|
June 21st, 2009, 08:57 PM
|
#122 |
|
Liberty, Equality, Frate
Join Date: Apr 2006
Posts: 103,380
Likes (Received): 6266
|
กรมทางหลวงเท900ล้านสร้างถนน4เลนสายพิษณุโลก-หล่มสัก
วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4116 ประชาชาติธุรกิจ กรมทางหลวงเมินเงินกู้ธนาคารเอดีบี ก่อสร้างถนน "สายพิษณุโลก-หล่มสัก" เชื่อมระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก หันพึ่งเงินงบประมาณปี"53 มูลค่า 900 ล้านบาท นำร่องไปก่อน 30 กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา มีการลงนามความร่วมมือเปิดการเดินรถขนส่งข้ามพรมแดนด้วยกฎระเบียบและแบบฟอร์มเดียวกันครั้งแรก ตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion-Cross Border Transport Agreement) หรือ GMS-CBTA ตามแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (EWEC : East-West Economic Corridor) อย่างเป็นทางการระหว่างทางการไทย-สปป.ลาว และเวียดนาม เส้นทางเศรษฐกิจดังกล่าวเชื่อมระหว่างเมืองเมาะละแหม่ง-เมียวดี (สหภาพพม่า) ผ่านแม่สอด-พิษณุโลก-ขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มุกดาหาร (ประเทศไทย)-สะหวันนะเขต-แดนสะหวัน (สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) เข้าสู่ลาวบาว-ดองฮา-เว้-ดานัง (สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม) เพื่อสร้างความสะดวกรวดเร็วด้านการเดินทาง เพิ่มศักยภาพด้านเศรษฐกิจ การค้าและการท่องเที่ยว ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรุก-รับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นเพื่อโอกาสทางการค้า ซึ่งการขนส่งทางบกในภูมิภาคเป็นที่จับตามองว่าจะมีบทบาทสูงมากในอนาคต นายณัฐวุฒิ คงเวชกุล ผู้อำนวยการแขวงการทางพิษณุโลก เปิดเผยว่า โครงการขยายถนน 4 เลน ตามโครงการ East-West Economic Corridor ช่วงถนนเอเชียหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และออกแบบการขยายถนน โดยในบางช่วงมีการขยายถนนเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท ก่อนหน้านี้คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ กรมทางหลวงแจ้งว่าไม่สามารถรับเงื่อนไขรายละเอียดการขอกู้เงินได้ ส่งผลให้โครงการนี้สะดุดลง ทั้งนี้ประเมินว่า ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก ระยะทาง 105 กิโลเมตร จะขยายเป็นถนนมาตรฐานรองรับการขนส่งขนาดใหญ่ จากฝั่งประเทศพม่ามายังท่าเรือดานังประเทศเวียดนาม โดยผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทางหลวงแก้ปัญหาโดยการนำเงินงบประมาณแผ่นดินในปี 2553 จำนวน 900 ล้านบาท มาดำเนินการก่อสร้างถนนสายพิษณุโลก-หล่มสักในช่วงแรกไปก่อน โดยจะสร้างจาก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ระยะทาง 20 กิโลเมตร และจาก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ระยะทาง 10 กิโลเมตร ส่วนถนนในช่วงตอนกลางๆ จะต้องรองบประมาณในปีต่อไป อย่างไรก็ตามการขยายถนนระยะทาง 30 กิโลเมตร ช่วงหัว-ท้ายของถนนสาย 12 นี้สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะออกแบบถนนเรียบร้อยแล้ว สามารถเปิดประมูลผู้รับเหมาได้ในช่วงต้นปี 2553 นี้ สำหรับโครงการ EWEC : East-West Economic Corridor ตลอดทั้งสายระยะทาง 323 กิโลเมตร จาก อ.แม่สอด จ.ตาก ถึง จ.เพชรบูรณ์ พบว่าได้ดำเนินการก่อสร้างถนน 4 เลนไปแล้ว 148 กิโลเมตร และยังเป็นถนน 2 เลนแบบเดิม ที่รอการพัฒนาอีกระยะทาง 175 กิโลเมตร หน้า 23 |
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 01:17 AM
|
#123 |
|
Registered User
Join Date: May 2009
Posts: 3,479
Likes (Received): 563
|
สำหรับผม กับคุณ รักกรุงเทพ ถ้าลองได้อ่านดูทั้งหมดจากหน้าแรกๆ จะดูออกเองว่า ที่คุณพิมพ์มาทั้งหมด นั่นคืออคติ
เม็ดเงินมาลงพิดโลก โครงการอะไรแล้วแต่ ถือว่า ผลเสียทั้งหมด ประมาณว่าจะมีสาขาเซเวนไม่ก็คงไม่ได้ มันก็ถูก แต่นี้คือเวปบอรดที่ทุกคนต้องการจะสื่อว่า แต่ละจังหวัด มีความเปลียนแปลงไรบ้าง มีอะไรมาลงทุนมั้ง เราน่าจะมองเชิงสร้างสรรมากกว่า ที่นี่ไม่ใช่บอร์ด NGO ผมเองคนอุตรดิตถ์ แต่มาโตและอยู่เชียงใหม่ ซึ่ง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลย ยังรู้สึกถึงความอคติของคุณเลย ตีประเด็นไม่แตกอย่ามาลงแถวนี้ครับ หรือโดนสาวพิดโลกอกหัก หรือเปล่าครับ ความรู้สึกคนเหนือตอนล่าง เค้าก็ยกให้พิษณูโลก เป็นศูนย์ กลางภูมิภาคทั้งนั้น เพราะภูมืภาคนี้ไม่มีจังวัดใหญ่เลย คือง่ายๆ ทั้งภูมิภาคไม่มีอะไรจุดเด่น แต่ด้วยการที่พิดโลกพร้อมที่สุด ก็ต้องยอมรับการเป็นผู้นำของภูมิภาคไป อย่าเอาพิษโลกไปเที่ยบกับเชียงราย ลำปาง เชียงใหม่ เพราะพิษณุโลกยังตามอยู่เยอะ หรือเทียบกัน กลุ่มต่อกลุ่ม กลุ่มสี่แยกอินโดจีน ก็ยังตามกลุ่มล้านนาอีกเยอะ |
|
|
|
| Sponsored Links | |||
|
Advertisement |
|
||
|
June 22nd, 2009, 04:33 AM
|
#124 | |
|
我爱曼谷
Join Date: May 2009
Location: Pathumwan in Bangkok
Posts: 368
Likes (Received): 8
|
Quote:
การที่คุณคาดเดาเอาว่าผมคง"โดนสาวพิดโลกอกหัก หรือเปล่า" หรือเที่ยวบอกว่าคุณเป็นคนจังหวัดไหน และโตมาจากไหน เป็นการเอาเรื่องส่วนบุคคลมาพูด ถือเป็นการผิดมารยาท ไม่ควรจะทำและอย่างน้อยมีผมคนหนึ่งไม่อยากรู้ ผมอาจจะป็นชาวพิษณุโลกก็ได้ แต่ไม่ก็ไม่ใช่ประเด็น และคุณควรไม่ควรจะก้าวก่าย หรือถือวิสาสะมาสอดรู้ หรือออกความคิดเห็น ผมอาจจะเป็นNGO หรือมีความคิดแบบ NGO หรือไม่อย่างไร ผมย่อมมีเสรีภาพจะโพสต์ในบอร์นี้ได้ ตราบใดข้อความ หรือความเห็นที่ผมให้ไป ไม่ไปละเมิดสิทธิของคนอื่น และเท่าที่ผมทราบไม่มีกฎข้อใดห้าม NGO หรือคนที่มีความคิดอย่าง NGO โพสต์ในบอร์ดนี้ หรือคุณว่ามีช่วยบอกผมหน่อย ผมจะเชื่อฟังคุณ และปฏิบัติตามข้อห้ามของคุณ ถ้าคุณเป็นเจ้าของบอร์ดนี้ และมีสิทธิในการออกกฎห้ามผมแสดงความคิดเห็น จำใส่สมองไว้ด้วย Last edited by LoveBangkok; June 22nd, 2009 at 04:51 AM. Reason: ) |
|
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 05:50 AM
|
#125 |
|
Registered User
Join Date: May 2008
Posts: 2,053
Likes (Received): 6
|
 Moderator แบนล็อกอินนี้เถอะครับ อ่านจากการตอบแต่ละความเห็นที่เห็นต่างจากเขาแล้วอนาถใจจริงๆ ผมอ่านของคุณ Nevadaboy เขาก็พูดดีๆ นะครับ ทำไมคุณต้องว่าเขากลับไปแรงขนาดนี้ด้วย แล้วอย่ามาว่าคนอื่นอคติเลย ในเมื่อในจิตใจคุณเต็มไปด้วยอคติเช่นนี้ คุณย่อมมองคนอื่นด้วยอคติทั้งหมด |
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 06:16 AM
|
#126 | |
|
我爱曼谷
Join Date: May 2009
Location: Pathumwan in Bangkok
Posts: 368
Likes (Received): 8
|
Quote:
หาเหตุผลดต้แย้งไม่ได้ ก็เที่ยวให้โมแบนเหรอครับ นี่สังคมประชาธิปไตย ไม่ชอบผมก็อย่ายุ่งกับผม..หยุดเลยดีกว่า ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณ |
|
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 08:24 AM
|
#127 |
|
Kickimus Gluteus Maximus
Join Date: Oct 2002
Location: Bangkok
Posts: 37,905
Likes (Received): 4749
|
พอเถอะครับคุณ LoveBangkok
ถ้าไม่หยุด ผมจะแบน IP Address นะครับ รำคาญ
__________________
You have the right to remain silent, everything you say will be misquoted and used against you in the forum -Imate pravo da ćutite, sve što budete rekli može i biće upotrebljeno protiv vas na forumu You know you love me. XOXO. |
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 12:30 PM
|
#128 | |
|
Registered User
Join Date: Jun 2009
Posts: 2,909
Likes (Received): 647
|
Quote:
ดูอันนี้ก็ได้ครับ ปี 2549 อันดับ 9 ด้วนการวิจัย สกอ. เปิดผลจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย วันนี้(31 ส.ค.) นายภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยผลการจัดอันดับ(Ranking) มหาวิทยาลัยไทย 50 อันดับ ตามโครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย ว่า การจัดอันดับและประเมินศักยภาพมหาวิทยาลัยไทยประจำปี 2548 เป็นการนำข้อมูลจากมหาวิทยาลัยที่ส่งข้อมูลมายัง สกอ.ประมาณ 60-70 แห่ง จากมหาวิทยาลัยทั้งหมดของรัฐและเอกชนประมาณ 200 แห่ง เพื่อนำข้อมูลมาประเมินศักยภาพใน 2 ด้าน คือ ด้านการเรียนการสอน และด้านการวิจัย ซึ่ง สกอ.ได้นำมาเผยแพร่ใน 50 อันดับแรก โดยแยกมหาวิทยาลัย ออกเป็น 5 กลุ่ม เรียงตามลำดับศักยภาพแต่ละแห่ง "เชื่อว่าโครงการฐานข้อมูลออนไลน์ จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม เนื่องจากขณะนี้อุดมศึกษาไทยยังมีจุดอ่อนในเรื่องการจัดระบบฐานข้อมูลมหาวิทยาลัย เมื่อมีการรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบและจัดอันขึ้น ก็จะเป็นข้อมูลให้นักศึกษาใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาต่อ อีกทั้งอธิการบดี และผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะได้ทราบว่าตนเองจะต้องจะต้องปรับปรุงและพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาของตนเองไปในแนวทางใด" สำหรับผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกลุ่มดัชนีชี้วัดด้านการวิจัย ปรากฏว่า กลุ่มดีเลิศ คะแนนตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป เรียงตามตัวอักษร คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กลุ่มดีเยี่ยม คะแนนตั้งแต่ร้อยละ 70-75 เรียงตามตัวอักษร คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยนเรศวร และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กลุ่มดี คะแนนตั้งแต่ร้อยละ 65-69 เรียงตามตัวอักษร คือ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กลุ่มพอใช้ คะแนนร้อยละ 55-64 เรียงตามตัวอักษร คือ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และกลุ่มต้องปรับปรุง คะแนนร้อยละ 55 ลงไป เรียงตามตัวอักษร คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาลัยตาปี และวิทยาลัยบัณฑิตบริหารธุรกิจ ในส่วนการประเมินโดยใช้กลุ่มดัชนีชี้วัดตามด้านการเรียนการสอน ปรากฏว่า กลุ่มดีเลิศ คะแนนร้อยละ 75 ขึ้นไป เรียงตามตัวอักษร คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยมหิดล กลุ่มดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 70-74 เรียงตามตัวอักษร คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ กลุ่มดี คะแนนร้อยละ 65-69 เรียงตามตัวอักษร คือ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กลุ่มพอใช้ คะแนนร้อยละ 60-64 เรียงตามตัวอักษร ดังนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และกลุ่มต้องปรับปรุง คะแนนต่ำกว่าร้อยละ 60 เรียงตามตัวอักษร คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ วิทยาลัยบัณฑิตบริหารธุรกิจและวิทยาลัยตาปี ส่วนการจัดอันดับของคณะต่างๆ ที่มีศักยภาพด้านการวิจัย 5 อันดับแรก แยกตามกลุ่มสาขา มีดังนี้ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ ได้แก่ วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สถาบันอณูชีววิทยาและพันธุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล,คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มสาขาเทคโนโลยี ได้แก่ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, คณะพลังงานและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, สถาบันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กลุ่มสาขาชีวการแพทย์ ได้แก่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล, วิทยาการสาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์และศิลปศาสตร์ ได้แก่ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, โครงการบัณฑิตศึกษาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มสาขาเกษตรศาสตร์ ได้แก่ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มสาขาศึกษาศาสตร์ ได้แก่ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ส่วนการจัดอันดับของคณะต่างๆ ที่มีศักยภาพด้านการการเรียนการสอน 5 อันดับแรก แยกตามกลุ่มสาขา มีดังนี้ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กลุ่มสาขาเทคโนโลยี ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะพลังงานและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กลุ่มสาขาชีวการแพทย์ ได้แก่ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์และศิลปะศาสตร์ ได้แก่ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ ได้แก่ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดลและคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มสาขาเกษตรศาสตร์ ได้แก่ คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, สำนักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตปทุมธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี "ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในแต่ละกลุ่ม ไม่ได้เรียงตามคะแนน แต่จัดเรียงตามลำดับตัวอักษร โดยความแม่นยำของการจัดกลุ่มจะขึ้นอยู่กับความครบถ้วนและความถูกต้องของข้อมูลดิบที่กรอกโดยแต่ละมหาวิทยาลัย ในส่วนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) นั้น ได้ให้ข้อมูลมหาวิทยาลัยมายัง สกอ. แต่ไม่ยินดีให้เปิดเผยลำดับ ขณะที่มหาวิทยาลัยเอกชนส่วนใหญ่ประมาณ 60 แห่ง ไม่ได้ให้ข้อมูลมายัง สกอ.จึงไม่ได้นำมาประเมินผลในการจัดอันดับครั้งนี้ด้วย" นายภาวิช กล่าว ที่มาจากหนังสือพิมพ์ "ภาวิช ทองโรจน์" ฟันธง.."จัดอันดับ ม.ไทย ผลดีมากกว่าเสีย" http://webboard.mthai.com/7/2006-08-28/262976.html Last edited by no.1; June 22nd, 2009 at 12:58 PM. |
|
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 12:32 PM
|
#129 | |
|
Registered User
Join Date: Jun 2009
Posts: 2,909
Likes (Received): 647
|
Quote:
|
|
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 12:38 PM
|
#130 | |
|
Registered User
Join Date: Jun 2009
Posts: 2,909
Likes (Received): 647
|
Quote:
|
|
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 01:04 PM
|
#131 |
|
Registered User
Join Date: Jun 2009
Posts: 2,909
Likes (Received): 647
|
เซ็นทรัลรีเทลห่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกลามไทยชะลอแผนลงทุน-กว้านซื้อที่ดินมูลค่ากว่าหมื่ล้านในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้รอความชัดเจนเศรษฐกิจ-การเมือง
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี ผู้บริหารเครือข่ายร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน เซน เพาเวอร์บาย ซูเปอร์สปอร์ต บีทูเอส ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ เปิดเผยถึงนโยบายและแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 และ 2 คาดการณ์ว่าจะยังไม่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นมากนัก ทำให้บริษัทตัดสินใจชะลอการลงทุนในช่วง 6 เดือนแรกนี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในเรื่องของการลงทุนซื้อที่ดินสำหรับการขยายสาขา ใช้เม็ดเงินค่อนข้างสูง จะทบทวนอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 3 "การดำเนินธุรกิจในปีนี้ต้องระมัดระวังมากขึ้น ตามสภาพปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกอยู่ในสภาพการณ์ที่น่าเป็นห่วง แต่ประเทศไทยหลังจากนี้น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ หากดูจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในเบื้องต้น และทำได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในอนาคต" นายทศกล่าว ทั้งนี้ บรรยากาศทางการเมืองที่คลี่คลาย และรัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและดำเนินการอย่างจริงจัง เชื่อว่าเป็นสัญญาณบวกที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นในเดือนสิงหาคม สำหรับ ปัจจัยลบทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเหตุการณ์ปิดสนามบิน ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ความเชื่อมั่นทางการลงทุน ภาวะการหดตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคอย่างหนัก ทำให้ฤดูกาลขายในเดือน ธันวาคมปีที่ผ่านมา ยอดขายหดตัวลงประมาณ 5% ฉุดภาพรวมผลประกอบการของบริษัทมียอดขายเติบโตเพียง 4% จากเป้าหมายเติบโต 8% อย่างไรก็ตาม จากแผนการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีของทุกธุรกิจในเครือ เชื่อว่าจะผลักดันยอดขายในปีนี้กลับมาเติบโตสูง 15% แต่หากปัจจัยลบขยายตัวรุนแรง คาดว่าจะทำให้ยอดขายเติบโตประมาณ 12% สำหรับซีอาร์ซี นับเป็นเครือข่ายค้าปลีกรายใหญ่ของไทย มีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่อง อาทิ ตั้งเป้าหมายเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ 8 แห่ง ภายใน 2-3 ปีนี้ ได้แก่ ห้างเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ซึ่งเปิดบริการปลายที่ผ่านมา ห้างเซ็นทรัล พัทยา บีช เปิดบริการ 23 ม.ค. นี้ และห้างเซ็นทรัล เชียงใหม่ นอกจากนี้มีแผนขายยาห้างโรบินสัน สาขาชลบุรี ขอนแก่น อุบลราชธานี เชียงราย และพระราม 9 ในการขยายกิจการห้างสรรพสินค้า เน้นผลักดันให้โรบินสันขยายในจังหวัดขนาดกลางและเล็กมากขึ้น อาทิ นครปฐม พิษณุโลก ที่อยู่ในแผนการลงทุนลำดับต่อไปในอนาคต ขณะที่ห้างเซ็นทรัลเน้นเปิดเฉพาะในจังหวัดใหญ่ซึ่งขณะนี้มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว ทั้งนี้ในการตัดสินใจเข้าลงทุนจังหวัดใดต้องพิจารณาจากจำนวนประชากร รายได้ และไลฟ์สไตล์ในจังหวัดนั้นๆ เป็นสำคัญ Tags : ทศ จิราธิวัฒน์ • เซ็นทรัลรีเทล |
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 01:11 PM
|
#132 | |
|
Registered User
Join Date: Jun 2009
Posts: 2,909
Likes (Received): 647
|
Quote:
|
|
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 01:14 PM
|
#133 | |
|
Registered User
Join Date: Jun 2009
Posts: 2,909
Likes (Received): 647
|
Quote:
Last edited by no.1; June 22nd, 2009 at 02:11 PM. |
|
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 01:31 PM
|
#134 |
|
Kickimus Gluteus Maximus
Join Date: Oct 2002
Location: Bangkok
Posts: 37,905
Likes (Received): 4749
|
พอ !!
__________________
You have the right to remain silent, everything you say will be misquoted and used against you in the forum -Imate pravo da ćutite, sve što budete rekli može i biće upotrebljeno protiv vas na forumu You know you love me. XOXO. |
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 03:20 PM
|
#135 |
|
FoRce BlaDeR Returns
Join Date: May 2009
Posts: 1,312
Likes (Received): 539
|
lol
รักกันไว้เถิดครับ สุโขทัยหรือพิษณุโลก ไหนๆก็อยู่ในกลุ่มจังหวัดเดียวกันและอยู่ใน หัวข้อเดียวกัน
เท่าที่อ่านมาคุณรักกรุงเทพเป็นคนที่มีความรู้มากทีเดียวครับ ให้เหตุผลได้ดีทั้งทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพียงคุณลดดีกรีความแรงของความเห็นลงอีก ผมว่ามันจะทำให้หลายๆคนเข้าถึงและเข้าใจในเหตุผลที่คุณต้องการเสนอครับ ในเวบแห่งนี้เรามาร่วมมือกันแสดงและแลกเปลี่ยนความเห็นกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกัน ซึ่งเป็นแบบนี้มานานแล้วครับ ถึงในบ้างความเห็นอาจจะเห็นไม่ตรงกันบ้างแต่เราก็ต่างรับฟังกันไว้ครับ อะไรที่มันผ่านมาแล้วก็ขอให้มันผ่านไปนะครับ มาเริ่มกันใหม่ หากคุณรักกรุงเทพมีความเห็นอะไรในการพัฒนาเมืองต่างๆอย่างอย่าลืมมาแบ่งปันกันบ้างครับ 
Last edited by Kasuya08; June 22nd, 2009 at 03:57 PM. |
|
|
|
|
June 22nd, 2009, 06:57 PM
|
#136 |
|
Who can see me...
Join Date: Jun 2009
Location: นครราชสีมา
Posts: 5,590
Likes (Received): 51
|
 ระวังโดนโต้กลับเร็วนะครับอาจจะเสียประตูได้ |
|
|
|
|
June 23rd, 2009, 09:13 AM
|
#137 |
|
Registered User
Join Date: Apr 2009
Posts: 2,601
Likes (Received): 2
|
น้ำตกทีลอซู อ.อุ้มผาง [img]http://******************/is/dsc9420.jpg[/img] photo by numnigon
[img]http://******************/is/dsc9420.jpg[/img] [img]http://******************/ik/dsc9421.jpg[/img] [img]http://******************/iv/dsc9428.jpg[/img] [img]http://******************/ik/dsc9512.jpg[/img] [img]http://******************/if/dsc9430.jpg[/img] |
|
|
|
|
June 23rd, 2009, 10:16 AM
|
#138 |
|
BANNED
Join Date: Jun 2009
Location: kk ud cm
Posts: 290
Likes (Received): 0
|
สวยมาก อยากไปเที่ยว |
|
|
|
|
June 23rd, 2009, 04:59 PM
|
#139 |
|
Registered User
Join Date: Jun 2009
Posts: 2,909
Likes (Received): 647
|
http://tor.gprocurement.go.th/06_tor...1/epd14-52.pdf
ม.นเรศวรวิทยาเขตพะเยาว์์ไ้ด้แยกตัวเป็นเอกเทศจาก ม.เรศวร แล้วครับ ดูที่หน้าแรก ย่อหน้าแรกครบ |
|
|
|
|
June 23rd, 2009, 05:24 PM
|
#140 | |
|
FoRce BlaDeR Returns
Join Date: May 2009
Posts: 1,312
Likes (Received): 539
|
PYU
Quote:
ภาคเหนือมีมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ว่าแต่ว่าเมื่อเป็นเอกเทศแล้ว จะใช้ชื่อมหาวิทยาลัยว่าอะไรครับ แต่ถ้าใช้ชื่อว่า มหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา คงแปลกดี |
|
|
|
|
| Sponsored Links | |||
|
Advertisement |
|
||
|
«
Previous Thread
|
Next Thread
»
| Thread Tools | |
|
|
All times are GMT +2. The time now is 08:11 PM.