SkyscraperCity Forum banner

Bangkok l Old Customs House Redevelopment

73829 Views 155 Replies 51 Participants Last post by  skydrop
Aman Resorts to build ultra luxurious hotel in Bangkok

Natural Park group closes deal for six-star riverside hotel


KRISSANA PARNSOON


Amid doubts over its finances, Natural Park Plc has closed a deal with the Treasury Department to develop a six-star hotel on a prime plot on the east bank of the Chao Phraya River, which now houses the 115-year-old Customs House.
The consortium of N-Park, Amanresorts Services and Silverlink Holdings Limited yesterday signed a 30-year agreement to develop and manage the boutique hotel on a five-rai plot on Charoen Krung Road for 30 years.

The group paid a total of 128.3 million baht in cash to the department, of which 125 million baht was a front-end fee and 3.3 million baht the first-year rent. It also placed a letter of guarantee worth 43.58 million baht as collateral. The department will receive a total of 1.47 billion baht from the concession.

Sermsin Samalapa, the president and chief executive of N-Park, said this was the first step to show that the consortium was seriously committed to the hotel development. The three parties helped contribute the guaranteed money.

``Many banks are showing interests to provide us a syndicated loan to finance the hotel development. We are in talks with them, negotiating for the best repayment terms and interest rates,'' he claimed.

However, the shareholding structure of the group has not been concluded yet.

Mr Sermsin said N-Park would decide whether it would sell an 18.75% stake in Finansa Plc to raise more funds over the next two weeks.

Treasury Department chief Wisudhi Srisuphan said he was not worried about N-Park's cash-flow problems. In the worst case, the department already had a lot of cash and collateral from the consortium.

The N-Park-Amanresorts consortium will spend 152.8 million baht to move and provide new accommodation for officials who now stay on the Treasury Department's land.

Called the Aman Resort Bangkok, the development will cost one billion baht including the preservation of three heritage buildings, construction of a four-storey hotel building and a five-storey back-office building, and new accommodation for officials.

The luxury hotel with only 33 rooms is expected to open around the end of 2007. Applying for permission from related government agencies will take about six months and construction two years.

The average room rate will be about $800 per night and the project will break even in 10 years. Revenues from hotel rooms are projected at 220 million baht in the first year and 260 million baht in the second year.
Greg Sirois, executive director of Amanresorts, said participating in the Aman Resort Bangkok project would complete the investment picture for the group.

``We can't miss Bangkok because it's one of the great leisure destinations. We believe we can bring our customers, who are jet-setters, Hollywood stars, sports icons or business billionaires, to try new experiences at Aman Resort Bangkok,'' he said.

N-Park shares closed yesterday on the Stock Exchange of Thailand at one baht, down seven satang, in trade worth 254 million baht.

Source: Bangkokpost : May 11, 2005
See less See more
1 - 20 of 156 Posts
^
^
^

According to, http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=375502

Street Fighter the movie used this place for the movie in 15 years ago.

It was about UN camp.


Did you remember a high speed boat seenario in the movie ?

.
See less See more
ธนารักษ์ขู่NPARKคว่ำ‘ร้อยชักสาม’เสี่ยเจริญรอเสียบ

Kaohoon วันศุกร์ที่ 30 กรกฏาคม 2010

ธนารักษ์นัดหารือเอ็นพาร์ค หาทางเดินหน้าโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท หรือโครงการร้อยชักสาม ขู่ถ้าไม่ลุยต่ออาจเปิดประมูลใหม่ ด้านกลุ่มเสี่ยเจริญรอจังหวะเสียบ ส่วนเสริมสินลั่นขอนอนกอดโครงการต่อไป แม้ยังไม่คืบ ยอมจ่ายค่าเช่าฟรีๆ ให้คลังปีละ 3.3 ล้านบาท

นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่าจะนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ทริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือโครงการร้อยชักสาม มาหารือถึงแนวทางหรือทางออกสำหรับโครงการดังกล่าว หลังจากที่ล่าช้ามานานหลายปี แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า

“ก็อาจจะเปิดประมูลใหม่เลยก็ได้ หากเอ็นพาร์คไม่พร้อมที่จะดำเนินโครงการต่อ เพราะที่ดินแปลงดังกล่าวมีผู้สนใจมากหลายราย พร้อมที่จะเข้ามาพัฒนา”นายเทวัญ กล่าว

อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่าเป็นที่น่าเสียดายที่ปล่อยให้ที่ดินแปลงนี้ ใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่ากับศักยภาพของที่ดิน ที่อยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งตั้งแต่บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK ชนะประมูลก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ติดปัญหาทั้งด้านเงินทุน และปัญหาเรื่องการรื้อย้ายหน่วยงานราชการออกไป อาทิ ตำรวจดับเพลิง ที่สังกัดกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมาคุยกัน ว่าจะสามารถทำอย่างไรให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ หรือจะเปิดประมูลใหม่

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มของเสี่ยเจริญ สนใจก่อนหน้านี้นั้น ไม่อยากให้พูดถึงในตัวบุคคล แต่ขอให้มองภาพรวมของโครงการ โดยที่ดินแปลงนี้เป็นแปลงที่ดีที่สุดของกรมฯในเขตกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตามเอ็นพาร์คได้จ่ายค่าเช่าให้กรมธนารักษ์มาตลอด ไม่มีปัญหา แต่โครงการยังไม่คืบหน้าเท่านั้น ซึ่งมองว่าหากบริษัทไปไม่ไหวก็อาจปล่อยให้รายอื่นมาพัฒนาแทน และไม่เสียโอกาสกับกรมฯด้วย

ขณะที่บริษัทเอ็นพาร์ค มีสัญญาต้องจ่าย ผลประโยชน์ค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ 1,346.3ล้านบาทภายใน 30 ปี แบ่งเป็น ปีที่ 1-11 ปีละ 3,300,000 บาท ปีที่ 12-16 ปีละ 30,000,000 บาท ปีที่ 17-20 ปีละ 40,000,000 บาท และปี ที่ 21-30 ปีละ 100,000,000ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ ทางผู้บริหารบริษัท แนเชอรัลพาร์คฯกล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี นับจากวันเซ็นสัญญา คือประมาณ ปี 2550-2551 โดยโรงแรมที่จะเปิดบริการจะใช้ชื่อ โรงแรมอามันรีสอร์ท กรุงเทพฯ เป็นบูติคโฮลเทล มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งทางกลุ่มอามันรีสอร์ทในฐานะหุ้นส่วนเข้าบริหาร เพราะถือว่าเป็นมืออาชีพ

โดยราคาห้องพักต่อคืนเฉลี่ย 800 เหรียญ หรือ 32,000 บาท/คืน ซึ่งมีจำนวน 33 ห้อง มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวและบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงสนใจเข้าจองพื้นที่ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายประเทศแถบยุโรป สหรัฐอเมริกาและเอเชีย อย่างไรก็ดีโครงการดังกล่าวสามารถคืนทุนได้ใน 10 ปี

ก่อนหน้านี้นายเสริมสิน สมะลาภา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แนเชอรัล พาร์ค กล่าวว่า ตอนนี้เลือกที่จะขายที่ดินออกไปก่อนเพราะขายยากกว่าหุ้นเยอะ หุ้นจะขายวันไหนก็ได้ซึ่งเราก็รอดูจังหวะที่ราคาดีๆ ที่ผ่านมาเราทยอยขาย SIRI-W1 ไปบ้างแล้วที่ราคา 0.90 บาท ส่วนโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ทริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือโครงการร้อยชักสาม จะไม่ขายแน่นอน แม้มีข่าวว่าเจ้าสัวเจริญขอซื้อ แม้ปัจจุบันยังไม่สามารถพัฒนาต่อได้ เนื่องจากเป็นทำเลที่ดึงดูดชาวต่างชาติได้
See less See more
‘ธนารักษ์’เคลียร์ที่ดินร้อยชักสามเปิดทางN-PARK

Kaohoon วันพุธที่ 04 สิงหาคม 2010


ธนารักษ์เร่งเคลียร์พื้นที่โรงภาษีร้อยชักสาม ริมเจ้าพระยา เชิญตัวแทนกรุงเทพมหานครเจรจา ไล่ตะเพิดดับเพลิงพ้นพื้นที่ก่อสร้างโรงแรมหรู หลังยืดเยื้อมานาน 5 ปี ระบุเคลียร์จบภายในเร็วๆ นี้ เปิดทางเอ็นพาร์คลุยโรงแรมอามันรีสอร์ทต่อ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ยึดมัดจำและค่าเช่าทั้งหมดทันที พร้อมเปิดประมูลใหม่

นายณรงค์ ราบเรียบ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจและศักยภาพที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กล่าวว่า นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้เร่งให้ดำเนินการพัฒนาที่ราชพัสดุโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท หรือโครงการร้อยชักสาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้เชิญผู้บริหารที่รับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร มาหารือเพื่อให้เร่งย้ายตำรวจดับเพลิงออกจากพื้นที่โดยเร็ว เพื่อเปิดทางให้ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK เข้ามาดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา

“อธิบดีได้เร่งโครงการนี้มาก เพราะค้างมานานกว่า 5 ปีแล้ว หากดับเพลิงย้ายออกไปแล้ว บริษัทยังไม่ดำเนินการใดๆ เราก็สามารถบอกเลิกสัญญาได้” นายณรงค์ กล่าว

นายณรงค์ กล่าวว่า ตามสัญญาหากธนารักษ์เคลียร์พื้นที่ให้บริษัทแนเชอรัล พาร์คแล้ว บริษัทจะต้องดำเนินการทันที หากไม่สามารถดำเนินการได้ กรมธนารักษ์ก็มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาเช่า แม้ว่าบริษัทจะอ้างว่าจ่ายค่าเช่ามาตลอดก็ตาม รวมทั้งสามารถยึดเงินวางประกันที่บริษัทวางไว้ทั้งหมดกับกรมฯด้วย

สำหรับกรณีนี้กรมธนารักษ์ได้เตรียมพื้นที่ให้กับดับเพลิงของกรุงเทพมหานครแล้ว อยู่บริเวณโรงพิมพ์เก่า แถวสี่พระยา เนื้อที่กว่า 1 ไร่ สำหรับให้ย้ายไป แต่ที่ผ่านมา กทม. ได้เรียกร้องค่าก่อสร้างกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของกรมฯ ดังนั้น กทม. ต้องหางบเอง เชื่อว่าจะสามารถสรุปได้ภายในเร็วๆ นี้

ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจและศักยภาพที่ราชพัสดุ กล่าวว่า บริษัทแนเชอรัลพาร์ค ได้จ่ายค่าเช่ามาตั้งแต่ปี 2548 ปีละ 3.3 ล้านบาท และมีเงินวางประกันอีกส่วนหนึ่ง โดยในสัญญาบริษัทต้องจ่ายผลประโยชน์ค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ 1,346.3 ล้านบาท ภายใน 30 ปี แบ่งเป็น ปีที่ 1-11 ปีละ 3,300,000 บาท ปีที่ 12-16 ปีละ 30,000,000 บาท ปีที่ 17-20 ปีละ 40,000,000 บาท และปีที่ 21-30 ปีละ 100,000,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทฯได้ทำหนังสือมาถึงกรมฯว่าสาเหตุที่ยังไม่สามารถก่อสร้างโครงการได้ เนื่องจากทางดับเพลิงยังไม่ได้ย้ายออกไป ซึ่งประเด็นนี้ทางกรมฯก็จะเร่งเคลียร์ออกไป หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ก็ต้องบอกเลิกสัญญา

ก่อนหน้านี้ นายเทวัญ กล่าวว่า หากเอ็นพาร์คไม่พร้อมที่จะดำเนินโครงการต่อ ที่ดินแปลงดังกล่าวก็มีผู้สนใจหลายราย พร้อมที่จะเข้ามาพัฒนา

“ที่ดินที่มีทำเลดีๆ มีโอกาสในเชิงธุรกิจ ก็ต้องเร่งทำ แต่จะต้องระวัง เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายโครงการที่ยังเป็นปัญหาคาราคาซังอยู่ อาทิ โครงการพัฒนาที่ดินราชพัสดุหมอชิต โครงการร้อยชักสาม”นายเทวัญ กล่าว

นายเสริมสิน สมะลาภา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แนเชอรัล พาร์ค กล่าวว่า ได้จ่ายค่าเช่าให้กับกรมธนารักษ์มาโดยตลอด และสาเหตุที่ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ก็เพราะดับเพลิงไม่ย้ายออกไปจากพื้นที่ก่อสร้าง
See less See more
NPARKจ่อปักผังอามันรีสอร์ทมูลค่า1พันลบ.

Kaohoon 11/08/2010

วันพุธที่ 11 สิงหาคม 2010 “เอ็นพาร์ค” ทางสะดวก ดับเพลิงกทม.ยอมย้ายออกทันที หลังธนารักษ์นัดเจรจา เตรียมปักผังก่อสร้างโรงแรมอามันรีสอร์ทระดับหกดาว หรือโครงการร้อยชักสาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 1 พันกว่าล้านบาท หลังรอมานาน ด้านแนเชอรัลพาร์คระบุพันธมิตรกลุ่มอามันรีสอร์ทยังเหนียวแน่น ส่วนโครงการโรงแรมสยาม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เปิดบริการเดือนตุลาคมนี้

นายณรงค์ ราบเรียบ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจและศักยภาพที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กล่าวว่า ได้เชิญตัวแทนของกรุงเทพมหานคร และบมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK มาหารือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเร่งเดินหน้าพัฒนาที่ราชพัสดุโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท หรือโครงการร้อยชักสาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีข้อสรุปว่าตำรวจดับเพลิงของกทม.จะย้ายออกจากพื้นที่ทันที ภายหลังจากที่บริษัทสร้างที่พักชั่วคราวบริเวณใต้ทางด่วนสีลมเรียบร้อยแล้ว

“กทม.ยอมย้ายออกแล้ว แต่ต้องสร้างที่พักชั่วคราวให้ก่อน ซึ่งมูลค่าก่อสร้างประมาณ 4 ล้านบาทถูกมากโดยแบบแปลนอะไรก็เรียบร้อยหมดแล้ว” นายณรงค์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทแนเชอรัล พาร์คได้ขอไปปรึกษากันก่อน ที่จะดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งกรมฯก็จะเร่งติดตามความคืบหน้า เนื่องจากโครงการนี้ล่าช้ากว่ากำหนดมามากแล้ว ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถทำได้ ก็จะเสนอให้นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ พิจารณายกเลิกสัญญาต่อไป
นายณรงค์ กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่ย้ายพนักงานดับเพลิงกทม.ออกจากพื้นที่แล้ว บริษัทฯจะต้องมาปักผัง และดำเนินการก่อสร้างทันที แต่ยังไม่รู้ว่าใบอนุญาตก่อสร้างหมดอายุแล้วหรือยัง หากหมดอายุก็ต้องไปขอต่ออายุ ถึงจะก่อสร้างได้

ส่วนพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่พักถาวร ของดับเพลิงกรุงเทพมหานคร จะอยู่บริเวณโรงพิมพ์เก่า แถวสี่พระยา เนื้อที่กว่า 1 ไร่ โดยกรุงเทพมหานครจะออกงบประมาณเอง วงเงิน 60 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากบมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมที่จะเข้าดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท โดยที่ผ่านมาเกิดความล่าช้าเพราะหน่วยงานกทม.ไม่ยอมย้ายออกไป การก่อสร้างอาคารที่พักชั่วคราวให้กทม.คงไม่มีปัญหาอะไร และพันธมิตรของบริษัทก็ยังพร้อมที่จะลงทุนเปิดเป็นบูติคโฮเทล มูลค่ากว่า 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งกลุ่มอามันรีสอร์ทในฐานะหุ้นส่วนเข้าบริหาร เพราะถือว่าเป็นมืออาชีพ
“ค่าเช่าเราจ่ายครบทุกปี 3.3 ล้านบาท ปีนี้ก็จ่ายแล้วไม่มีค้างชำระ หากทุกอย่างลงตัวเราก็พร้อมที่จะเดินหน้าโครงการต่อไป” แหล่งข่าว กล่าว

ขณะที่โครงการโรงแรมสยาม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ บริเวณหลังพารากอนก็พร้อมจะเปิดดำเนินการได้ภายในเดือนตุลาคมนี้
โดยบริษัทแนเชอรัลพาร์ค ได้จ่ายค่าเช่ามาตั้งแต่ปี 2548 ปีละ 3.3 ล้านบาท และมีเงินวางประกันอีกส่วนหนึ่ง โดยในสัญญาบริษัทต้องจ่ายผลประโยชน์ค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ 1,346.3 ล้านบาท ภายใน 30 ปี แบ่งเป็น ปีที่ 1-11 ปีละ 3,300,000 บาท ปีที่ 12-16 ปีละ 30,000,000 บาท ปีที่ 17-20 ปีละ 40,000,000 บาท และปีที่ 21-30 ปีละ 100,000,000 ล้านบาท
See less See more
ธนารักษ์ไล่บี้เอ็นพาร์ค จ่อประมูลใหม่ร้อยชักสาม

Kaohoon วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2010

“อธิบดีธนารักษ์” เร่งพิจารณาข้อเสนอ “ยกเลิกสัญญาสัมปทาน” โครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท กับบริษัทแนเชอรัลพาร์ค ระบุจ่ายค่าเช่าครบไม่เกี่ยว ถ้าโครงการไม่คืบหน้า ตั้งแต่ปี 2548 พร้อมเปิดประมูลให้รายใหม่ หากบริษัทไม่ดำเนินการใดๆ

นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ได้เร่งดำเนินการโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ บริเวณโรงภาษีร้อยชักสาม หรือโรงแรมอามันรีสอร์ท ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นไปตามสัญญาร่วมทุนแล้ว โดยขณะนี้กำลังพิจารณาข้อเสนอของเจ้าหน้าที่ของกรมฯที่เสนอมา

“เปิดประมูลใหม่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คิดไว้ หากบริษัทไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ ซึ่งกรมฯได้ส่งมอบพื้นที่ให้บริษัทมาเป็นเวลานานแล้ว” นายเทวัญ กล่าว
ส่วนกรณีที่บริษัทอ้างว่าจ่ายค่าเช่าให้กรมฯครบนั้น ไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาอ้าง เพราะต้องดูที่ผลการดำเนินงานประกอบด้วย ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ดำเนินการใดๆ ที่คืบหน้าเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง โดยที่ผ่านมาตำรวจดับเพลิงของกทม.ก็พร้อมที่จะย้ายออกจากพื้นที่ทันที ภายหลังจากที่บริษัทสร้างที่พักชั่วคราวบริเวณใต้ทางด่วนสีลมเรียบร้อยแล้ว กทม.ยอมย้ายออกแล้ว แต่ต้องสร้างที่พักชั่วคราวให้ก่อน ซึ่งมูลค่าก่อสร้างประมาณ 4 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ได้เสนอเรื่องให้นายเทวัญพิจารณา กรณีความล่าช้าการก่อสร้างโรงแรมอามันรีสอร์ท หลังจากบริษัทแนเชอรัลพาร์ค ได้รับสัมปทานมาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ดังนั้น จึงมีข้อเสนออยู่ 1-2 แนวทาง โดยแนวทางหนึ่งก็เสนอให้ยกเลิกสัญญาสัมปทานกับบริษัทเอ็นพาร์ค ซึ่งกรณีนี้หากดูตามสัญญาสามารถทำได้ เนื่องจากบริษัทไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญา

“กฎหมายระบุชัดเจนว่าเอ็นพาร์คจะต้องดูเรื่องของการหาสถานที่สำหรับเคลื่อนย้ายตำรวจดับเพลิงออกจากพื้นที่ก่อสร้างโรงแรมเองทั้งหมด แต่ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ดำเนินใดๆ ในเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้โครงการล่าช้ากว่ากำหนดมาก”

โดยกรมธนารักษ์พิจารณาตามข้อกฎหมายร่วมทุน ที่ทำไว้กับเอ็นพาร์ค โดยจะก่อสร้างโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท ซึ่งจะทำเป็นบูติคโฮเทล มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท สัญญาสัมปทานนาน 30 ปี เริ่มจ่ายค่าเช่ามาตั้งแต่ปี 2548 ปีละ 3.3 ล้านบาท และมีเงินวางประกันอีกส่วนหนึ่ง

โดยในสัญญาบริษัทต้องจ่ายผลประโยชน์ค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ 1,346.3 ล้านบาท ภายใน 30 ปี แบ่งเป็น ปีที่ 1-11 ปีละ 3,300,000 บาท ปีที่ 12-16 ปีละ 30,000,000 บาท ปีที่ 17-20 ปีละ 40,000,000 บาท และปีที่ 21-30 ปีละ 100,000,000 ล้านบาท
See less See more
เอ็นพาร์คลุ้นชนะ! คดีแบงก์สินเอเซีย บอร์ดมีมติเพิ่มทุน

Kaohoon วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2010


เอ็นพาร์คมั่นใจชนะคดีเก่า สินเอเซีย 741.40 ล้านบาท ภายใน 1-2 เดือนนี้ ระบุถ้าชนะ ใช้เป็นบรรทัดฐานกับคดีอื่นได้หมด ส่วนโครงการร้อยชักสามอยู่ระหว่างเจรจาหาข้อยุติ บอร์ด "N-PARK" มีมติให้นำหุ้นสามัญ 13,645.95 ล้านหุ้นที่เหลือจากการเพิ่มทุนครั้งที่แล้ว เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาขายหุ้นละ 0.01 บาท


แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมฯอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ NPARK กรณีให้เดินหน้าโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ บริเวณโรงภาษีร้อยชักสาม หรือโรงแรมอามันรีสอร์ท ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากที่ได้ส่งหนังสือไปยังบริษัทเพื่อให้ปฏิบัติตามสัญญา

“เชื่อว่าจะสามารถเดินหน้าโครงการได้ หลังจากที่เจรจากับเอ็นพาร์ค กับกรุงเทพมหานคร เพื่อย้ายหน่วยงานดับเพลิงออกจากพื้นที่ก่อสร้างโรงแรม” แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับพื้นที่อาคารใหม่ของดับเพลิงกรุงเทพมหานคร จะอยู่บริเวณโรงพิมพ์เก่า แถวสี่พระยา เนื้อที่กว่า 1 ไร่ โดยกรุงเทพมหานครจะออกงบประมาณเอง วงเงิน 60 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามหากบริษัทแนเชอรัลพาร์ค ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญากับกรมธนารักษ์ได้ กรมฯก็จะนำเข้าสู่คณะกรรมการตามมาตรา 13 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน เพื่อเสนอให้ยกเลิกสัญญากับเอ็นพาร์คต่อไป

แหล่งข่าวจากบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ NPARK กล่าวว่า คดีที่บริษัทยื่นอุทธรณ์ต่อศาล อาทิ ธนาคารสินเอเซีย 741.40 ล้านบาท คดีบริษัท บริหารสินทรัพย์ สาทร จำกัด 212.69 ล้านบาท คดีธนาคารนครธน โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด ผู้สวมสิทธิ 130.45 ล้านบาท และคดีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของ บง.ธนนคร 55.75 ล้านบาท จะทยอยตัดสินภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยเฉพาะคดีของสินเอเซีย หากบริษัทชนะคดีก็เชื่อว่าจะใช้เป็นบรรทัดฐานสำหรับคดีที่เหลือต่อไป หลังจากนั้นพันธมิตรใหม่จึงจะเข้ามา เนื่องจากผู้ร่วมทุนต้องแน่ใจว่าหลังจากใส่เงินเพิ่มทุนแล้วจะไม่ถูกใช้ไปในการชำระหนี้เดิมที่ค้างอยู่

“หนี้ก้อนนี้เราเคลียร์ไปแล้วรอบหนึ่ง และจ่ายเจ้าหนี้ไปแล้ว แต่เมื่อบริษัทเพิ่มทุนเจ้าหนี้ก็กลับมาเรียกร้องอีก ดังนั้นผู้ร่วมทุนจึงขอดูผลการตัดสินของศาลก่อนที่จะใส่เงินเข้ามาภายในต้นปีหน้า”

ขณะที่โครงการโรงแรมสยามเคมปินสกี้และเคมปินสกี้ เรสซิเดนซ์สยาม มูลค่าโครงการ 4.5 พันล้านบาท ที่เอ็นพาร์คถือหุ้น 35% ร่วมกับทุนลดาวัลย์และกลุ่มทุนจากประเทศบาห์เรน ได้เปิดให้บริการแล้ว ซึ่งจะเป็นรายได้เข้าบริษัทอีกทางหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2553 มีมติเพิ่มทุนโดยให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมในการจองซื้อหุ้นสามัญที่เหลือจากการเพิ่มทุนครั้งที่แล้ว จำนวน 13,645,942,787 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ (ในกรณีที่มีเศษหุ้นให้ปัดทิ้ง) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.01 บาท ซึ่งเป็นราคาที่มีอัตราส่วนลดจากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.99 บาท

โดยกำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้น ระหว่างวันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2553 ถึงวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม 2553 ในระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง 15.30 น. ณ สำนักงานของบริษัท เลขที่ 540 ชั้น 7 อาคารเมอร์คิวรี่ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โทรศัพท์ 0-2658-7680-8 โทรสาร 0-2658-7677

นอกจากนี้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date) ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2553

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/53 บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 351.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 260.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 286.86% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่าย (สุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 141.45 ล้านบาท ลดลง 20.92 ล้านบาท หรือลดลง 12.88% จึงส่งผลทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 210.38 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีขาดทุนสุทธิ 71.42 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้กำไรจากการขายโครงการโรงแรมโนโวเทลบีช รีสอร์ท พันวา ภูเก็ต จำนวน 245.66 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553



ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 405.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 263.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 185.36% ขณะที่ค่าใช้จ่าย (สุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 286.52 ล้านบาท ลดลง 412.21 ล้านบาท หรือลดลง 58.99% จึงส่งผลทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 118.88 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีขาดทุนสุทธิ 556.66 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้กำไรจากการขายโครงการโรงแรมโนโวเทล บีช รีสอร์ท พันวา ภูเก็ต ตามที่ชี้แจงไปแล้วข้างต้น

นอกจากนี้ ในส่วนฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 2,867.42 ล้านบาท และหนี้สินรวม 2,520.19 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 347.23 ล้านบาท

ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้เปิดให้บริการโครงการโรงแรมสยาม เคมปินสกี้ และเคมปินสกี้ เร็ซซิเดนซ์ สยาม มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว มีจำนวนห้องพัก 303 ห้อง และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ จำนวน 99 ห้อง มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 88,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 18 ไร่ ใจกลางย่านธุรกิจ ตั้งอยู่ด้านหลังศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
See less See more
จ่อประมูลใหม่ร้อยชักสาม

วันอังคารที่ 07 มิถุนายน 2011 เวลา 10:58 น.

กรมธนารักษ์ เล็งบอกเลิกสัมปทาน 30 ปี ที่ดินทำเลทองริมเจ้าพระยาโรงภาษีร้อยชักสาม 18 ไร่ ย่านบางรัก กับเอ็น-พาร์ค ที่ชนะประมูลผุดโรงแรมอามันรีสอร์ทค่า 1,000 ล้านบาท แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีการก่อสร้าง เร่งหารือที่ปรึกษากฎหมายจี้ให้ปฏิบัติตามสัญญา ย้ำท้ายสุดต้องเลิกสัญญาและเปิดประมูลใหม่ก็ยอม ด้านเอ็น-พาร์คยันทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง รวมถึงจ่ายค่าเช่าปีละ 3 ล้าน ชี้ยังก่อสร้างไม่ได้ เพราะติดปัญหาย้ายคนออกจากพื้นที่

ตามที่ บริษัท เนเชอรัลพาร์ค จำกัด(มหาชน) หรือ เอ็น-พาร์ค ชนะการประมูลเช่าที่ดินโรงภาษีร้อยชักสาม รวมเนื้อที่ 18ไร่ (รวมอาคารชดเชย) ของกรมธนารักษ์ เพื่อพัฒนาเป็นโรงแรม และที่ผ่านมาได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี พร้อมทั้งจ่ายค่าเช่ารายเดือนนับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมาแต่ปรากฏว่า ปัจจุบันยังไม่มีการก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด

นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกรมธนารักษ์ คือ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด ว่ากรม จะบังคับตามสัญญาทางกฎหมายได้แค่ไหนเพียงไร กับที่ดินโรงภาษีร้อยชักสาม ย่านบางรัก ที่ เอ็น-พาร์ค ได้รับสัมปทาน ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยยึดเงื่อนไขสัญญาเป็นหลัก ทั้งนี้เมื่อที่ปรึกษากฎหมายให้ความเห็นมา จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปได้บ้างภายใต้กรอบเวลาดำเนินการทางกฎหมายของกรม คือ ต้องการดำเนินการให้เร็วที่สุด

"แม้แต่ทางออกสุดท้าย คือ ต้องบอกเลิกสัญญา ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนและหาผู้ร่วมประมูลใหม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี กรม ยังต้องรอดูว่า คู่สัญญาจะปฏิบัติตามสัญญาทางกฎหมายที่ระบุไว้หรือไม่ แต่ก็ไม่น่าเป็นห่วง"

ขณะเดียวกัน กรมได้อาศัยมาตรา 22 ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) รัฐร่วมลงทุนเอกชน ปี 2535 โดยอาศัยอำนาจ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการร่วมค้า ที่มีอธิบดีกรมธนารักษ์เป็นประธาน ให้บริษัทดังกล่าวเร่งดำเนินไปตามกรอบที่ตกลงกันไว้ และหากผิดสัญญา ก็สามารถเอาผิดกับเอ็น-พาร์ค ได้

อย่างไรก็ดี ที่ดินพัสดุโรงภาษีร้อยชักสาม บนที่ดิน18ไร่(รวมอาคารชดเชย) บริเวณถนนเจริญกรุง 36 เขตบางรัก เอ็น-พาร์ค ได้มีแผนพัฒนาโรงแรมอามันรีสอร์ท มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท สัญญาสัมปทาน 30 ปี นับจากปี 2548 แต่ปัจจุบันยังไม่มีการก่อสร้าง ซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดจากสถานีตำรวจดับเพลิงบางรักยังไม่ได้ย้ายออกไป เพราะมีปัญหาว่า เดิมสถานีดับเพลิงขึ้นอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ต่อมาได้โอนให้กับกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นผู้ดูแล ส่งผลให้ไม่ทราบว่า ค่าใช้จ่ายในการรื้อย้ายและก่อสร้างอาคารแห่งใหม่ หน่วยงานไหนจะเป็นผู้รับผิดชอบ

"บริษัทดังกล่าวไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ ขณะเดียวกันกรมได้ติดตามทวงถามอยู่ตลอดเวลาพร้อมทั้ง หารือกับที่ปรึกษากฎหมาย ว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนเพียงไร ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยยึดเงื่อนไขตามสัญญาเป็นหลัก"

ทั้งนี้เมื่อสามารถบังคับตามสัญญาทางกฎหมายได้ ก็ต้องมีการฟ้องร้อง ซึ่งการได้รองอัยการสูงสุดมาเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายมาดูแลตั้งแต่ต้น จะดำเนินการทางกฎหมายได้เร็ว เสร็จสิ้นในสมัยนี้แน่นอน อีกทั้งโครงการมูลค่าไม่สูงมากแค่ 1,000 ล้านบาท จากที่ผ่านการดำเนินการของกรม กับ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) ผู้รับสัมปทานโครงการร้อยชักสามเป็นเพียงการทำหนังสือแจ้งเตือน โดยบริษัท แนเชอรัลพาร์คฯ ได้จ่ายค่าเช่ามาตั้งแต่ปี 2548 ปีละ 3.3 ล้านบาท และมีเงินวางประกันอีกส่วนหนึ่ง โดยในสัญญาบริษัทต้องจ่ายประโยชน์ค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ 1,346.3 ล้านบาท ภายใน 30 ปี แบ่งเป็นปีที่1-11 ปีละ 3,300,000 บาท ปีที่12-16 ปีละ 30,000,000 บาท ปีที่ 17-20 ปีละ 40,000,000 บาท และปีที่ 21-30 ปีละ 100,000,000 บาท

ด้านแหล่งข่าวจาก บรษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของความคืบหน้าการพัฒนาโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท กรุงเทพฯ ที่บริเวณโรงภาษีร้อยชักสามนั้น ปัจจุบันบริษัทได้หารือกับกรมธนารักษ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธนารักษ์ และยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขใดๆ เพราะบริษัทก็จ่ายค่าเช่าให้กับกรมธนารักษ์ทุกปีปีละ 3 ล้านบาท ส่วนกรณีที่โครงการนี้ไม่สามารถเริ่มก่อสร้างได้ นั้น เนื่องจากติดปัญหาการย้ายคนออกจากพื้นที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ แต่บริษัทเชื่อว่าที่ผ่านมาไม่ได้ทำผิดสัญญากับกรมธนารักษ์ ฉะนั้นกรมธนารักษ์จะมาล้มสัญญาหรือเปิดประมูลใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ เข้ามา เชื่อว่าไม่น่าจะทำได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,642 9-11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

http://www.thanonline.com/index.php...7-04-00-50&catid=128:-real-estate-&Itemid=478
See less See more
N-PARKยันพร้อม พัฒนาร้อยชักสาม รอแค่ส่งมอบพื้นที่

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2011

"N-PARK" แจงมีศักยภาพพร้อมพัฒนาโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท (ร้อยชักสาม) ยันตลอดเวลาที่ทำสัญญาเช่าปฏิบัติตามทุกข้อสัญญา พร้อมกับได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมถึง 2 ครั้งให้กรมธนารักษ์หยุดนับอายุการบริหารโครงการและระยะเวลาเช่าตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 48 ไปจนกว่าจะถึงวันที่กรมธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่โครงการ

นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนของกิจการร่วมค้า (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) บริษัท อามันรีสอร์ท เซอร์วิสเซส ลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด) เปิดเผยชี้แจงการก่อสร้างโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่โรงภาษีเก่าร้อยชักสาม (โครงการร้อยชักสาม) ว่า บริษัทและผู้ร่วมทุนมีความพร้อมและศักยภาพที่จะดำเนินการก่อสร้างและพัฒนาโครงการตลอดระยะเวลาที่ได้เข้าทำสัญญาร่วมลงทุนและสัญญาเช่ากับกระทรวงการคลังและได้ปฏิบัติตามข้อสัญญาที่เกี่ยวข้องมาโดยลำดับ

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทได้เร่งประสานงานกับกรมธนารักษ์เพื่อให้โยกย้ายหน่วยราชการซึ่งไม่ปรากฏใน TOR และสัญญาร่วมลงทุนที่ใช้พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในขณะนี้ ออกจากพื้นที่โครงการเพื่อบริษัทจะได้พัฒนาโครงการให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว อีกทั้งบริษัทได้ลงทุนในโครงการนี้ไปแล้วหลายร้อยล้านบาท ซึ่งบริษัทได้พยายามแก้ปัญหาด้วยการทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังถึงสองครั้ง เพื่อขอให้กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์พิจารณาหยุดนับระยะเวลา “อายุการบริหารโครงการ” และ “ระยะเวลาเช่า” ตามสัญญาร่วมลงทุนฉบับลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 โดยขอให้หยุดนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2548 ไปจนกว่าจะถึงวันที่กรมธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่โครงการให้แก่บริษัท

สำหรับโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท เป็นโครงการโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 36 บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บนเนื้อที่ 5 ไร่ 60 ตารางวา ประกอบด้วยห้องพัก 35 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การออกแบบยึดหลักแนวความคิดการพัฒนาเชิงอนุรักษ์โบราณสถาน (Heritage Development) เน้นความกลมกลืนระหว่างสิ่งก่อสร้างอาคารโบราณสถานโรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี กับกลุ่มอาคารใหม่ โรงแรมดังกล่าวจะบริหารงานโดยกลุ่มอามันรีสอร์ท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก

http://www.kaohoon.com/daily/index....3:n-parklbrglbrg&catid=79:2010-04-19-17-57-26
See less See more
กรมธนารักษ์ส่ายหน้า

วันพฤหัสบดีที่ 08 มีนาคม 2555

ธนารักษ์เผยส่งอัยการสูงสุดตรวจทานข้อกฎหมาย ก่อนบอกเลิกสัญญาโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสามของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หลังโครงการไม่คืบ เบี้ยวค่าเช่า ขณะที่บริษัทเร่งเพิ่มทุนขาดสภาพคล่องหนัก

แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯได้ส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจสอบข้อกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสาม หรือโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท มูลค่าพันกว่าล้านบาท ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค ในฐานะกลุ่มกิจการร่วมค้า N-PARK บริษัท อามันรีสอร์ท เซอร์วิสเซส ลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด ก่อนที่จะบอกเลิกสัญญา

เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้ดำเนินโครงการให้คืบหน้าตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ และไม่ได้จ่ายค่าเช่าที่ดินให้กรมธนารักษ์มาหลายงวดแล้ว “เอ็นพาร์คไม่ได้ส่งคนมาเจรจาเลย และไม่ได้มีการติดต่อกันมานานแล้ว ค่าเช่าก็ไม่ยอมจ่าย โครงการก็ไม่เดินหน้า

ดังนั้นกรมฯจึงจำเป็นต้องบอกเลิกสัญญาเพื่อหารายใหม่เข้ามาดำเนินการแทน” แหล่งข่าวกล่าว อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวว่า บริษัทเอ็นพาร์คกำลังหาผู้ที่จะเข้ามาซื้อโครงการนี้ต่อ แต่ก็ต้องมาเจรจากับทางกรมธนารักษ์ก่อน

ขณะที่บริษัทเองก็อยู่ระหว่างเพิ่มทุนโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 5 มีนาคม มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 6.04 หมื่นล้านบาท จากทุนจดทะเบียน 6.04 หมื่นล้านบาท เป็น 1.2 แสนล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 6.04 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในราคาหุ้นละ
0.02 บาท กำหนดจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 21-25 พฤษภาคมนี้

โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ 495.71 ล้านบาท ไปใช้สิทธิในการซื้อคืนที่ดินตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงไทยภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 และเงินส่วนที่เหลือจำนวน 114.29 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

http://kaohoon.com/daily/18948/กรมธนารักษ์ส่ายหน้า-.htm
See less See more
คลังยื่นโนติสถึงเอ็นพาร์ค

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2555

รองปลัดกระทรวงการคลังสั่งกรมธนารักษ์ลงดาบเอ็นพาร์ค ยื่นโนติสบอกเลิกสัญญาโรงแรมอามันรีสอร์ท ริมเจ้าพระยา หากสัปดาห์นี้เจรจาไม่ได้ข้อยุติ หลังค้างมานาน 7 ปี พร้อมทั้งริบเงินประกันทั้งหมด ดึงกลุ่ม “เสี่ยเจริญ” เสียบแทน

แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะเรียกผู้บริหารหรือตัวแทนของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือเอ็นพาร์ค (N-PARK) มาพบ เพื่อขอความชัดเจนว่าจะดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามสัญญาได้เมื่อใด หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ กรมฯก็จะทำหนังสือบอกกล่าว หรือโนติส ส่งให้กับบริษัทเพื่อยกเลิกสัญญาสัมปทานที่ทำไว้

“สัปดาห์นี้กรมฯจะเชิญตัวแทนของเอ็นพาร์คมาเพื่อบอกกล่าวให้บริษัททำตามสัญญาเดินหน้าโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ทโดยทันที หลังจากที่งานค้างมานานกว่า 7 ปี” แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับเหตุผลที่ธนารักษ์ต้องบอกเลิกสัญญา เนื่องจากบริษัทไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างตามเวลาที่กำหนดได้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็จะอ้างว่าเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ถ่วงเวลาการก่อสร้างมาโดยตลอด
และบริษัทยังค้างค่าเช่า 2-3 งวดถือว่าผิดสัญญาเช่นกันทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่ต้องการเร่งรัดโครงการต่างๆ ที่ค้างอยู่มาเป็นเวลานาน หลังจากที่นายมนัส แจ่มเวหา รองปลัดกระทรวงการคลังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างโรงแรมอามันรีสอร์ท ก็มีคำสั่งให้กรมฯไปเร่งดำเนินการเจรจากับเอ็นพาร์ค หากไม่สำเร็จก็คงต้องบอกเลิกสัญญา

อย่างไรก็ตามหากบริษัทจะหาพันธมิตรใหม่มาดำเนินการแทน กรมฯก็พร้อมที่พิจารณา แต่ถ้าหาไม่ได้ ก็จะเปิดประมูลโครงการใหม่ ซึ่งมีหลายเจ้าที่สนใจ ก่อนหน้านี้กลุ่มเสี่ยเจริญก็เคยเข้าร่วมประมูลโครงการนี้สำหรับโรงแรมอามันรีสอร์ท ตั้งอยู่บนที่ราชพัสดุ 18 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่โรงภาษีเก่าร้อยชักสาม บริเวณถนนเจริญกรุง 36 เขตบางรัก มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท โดยบริษัท แนเชอรัลพาร์คได้จ่ายค่าเช่ามาตั้งแต่ปี 2548 ปีละ 3.3 ล้านบาท และมีเงินวางประกันอีกส่วนหนึ่ง
โดยในสัญญาบริษัทต้องจ่ายผลประโยชน์ค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ 1,346.3 ล้านบาท ภายใน 30
ปี แบ่งเป็นปีที่ 1-11 ปีละ 3.3 ล้านบาท ปีที่ 12-16 ปีละ 30 ล้านบาท ปีที่ 17-20 ปีละ 40 ล้านบาท และปีที่ 21-30 ปีละ 100 ล้านบาท

นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) กล่าวว่า การพัฒนาโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ทบนพื้นที่โรงภาษีร้อยชักสามนั้น ขณะนี้ยังติดปัญหาเดิมที่กรมธนารักษ์ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ เนื่องจากหน่วยงานราชการที่ใช้อาคารยังไม่ยอมย้ายออก แม้ว่าขณะนี้บริษัทและกิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ถือสิทธิในที่ดินดังกล่าว ยังมีความตั้งใจที่จะดำเนินโครงการต่อไป

http://www.kaohoon.com/daily/21263/คลังยื่นโนติสถึงเอ็นพาร์ค-.htm
See less See more
คลังขู่เอ็นพาร์ค ยกเลิกสัญญา ที่'ร้อยชักสาม'

เศรษฐกิจ 28 August 2555 - 00:00

นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ได้แจ้งให้ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (เอ็นพาร์ค) ยืนยันการบริหารที่ราชพัสดุแปลง โรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซอยเจริญกรุง 36 เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 5 ไร่ ว่าจะบริหารต่อไปหรือไม่ หลังจากที่ดำเนินการมา 7 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้าในโครงการนี้เลย

"ความล่าช้าของโครงการทำให้กรมธนารักษ์เสียโอกาสไปมาก เพราะตามสัญญาเอกชนจะต้องเริ่มจ่ายค่าเช่าหลังจากที่มีการก่อสร้างโครงการเสร็จแล้ว" นายนริศ กล่าว

ทั้งนี้ โครงการร้อยชักสาม กรมธนารักษ์ได้เซ็นสัญญากับเอกชน ตั้งแต่ปี 2548 กรมธนารักษ์ได้ค่าธรรมเนียมเช่าที่ดิน 125 ล้านบาท และค่าเช่ารายปีตลอดอายุสัมปทาน 30 ปี รวมกันอีก 1,346 ล้านบาท แต่เอกชนต้องก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยให้ตำรวจดับเพลิงน้ำของกรุงเทพมหานคร วงเงิน 153 ล้านบาท ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ซึ่งเป็นปัญหาดำเนินการไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่เพื่อพัฒนาต่อไปได้

นายนริศ กล่าวอีกว่า หากบริษัทเอ็นพาร์ค ไม่สามารถดำเนินการโครงการต่อไปได้ ก็จะทำการยกเลิกสัญญา และอาจให้สถานทูตฝรั่งเศสเช่าเป็นที่ทำการสถานทูตใหม่
แทนที่เดิม

ด้าน นายชาญณัฏฐ์ แก้วมณี รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้ทำหนังสือเพื่อขอความเห็นต่ออัยการสูงสุด กรณีโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสาม ว่าจะยกเลิกสัญญาได้หรือไม่.

http://www.thaipost.net/news/280812/61618
See less See more
สถานทูตตปท.รุมจีบที่ร้อยชักสาม "ธนารักษ์"เซ็งติดคดีเอ็นพาร์ค เร่งถามอัยการสูงสุดหาข้อยุติ

วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11:18:39 น.


"ธนารักษ์"ฟุ้งที่ร้อยชักสามเนื้อหอม สถานทูต ตปท.สนใจเช่า แต่ติดปัญหาเอ็นพาร์ค-กทม.ยืดเยื้อกว่า 7 ปี เร่งทำหนังสือถามอัยการสูงสุดหาทางยุติสัญญา แย้มไอเดียผุดศูนย์ราชการเมืองนอก หลังราคาอสังหาฯยุโรปดิ่ง

นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานทูตต่างประเทศแสดงความสนใจที่จะเช่าที่ราชพัสดุเป็นที่ทำการหลายแห่ง ซึ่งในที่แปลงร้อยชักสาม สถานทูตฝรั่งเศสก็สนใจที่จะเช่าเป็นที่ทำการสถานทูตแห่งใหม่ เพราะเห็นว่าเป็นที่ติดริมน้ำสวยงามและยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามด้วย แต่ยังมีสัญญาเดิมกับบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นพาร์ค รวมทั้งมีแนวคิดที่จะจัดซื้ออาคารในต่างประเทศ เพื่อทำเป็นที่ราชพัสดุให้หน่วยงานราชการของไทยเช่าในต่างประเทศ ด้วยการทำเป็นรูปแบบศูนย์ราชการให้ทุกหน่วยงานมาอยู่รวมกัน หรืออาจใช้เป็นพื้นที่ศูนย์แสดงสินค้าของไทยในต่างประเทศ หลังจากที่สหภาพยุโรปกำลังประสบปัญหากับวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงต่ำมาก โดยเฉพาะในฝรั่งเศส

นายชาญณัฏฐ์ แก้วมณี รองอธิบดี กรมธนารักษ์เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลง โรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซอยเจริญกรุง36 เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 50-60 ไร่ ว่า กรมธนารักษ์รอผลการไกล่เกลี่ยทางแพ่งระหว่างเอ็นพาร์ค บริษัท อามันรีสอร์ท เซอร์วิสเซส ลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด จำกัด ที่เป็นคู่สัญญากับกรมธนารักษ์ ที่มีข้อพิพาทกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้มีข้อยุติก่อนว่า กรณีการไม่พัฒนาโครงการตามสัญญาดังกล่าวเป็นความผิดของใคร จึงจะสามารถตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปได้

นายชาญณัฏฐ์กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอความเห็นต่ออัยการสูงสุด กรณีข้อพิพาทดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มผู้ชนะในการประมูลพัฒนาที่ดังกล่าวคือเอ็นพาร์ค ไม่พัฒนาพื้นที่ตามสัญญา หลังจากได้ลงนามในสัญญาตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2548 โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถเข้าพัฒนาพื้นที่ได้ เพราะผู้ใช้พื้นที่เดิมคือ สถานีดับเพลิง

ของ กทม.ไม่ยอมย้ายออก แต่ดับเพลิงให้เหตุผลว่า เป็นเพราะกลุ่มเอ็นพาร์คไม่สร้างที่ทำการและที่พักแห่งใหม่ให้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับกรมธนารักษ์ จึงเป็นความขัดแย้งที่จะต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาตัดสิน

"เราได้สอบถามไปยังอัยการสูงสุด เพื่อหาทางยกเลิกสัญญากับเอ็นพาร์ค เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการตามข้อตกลงได้แม้ว่าเวลาจะผ่านมาแล้ว 7 ปี แต่เมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้น ก็ต้องรอข้อยุติจากทางอัยการสูงสุดก่อน หากสรุปว่าเอ็นพาร์คผิด เราก็ต้องบอกเลิกสัญญาไปพร้อมกับการยึดหลักประกันที่ทำไว้ รวมถึงการพิจารณาค่าชดเชยทางแพ่งต่อไป เพราะทำให้สูญเสียโอกาสในการพัฒนาที่ดินดังกล่าวในเชิงพาณิชย์และผลประโยชน์มหาศาล" นายชาญณัฏฐ์กล่าว



(ที่มา:มติชนรายวัน 28 สิงหาคม 2555)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1346127080&grpid=&catid=05&subcatid=0508
See less See more
ที่ดินร้อยชักสามร้อน ‘เสี่ยเจริญ’จ้องเสียบ

“กลุ่มเสี่ยเจริญ”เตรียมฮุบร้อยชักสาม ริมฝั่งเจ้าพระยา เจริญกรุง 36 ธนารักษ์ประกาศพร้อมเปิดประมูลใหม่ หากเอ็นพาร์คไม่รีบดำเนินการภายใน 30-60 วัน หลังยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการ ขู่เลิกสัญญาเช่าพื้นที่ ให้กลุ่มมาลีนนท์ผู้ถือหุ้นใหญ่ NPARK นายชาญณัฏฐ์ แก้วมณี รองอธิบดีกรมธนารักษ์ (ด้านที่ราชพัสดุ) กล่าวว่า กรมฯเตรียมที่จะยื่นหนังสือไปยังบมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือ NPARK ภาย ในเดือนมกราคมนี้

http://www.kaohoon.com/daily/335085/ที่ดินร้อยชักสามร้อน-‘เสี่ยเจริญ’จ้องเสียบ.htm
See less See more
คลังแตกหักเอ็นพาร์ค เจริญ’สนร้อยชักสาม

ธนารักษ์จัดหนักแนเชอรัล พาร์ค หรือ NPARK เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท บริเวณโรงภาษีร้อยชักสาม ภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ หากไม่คืบฉีกสัญญาทันที เปิดทางประมูลใหม่ กลุ่มเสี่ยเจริญจ้องตาเป็นมัน เชื่อมโครงการเอเชียทีค

นายชาญณัฏฐ์ แก้วมณี รองอธิบดีกรมธนารักษ์ เผยว่าคณะกรรมการประสานงาน ที่มีอธิบดีกรมธนารักษ์เป็นประธาน ได้ประชุมกันเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่โครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ราชพัสดุโรงภาษีร้อยชักสาม ภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ หากคู่สัญญายังบมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือ NPARK ไม่ได้ดำเนินการตามสัญญา ก็จะพิจารณายกเลิกสัญญาทันที

“ถ้าวันที่ 30 เม.ย.ลงพื้นที่แล้วไม่มีอะไรคืบหน้า กรมฯก็จะพิจารณายกเลิกสัญญากับเอ็นพาร์ค ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำหนังสือไปยังกลุ่มนายประชา มาลีนนท์ ให้เร่งดำเนินการภายใน 60 วัน ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 30 เม.ย.นี้”

ขณะที่การเจรจาที่ผ่านมาบริษัทได้อ้างว่ากรมฯไม่ได้ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ โดยเฉพาะโบราณสถานที่เป็นที่อยู่ของพนักงานดับเพลิง ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะมีการก่อสร้างห้องพักเพียง 3 ห้องเท่านั้น จากทั้งหมด 33 ห้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทอ้างมาโดยตลอด แต่ในความเป็นจริงแล้ว บริษัทไม่ยอมจ่ายค่าชดเชย หรือหาสถานที่อยู่ใหม่ให้กับหน่วยงานดับเพลิงตามสัญญาที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าบริษัทจะจ้างบริษัทรับเหมาทุบอาคารมาแล้วก็ตาม

ดังนั้นหากบริษัท NPARK มีความจริงใจที่จะก่อสร้างโครงการนี้ ก่อนหน้าวันที่ 30 เม.ย.จะต้องเริ่มดำเนินการตามสัญญา แต่ที่รู้มาขณะนี้บริษัทพยายามที่จะขายโครงการนี้อยู่ ทำให้ไม่ยอมดำเนินการต่อ และยังขอให้ธนารักษ์เพิ่มอายุสัมปทานโครงการออกไปอีก 8-9 ปี ซึ่งจุดนี้มองว่าไม่เป็นธรรมกับรัฐ

ในขณะที่กลุ่มนายประชา มาลีนนท์ กลับนำเงินลงทุนไปซื้อที่ดินแปลงใหม่ และปรับโครงสร้างหนี้ แสดงให้เห็นว่ามีความพร้อมด้านเงินลงทุน แต่ไม่ยอมนำมาก่อสร้างโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท กรุงเทพฯ ที่ล่าช้ามานานกว่า 7-8 ปีแล้ว

ทั้งนี้หากกรมฯบอกเลิกสัญญากับเอ็นพาร์คก็จะมีการเปิดประมูลโครงการใหม่ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้สนใจที่จะพัฒนาโครงการนื้ค่อนข้างมาก รวมถึงทั้งกลุ่มของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือเสี่ยเจริญ โดยที่ราชพัสดุ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณโรงภาษีร้อยชักสาม ซอยเจริญกรุง 36 บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ซึ่งเป็นที่ต้องการของเสี่ยเจริญมานานแล้ว ซึ่งกลุ่มนี้มีโครงการอยู่บริเวณนี้หลายแห่ง อาทิ โครงการเอเชียทีค เดอะริเวอร์ ฟร้อนท์ บริเวณซอยเจริญกรุง 72 - เจริญกรุง 74 เป็นต้น

http://www.kaohoon.com/daily/336897/คลังแตกหักเอ็นพาร์ค-.htm
See less See more
“เอ็นพาร์ค” ลั่นการเงินไม่มีปัญหา ลั่นพร้อมสานโครงการ “ร้อยชักสาม”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มิถุนายน 2556 14:16 น.

“เอ็นพาร์ค” ยังหวังเข้าบริหารโครงการร้อยชักสาม บนที่ดินของกรมธนารักษ์ แจงปัญหาเกิดจากการที่หน่วยงานดับเพลิงบางรัก ขึ้นตรงกับ กทม.และยังไม่ย้ายออกจากพื้นที่ รอคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติฯ สำนักงานอัยการสูงสุดชี้ขาด ลั่นฐานะการเงินไม่มีปัญหา

นายบุรินทร์ ภู่ศิริ กรรมการ บริษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK กล่าวชี้แจงถึงโครงการ อามันรีสอร์ท กรุงเทพฯ บนพื้นที่ราชพัสดุโรงภาษีร้อยชักสาม ภายใต้การดำเนินงานของกิจการค้าร่วม คือ บริษัท แนเชอรัล พาร์คฯ บริษัท อามันรีสอร์ท เซอร์วิสเซส ลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ดว่า เป็นโครงการที่ได้ทำสัญญาร่วมลงทุนกับ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อพัฒนาพื้นที่ราชพัสดุซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารโรงภาษีร้อยชักสาม โดยมีพื้นที่ 5-0-60 ไร่ ซอยเจริญกรุง 36 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ เพื่อบริหารที่ดินราชพัสดุให้คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมีแผนการปรับปรุงซ่อมแซมอนุรักษ์อาคารโบราณสถานเพื่อพัฒนาเป็นกิจการโรงแรม ภายใต้ชื่อโครงการอามันรีสอร์ท กทม. มีการลงนามข้อตกลงในวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 และสัญญาการเช่าพื้นที่มีระยะเวลา 30 ปี

แต่ถึงกระนั้น การที่กิจการค้าร่วมฯ ไม่สามารถพัฒนาโครงการตามแผนคือ การที่กรมธนารักษ์ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 กิจการค้าร่วมฯ ได้มีการดำเนินการตามแผนเบื้องต้นและลงทุนไปแล้วเป็นจำนวนทั้งสิ้นกว่า 250 ล้านบาท ทั้งในเรื่องการศึกษาออกแบบการก่อสร้าง เงินประกัน การลงฐานรากอาคารทดแทน พร้อมทั้งได้มีการจ่ายค่าเช่าตามสัญญา แต่กิจการค้าร่วมฯ ไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการตามแผนที่ได้เสนอต่อกรมธนารักษ์ได้ เนื่องจากหน่วยงานราชการคือ หน่วยงานดับเพลิงบางรัก ที่โอนย้ายจากสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปสังกัดกรุงเทพฯ ยังไม่ย้ายออกออกจากพื้นที่ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกิจการค้าร่วมฯ จะดำเนินการใดๆ ได้ และตามสัญญาระบุว่า หากเป็นหน่วยงานของรัฐจะเป็นหน้าที่ของกรมธนารักษ์ในการประสานให้หน่วยราชการนั้นย้ายออกไป

“ทำให้ทางกิจการค้าร่วมฯ จำเป็นต้องระงับการจ่ายค่าเช่าตั้งแต่ปี 2553 หลังจากได้ใช้เงินลงทุนกับโครงการไปเป็นจำนวนกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งกิจการค้าร่วมฯ เห็นว่า เป็นการลงทุนแต่ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ต่อได้ ทั้งนี้ กิจการค้าร่วมฯ ได้เพียรพยายามหารือ และขอให้กรมธนารักษ์ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนกระทั่งในการประชุมคณะกรรมการประสานงานฯ ครั้งที่ 1/2554 วันที่ 31 สิงหาคม 2554 ได้มีมติให้ส่งเรื่องปัญหาการโยกย้ายหน่วยงานดับเพลิงบางรัก สังกัดกรุงเทพฯ อันเป็นกรณีพิพาทระหว่างหน่วยราชการด้วยกันเอง ไปยังคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาชี้ขาด ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการดังกล่าว”

นายบุรินทร์ กล่าวยืนยันว่า การที่โครงการอามันรีสอร์ทไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเงินของบริษัทในอดีต และแม้ในปัจจุบัน ซึ่งทางบริษัทยังคงเล็งเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ และยังคงยึดมั่นในรูปแบการพัฒนาเป็นกิจการโรงแรมในแบบโบราณสถานเพื่อเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าแก่การอนุรักษ์อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และยังมีความประสงค์ดำเนินการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในข้อตกลง และดำเนินการตามแผนดังกล่าวต่อไป

http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000068122
See less See more
'โต้ง'หวังโกยเงินเข้าคลัง4หมื่นล.

วันอาทิตย์ที่ 08 กันยายน 2013 เวลา 10:22 น.

"กิตติรัตน์"บี้กรมธนารักษ์ ขุดกรุที่ดินทำเลทองราชพัสดุพัฒนาเชิงพาณิชย์หารายได้ ให้เห็นรูปธรรมภายในปีนี้ มั่นใจโกยรายได้เข้าคลังปีละ 4 หมื่นล้านบาท นำร่องที่ดินใจกลางเมืองซอยพิพัฒนา 2บางรัก-สีลม15ไร่ /ที่ดินประดิพัทธ์ 8-9ไร่/ที่ดินร.ส.พ. สะพานควาย 3ไร่ครึ่ง พัฒนาเป็นอพาร์ตเมนต์

โรงแรม 4-5 ดาว ช็อปปิ้งมอลล์ คอนโดมิเนียม ส่วนโปรเจ็กต์ยักษ์ ที่ดินหมอชิต ศึกษาจบ เนรมิตพัฒนารูปแบบมิกซ์ยูส เกือบแสนตารางเมตร คุกคลองเปรม 400 ไร่ จ้างธรรมศาสตร์ศึกษาเล็งเปิดประมูลให้เอกชนพัฒนารวมทั้งศูนย์ราชการเฟส 3 ส่วนร้อยชักสาม ให้เอ็นพาร์คลุยรื้อส่วนราชการตำรวจน้ำ-ชุมชนผุดโรงแรมด่วน

นายชาญณัฏฐ์ แก้วมณี รองอธิบดีกรมธนารักษ์เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายเร่งรัดให้กรมธนารักษ์ นำที่ดินที่ราชพัสดุแปลงที่มีศักยภาพออกหารายได้เชิงพาณิชย์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะทำเลในเขตกรุงเทพมหานครหลักๆมี 5-6 แปลง ประกอบด้วย 3 แปลงแรกทำเลใจกลางเมือง คือ ที่ดินที่ตั้งอยู่บริเวณซอยพิพัฒน์ 2 บางรัก-สีลม ด้านหลังธนาคารกรุงเทพจำนวน 15 ไร่ ซึ่งปัจจุบันมีชุมชนอยู่อาศัยประมาณ 90-100 หลังคาเรือน ซึ่งจะต้องเจรจาและจัดหาที่อยู่ใหม่แต่จะให้อยู่ในพื้นที่เดิม โดยตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจศึกษาความเป็นไปได้

อย่างไรก็ดีแม้ที่ดินแปลงดังกล่าวจะอยู่กรุงเทพฯชั้นในแต่มีจุดด้อยที่ทางเข้าออกกว้างเพียง 5 เมตร ทำให้ไม่สามารถสร้างตึกสูงเกิน 23เมตรได้ ทางออกจึงต้องใช้งบ 20-30 ล้านบาท ซื้อที่ดินจำนวน3-4แปลงเพื่อขยายเขตทางให้กว้าง 6 เมตร ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แต่ปัญหายังติดขัดอยู่ที่วัดคาทอลิก หรืออารามชีมืด ยังไม่ยินยอมขายที่ดินให้ โดยทำเลดังกล่าว กรมเน้นพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 20-30 ชั้น ซึ่งราคาที่ดินประมาณตารางวาละ 1 ล้านบาท และมีรถไฟฟ้าบีทีเอสผ่าน เมื่อรวมมูลค่าที่ดินเกิน1 พันล้านบาทต้องเข้าพ.ร.บ. ร่วมทุน แปลงที่ 2 โรงกษาปณ์เก่า ย่านถนนประดิพัทธ์ บริเวณ โรงแรมอลิศเบศ โรงแรมลิโด ซึ่งส่วนราชการใช้พื้นที่อยู่ หากอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่เกียกกายเปิดใช้กรมจะขอพื้นที่คืนและนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ ซึ่งมูลค่าที่ดินไม่ต่ำกว่า พันล้านบาท ต้องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุน โดยเป้าหมายจะพัฒนาเป็นช็อปปิ้งมอลล์ โรงแรม 4-5 ดาว อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียมพักอาศัย ฯลฯ เนื่องจากเป็นทำเลที่ดีมาก เพราะ ใกล้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย

แปลงที่ 3 ที่ดินร.ส.พ.บริเวณสะพานควายใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานควาย เนื้อที่ 3ไร่ครึ่ง ซึ่งเป็นที่ดินที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพมาก เนื่องจากใกล้กับแหล่งชุมชน รถไฟฟ้า จตุจักร แหล่งช็อปปิ้ง โดยจะเน้นพัฒนาเป็นแมนชั่นให้เช่า แต่ติดปัญหา แปลงที่ดินห่างจากคอสะพานไม่ถึง 50 เมตร ส่งผลให้กรมต้องเจรจาซื้ออาคารพาณิชย์ 2-3 คูหา ด้านหน้าที่ขวางทางเข้าออกแปลงที่ดินอยู่ ซึ่งขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะยินยอมขายให้ ทำให้ ที่ดินมีขนาดแปลงที่กว้างขึ้นถึง 12 เมตร และสามารถสร้างตึกสูง 20-30 ชั้นได้หลายอาคาร โดยมูลค่าที่ดินและโครงการเกินพันล้านบาท ซึ่งจะต้องเข้าตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) รัฐร่วมลงทุนเอกชนพ.ศ.2535

รองอธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ แปลงที่ดินขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ของกรม ที่เร่งดำเนินการเช่นกัน ได้แก่ ที่ดินหมอชิต ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสปลายทางหมอชิต เนื้อที่ 63 ไร่ ขณะนี้บริษัทที่ปรึกษาได้ศึกษาเสร็จแล้วมี 8 ทางเลือก โดยกรมเลือกให้มีสถานีขนส่งและบริการสาธารณะในพื้นที่ โดยเป้าหมายจะพัฒนาพื้นที่ 9 แสนตารางเมตร และมอบให้กรมการขนส่งทางบก 1 แสนตารางเมตร ตามเงื่อนไขสัญญาเดิม ทำให้เหลือพื้นที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ 8 แสนตารางเมตร ซึ่งจะพัฒนารูปแบบผสมผสาน ประกอบด้วย โรงแรมระดับ 4-5 ดาว ศูนย์การค้าช็อปปิ้งมอลล์ คอนโดมิเนียม แต่ยืนยันขอใช้ FAR ( Floor Area Ratio) หรือ อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน10 :1 หรือสร้างได้ 10 เท่าของแปลงที่ดิน ตามกฎกระทรวงผังเมืองรวม กรุงเทพมหานครฉบับเก่าปี 2542 ฉบับเก่า 10:1 แต่ ผังเมืองรวมกทม.ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 พ.ศ. 2556 ที่บังคับใช้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา ที่กำหนดให้ที่ดินบริเวณหมอชิตใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม พ.4 FAR ( Floor Area Ratio) หรืออัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินเพียง 8:1 ส่งผลให้พัฒนาได้น้อยลง ที่สำคัญกรมจะต้องให้พื้นที่กับกรมการขนส่งฯตามเงื่อนไขสัญญาอีก 1 แสนตารางเมตร ส่งผลให้การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์แทบไม่ได้อะไรเลย

ทางออกขณะนี้กรมอยู่ระหว่างเจรจากับกทม.ขอ ปรับค่า FAR หรือ อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินเป็น 10: 1 เท่าเดิม หรือ 9.5 :1 จะเหมาะสมกว่า เพราะมูลค่าลงทุนน่าจะสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่กลับพัฒนาได้น้อยเกรงว่าจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน สำหรับการเปิดประมูลมี 2 แนวทางคือ ให้เอกชนรายเดิม คือ บริษัท ซันเอสเตท จำกัด ที่ชนะประมูลและเซ็นสัญญากับกรมไว้แล้วเมื่อปี2538 กับเปิดประมูลใหม่ทั้งหมด แต่มองว่า ผู้ชนะประมูลรายเก่าจะฟ้องร้องกรมอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ มีการยกเลิกเพราะ การประมูลขัดกับพ.ร.บ.ร่วมทุน เนื่องจากโครงการมูลค่าเกิน 1พันล้านบาท

สำหรับโครงการขนาดใหญ่อีกแปลง คือ ที่ดินราชพัสดุซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือนจำคลองเปรม เนื้อที่ 400 ไร่ ที่กรมอยู่ระหว่างจ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศึกษาความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์ตลอดจนรูปแบบการลงทุนซึ่งเซ็นสัญญาไปประมาณต้นเดือนกันยายน 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้เวลา 3-4 เดือน หรือ สิ้นปี 2556 คาดว่าจะสรุปผลการศึกษาได้ ทั้งนี้ ความเป็นไปได้ ก็คือ กรมจะนำที่ดินเปล่าทั้ง 400 ไร่ ให้เอกชนประมูลและกรมเก็บค่าเช่าระยะยาว 30 ปี เพื่อพัฒนาเชิงพาณิชย์ อาทิ ศูนย์การค้า โรงแรม อาคารพักอาศัย ฯลฯ เนื่องจากใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงสายบางซื่อ-รังสิต ทำเลมีศักยภาพมาก และเมื่อครบอายุสัญญา 30 ปี กรมจะได้ทั้งอาคารและที่ดินคืนซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงในอนาคต ส่วนเรือนจำ จะมีการก่อสร้างให้กรมราชทัณฑ์ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นอกจากนี้โครงการขนาดใหญ่อีกแปลง ซึ่งเป็นการก่อสร้างศูนย์ราชการเฟสที่ 3 โซน ซี เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งจะดำเนินการเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกันที่ดินโรงภาษีร้อยชักสาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซอยเจริญกรุง 36 เขตบางรัก กทม. เนื้อที่ 5 ไร่ เศษ ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการมาแล้วและต้องผลักดันให้แล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดรายได้ โดย กรมได้ลงนามในสัญญากับกิจการร่วมค้าบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นพาร์ค บริษัท อามันรีสอร์ท เซอร์วิสเซสลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 โดยมีเงื่อนไขว่าเอ็นพาร์คต้องสร้างที่ทำการและที่พักสำหรับตำรวจดับเพลิงสังกัดกรุงเทพฯ ให้แล้วเสร็จก่อนที่จะเข้าพื้นที่พัฒนาโครงการตามสัญญา ล่าสุดเอ็นพาร์คได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นโดยนายประชา มาลีนนท์ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างไรก็ดีจากความล่าช้า จึงเรียกเอ็นพาร์คในส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นมาเจรจาใหม่โดยให้โอกาส เข้าบริหารพื้นที่ต่อไป แต่จะต้อง ไล่รื้อชุมชนและจัดหาที่อยู่ใหม่ บริเวณส่วนของตำรวจน้ำและเร่งก่อสร้างโรงแรมจำนวน 30 ห้อง ให้แล้วเสร็จต่อไปหากยังไม่ดำเนินการในทันทีจะยกเลิกสัญญาและหาเอกชนรายใหม่เข้ามา

รองอธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวต่อว่า ภายในสิ้นปี 2556 นี้ ที่ดินทุกแปลงที่กระทรวงการคลังเร่งรัด ให้เกิดการพัฒนาเชิงพาณิชย์หารายได้เข้ารัฐอย่างเป็นรูปธรรมปลายปีนี้จะได้ข้อสรุปและมีความชัดเจนมากขึ้นและคาดว่าจะมีมูลค่าที่เป็นรายได้เข้ารัฐประมาณ 3-4หมื่นล้านบาท ส่วนที่ดินราชพัสดุต่างจังหวัดทั่วประเทศได้มอบให้แต่ละจังหวัดศึกษา โดยนำที่ดินที่มีศักยภาพ ที่ส่วนราชการใช้ไม่เต็มที่ หรือไม่ใช้แล้วนำมาพัฒนาหารายได้ 160 แปลง เฉลี่ยแปลงละ 5-10 ไร่ จากที่ดินทั้งหมดที่เป็นที่ราชพัสดุ 10.3 ล้านไร่ ทั่วประเทศ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,876 วันที่ 8 - 11 กันยายน พ.ศ. 255

http://www.thanonline.com/index.php...151:4&catid=85:2009-02-08-11-22-45&Itemid=417
See less See more
"มาลีนนท์" ทุ่มแลกที่ร้อยชักสาม จ่ายหมดค่าขนย้าย-ภาษีโรงเรือน

updated: 13 ส.ค. 2557 เวลา 11:50:46 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

กลุ่มมาลีนนท์สนใจที่ดินโรงภาษีร้อยชักสาม ริมเจ้าพระยา ยอมจ่ายทุกเงื่อนไข ขอเริ่มสัญญา 30 ปี

นายชาญณัฏฐ์ กล่าวถึงกรณีที่ราชพัสดุโรงภาษีร้อยชักสาม ซอยเจริญกรุง 36 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่กรมธนารักษ์ เคยมีข้อตกลงในสัญญาร่วมทุนเพื่อพัฒนาพื้นที่ ภายใต้การดำเนินงานของกิจการค้าร่วม คือ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK ว่า ล่าสุดทาง N-PARK หลังจากที่กลุ่มมาลีนนท์เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แสดงความต้องการที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ โดยยอมตกลงเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการขนย้ายที่พักของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรวจน้ำ ที่มีมูลค่าราว 8-10 ล้านบาท รวมถึงจ่ายค่าภาษีโรงเรือนที่ค้าง กทม.อยู่ 4 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าขอให้การส่งมอบคืนพื้นที่ภายในเวลา 30 ปีให้กรมธนารักษ์ จะขอให้เริ่มนับใหม่หลังเข้าดำเนินการ

นายชาญณัฏฐ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา N-PARK ทำข้อตกลงกับกรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 เป็นสัญญาการเช่าพื้นที่มีระยะเวลา 30 ปี โดยจะปรับปรุงซ่อมแซมอนุรักษ์อาคารโบราณสถานเพื่อพัฒนาเป็นกิจการโรงแรมระดับ 6 ดาว จำนวน 33 ห้อง มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้นำระดับประเทศ ผู้บริหารองค์กร ภายใต้ชื่อ โครงการอามันรีสอร์ท แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ของหน่วยงานดับเพลิงบางรัก ทำให้ไม่สามารถพัฒนาโครงการตามแผน และระงับการจ่ายค่าเช่าตั้งแต่ปี 2553 แม้จะมีการลงทุนกับโครงการไปเป็นจำนวนกว่า 250 ล้านบาท แล้วก็ตาม

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1407903695
See less See more
ธนารักษ์จูบปากคู่สัมปทานเดิมลุยโครงการใหญ่ที่หมอชิต-ร้อยชักสาม-ศูนย์ประชุมสิริกิติ์

11/6/2558

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุขนาดใหญ่ ว่า โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุหมอชิต ขณะนี้ต้องตั้งคณะทำงานเพื่อเจรจาตามกรอบ พ.ร.บ.ร่วมทุน เพื่อเดินหน้าเจรจากับผู้ที่ได้รับสัมปทานเดิม คือ บริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด หรือ BKT (ซันเอสเตท เดิม) ถึงแบบการก่อสร้างและผลตอบแทน และเพื่อลดปัญหาเรื่องการฟ้องร้องจากผู้ที่ได้สัมปทานเดิม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทาง กทม.มีการปรับผังเมืองใหม่ ทำให้พื้นที่ใช้สอยรวมลดลงจาก 1 แสนตารางเมตร เหลือ 8 หมื่นตารางเมตร ขณะที่รูปแบบโครงการตามแนวคิดของที่ปรึกษายังมีมูลค่าโครงการอยู่ราว 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำโครงการเชิงพาณิชย์มีทั้งร้านค้า สำนักงานใช้เช่า รวมถึงเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์

สำหรับโครงการร้อยชักสาม ซอยเจริญกรุง 36 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังเดินหน้าเจรจากับผู้ได้สัมปทานเดิม คือ บริษัท ยู ซิตี้ หรือ เอ็นพาร์คเดิม ซึ่งที่ผ่านมาได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ทางยูซิตี้พร้อมทำโครงการต่อ และยอมจ่ายค่าเช่าที่ค้างและเงินชดเชยให้ดับเพลิงเพื่อย้ายออกจากพื้นที่ แต่จะยื่นข้อเสนอให้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนพิจารณาต่ออายุสัญญาสัมปทานโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุโรงภาษีร้อยชักสามไปอีก 10 ปี เพราะสัญญาเดิมเหลือเพียง 20 ปี ซึ่งทางกรมธนารักษ์ จะตั้ง นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นคณะกรรมการกำกับโครงการนี้

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ยังคงเดินหน้าการเจรจากับ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมเนจเม้นท์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งถือเป็นผู้ที่ได้สัมปทานเดิม แต่ติดปัญหาเรื่องไม่สามารถก่อสร้างได้ เพราะติดปัญหาข้อบัญญัติของกทม.ควบคุมความสูงให้สร้างอาคารไม่เกิน 23 เมตร ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อปรับแบบการก่อสร้าง โดยจะมีการจ้างที่ปรึกษาเพื่อมาดูภาพรวมโครงการ รวมถึงค่าตอบแทนที่อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป.

http://www.thaipost.net/?q=ธนารักษ์จูบปากคู่สัมปทานเดิม
See less See more
รื้อที่ราชพัสดุปั้นหมื่นล้าน "คิกออฟ"มักกะสัน-เขตศก.

updated: 12 ธ.ค. 2558 เวลา 10:01:46 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ธนารักษ์เตรียมคลอดแผนแม่บทพัฒนา 5 ด้าน ขยายฐานค่าเช่า เพิ่มรายได้ปีละหมื่นล้าน เล็ง 10 โปรเจ็กต์ใหม่ นำร่องที่ดินมักกะสัน-เขตเศรษฐกิจพิเศษ คิกออฟไตรมาสแรกปี"59 พร้อมปัดฝุ่นโครงการค้างที่ดินหมอชิต โรงภาษีร้อยชักสาม

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้กรมธนารักษ์กำลังเร่งทำแผนแม่บทพัฒนาที่ราชพัสดุ ระยะปานกลาง 5 ปี (2559-2563) แบ่งเป็น 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) การพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ 2) การพัฒนาพื้นที่ในเชิงสังคม 3) การพัฒนาพื้นที่ในเชิงอนุรักษ์ 4) การพัฒนาพื้นที่เชิงท่องเที่ยว และ 5) การสร้างศูนย์ราชการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้จากค่าเช่าที่ราชพัสดุเป็นปีละ 10,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท หรือสร้างรายได้เพิ่มให้รัฐ 50,000 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า

ส่วนที่ จะสร้างรายได้ คือ การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ โครงการใหม่ ที่มีเกือบ 10 โครงการ อย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่ดินมักกะสัน เป็นต้น อีกส่วนคือ โครงการเก่าที่มีจำนวนมากทั่วประเทศ ทั้งที่พัฒนา และให้เช่าอยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์อื่น ไม่ว่าจะเป็นกรณี บมจ.ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโครงการค้าง อาทิ โครงการพัฒนาที่ดินหมอชิต มูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท โรงภาษีร้อยชักสาม ขณะนี้ได้สั่งการให้สำรวจรวบรวมนำมาบรรจุไว้ในแผนแม่บทสางปัญหาทั้งหมด

คิกออฟแผนไตรมาสแรกปี 59

นาย จักรกฤศฏิ์กล่าวว่า สิ้นเดือน ธ.ค.นี้จะสรุปแผนแม่บทออกมาให้เห็นภาพได้ราว 70% ของแผน และเริ่มลงมือพัฒนาทันที โดยช่วง 3 เดือนแรกปี 2559 หลายโครงการจะเกิดขึ้น ในส่วนของการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ อาทิ บริเวณเรือนจำคลองเปรม หมอชิต โรงภาษีร้อยชักสาม มักกะสัน เป็นต้น กรณีที่ดินมักกะสันจะทำเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน (PPP) ระยะเร่งด่วน (Fast Track) ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่อีก 2 สัปดาห์จะทราบรายละเอียด และกำหนดความชัดเจนเรื่องส่งมอบพื้นที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มาให้กรมธนารักษ์ภายใน ธ.ค.นี้

จากนั้นจะตั้งที่ปรึกษาเข้ามาศึกษา โครงการ และผลตอบแทน การให้เอกชนเช่าจะแก้ไข พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม ฯ จากปัจจุบันระยะเวลาเช่าสูงสุด 30 ปี เป็น 99 ปี

"พื้นที่โซนแรก 150 ไร่ นำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ก่อน ส่วนโซนที่ 2 ต้องดูว่าจะย้ายคน โรงเรียน โรงพยาบาลออกอย่างไร ส่วนไหนส่งมอบได้ก่อน ส่งมอบมาท่าไหร่จะตัดหนี้ให้เท่านั้นจากหนี้ทั้งหมดที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ 6.1 หมื่นล้านบาท"

นักลงทุนรุมตอม มักกะสัน

โครงการ พัฒนาที่ดินบริเวณมักกะสันนี้ มีนักลงทุนสนใจสอบถามเข้ามาค่อนข้างมาก ทั้งนักลงทุนไทย กลุ่มใหญ่ ๆ ทั้งหมด และต่างชาติ อาทิ ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย เป็นต้น

ขณะที่ในส่วนของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จะเปิดให้เอกชนประมูลเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ละ 1 ราย ขณะนี้มีการประชุมกำหนดร่างทีโออาร์เบื้องต้นแล้ว กรณีเขตเศรษฐกิจพิเศษคงได้ค่าเช่าไม่มาก น่าจะแค่หลักร้อยล้านบาทต่อปี เพราะเน้นสนับสนุนให้เอกชนเข้าไปลงทุนมากกว่า

พร้อมเปิดประมูล

สำหรับ การพัฒนาพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ พื้นที่ที่ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ดำเนินการจะเริ่มได้ก่อน เช่น สงขลา สระแก้ว เป็นต้น ส่วนที่เหลือจะให้เอกชนเข้ามาประมูลลงทุน พร้อมที่สุดคือ มุกดาหาร ตราด ส่วน จ.ตาก ต้องรอเคลียร์เรื่องค่าชดเชย สระแก้วอยู่ระหว่างรอส่งมอบพื้นที่

มุ่งพัฒนาเมืองเก่า

นาย จักรกฤศฏิ์กล่าวว่า ขณะที่การพัฒนาพื้นที่เชิงอนุรักษ์จะมีการสำรวจอาคารราชพัสดุเก่า ๆ บ้านไม้เก่า ตลาดเก่า 70 ปี 100 ปี ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ จากนั้นจะปรับปรุงพัฒนาให้มีสภาพดีขึ้น เพื่อการอนุรักษ์พร้อมกับทำให้ได้ประโยชน์ และเกิดมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว เร็ว ๆ นี้เตรียมนำร่องพัฒนาพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯชั้นในที่เป็นย่านตลาดเก่า

"อย่าง ตลาดเก่าพัฒนาแล้ว จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว บ้านเก่า อาคารเก่า พัฒนาแล้วก็อาจจะมาเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ จะได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น จากเดิมอาจให้คนขับรถอยู่ ให้ข้าราชการเฝ้า พอปรับปรุงจะกลายเป็นอาคารอนุรักษ์ แล้วจะให้ร้านค้าแบรนด์ดัง ๆ เช่าใช้ประโยชน์ในเชิงการค้า" นายจักรกฤศฏิ์กล่าว

5 พันไร่รองรับ บ้านคนจน

ขณะ ที่การพัฒนาพื้นที่เชิงสังคม จะเกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ การจัดสรรที่ดินทำกิน สวนสาธารณะ ห้องสมุด และการพัฒนาสร้างที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายรัฐบาล โดยขณะนี้ได้สำรวจพื้นที่เตรียมไว้แล้ว 76 แปลงทั่วประเทศ คิดเป็นพื้นที่ราว 5,000 ไร่

คาดว่าจะนำร่องพัฒนาพื้นที่เชิงสังคม สร้างบ้านผู้มีรายได้น้อย บริเวณใกล้จตุจักร เป็นที่ดินขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) เดิม 3-4 ไร่

บ้านคนจน ของขวัญปใหม่

ด้าน นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมแนวทางการดำเนินโครงการที่อยู่อาศัยผู้มีราย ได้น้อย วันที่ 8 ธ.ค.ว่า ได้เชิญเอกชนมาประชุมโดยเอกชนสนใจโครงการนี้ แต่ในรายละเอียดต้องปรับปรุงเพิ่มเติม อาทิ เอกชนเสนอราคากว่า 1 ล้านบาท/ยูนิต แต่รัฐต้องการให้อยู่ที่ 5-7 แสนบาท จึงต้องปรับปรุงในแง่คุณสมบัติคนกู้ พื้นที่ที่อยู่อาศัย การผ่อนดาวน์ อัตราดอกเบี้ย

ภาคเอกชนให้ความสนใจ เนื่องจากที่ผ่านมาเอกชนทำได้ อย่างโครงการของ LPN เป็นต้น ราคายูนิตละ 5-7 แสนบาท รัฐตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ได้ 2.7 ล้านยูนิต ทั้งทาวน์เฮาส์และคอนโดฯ คิดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำพิเศษ โดยให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยกู้ รวมถึงปล่อยกู้ผู้ประกอบการด้วย สัปดาห์หน้า อธิบดีกรมธนารักษ์จะนำภาคเอกชนลงดูพื้นที่เป้าหมายในเขตกรุงเทพฯ 5 แห่ง ต้องให้เอกชนแข่งขันกันเลือกพื้นที่ ส่วนอัตราค่าเช่ายังไม่ได้สรุป

"อยากให้เจ้าหน้าที่ไปปรับปรุงรายละเอียดภายในสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้ามาประชุมกันอีกรอบ ถ้าทันก็จะเป็นของขวัญปีใหม่"

คิดค่าเช่าบ้านคนจนต่ำสุด

ทั้งนี้ ค่าเช่าที่ดินสำหรับสร้างบ้านผู้มีรายได้น้อยทุกแปลง ไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด กรมธนารักษ์จะคิดค่าเช่าในอัตราที่ต่ำที่สุดแต่ละพื้นที่ อาจแค่ตารางวาละ 0.25 บาท หรือ 0.50 บาท ขณะเดียวกันการพัฒนาพื้นที่เชิงสังคม ยังมีการพัฒนาพื้นที่ริมคลอง 16-18 สายทั่วประเทศ จะนำร่องบริเวณริมคลองลาดพร้าว

ด้านการพัฒนาพื้นที่ เชิงท่องเที่ยว จะโฟกัสไปที่เกาะต่าง ๆ ที่เป็นที่ราชพัสดุกว่า 10 เกาะ ซึ่งปัจจุบันถูกบุกรุกอย่างกรณีเกาะเต่า เป็นต้น ซึ่งได้เข้าไปแก้ปัญหาแล้ว โดยเรียกผู้เช่า ผู้บุกรุกมาเจรจา แนวทางเดียวกับกรณีสวนผึ้ง เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ดันศูนย์ราชการ 16 จังหวัด

ส่วน การสร้างศูนย์ราชการ โดยเฉพาะ 16 จังหวัดที่ยังไม่มีศูนย์ราชการในปัจจุบัน โดยกรมธนารักษ์จะหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอคืนที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ ประโยชน์เต็มที่มาดำเนินการ ขณะเดียวกัน บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) กำลังจะเดินหน้าสร้างศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะเฟส 2

"ได้สั่งการ ธพส.ให้เดินหน้าศูนย์ราชการ เฟส 2 เรื่องโครงสร้างส่วนแบ่งรายได้ต้องได้จากการประหยัดงบฯของส่วนราชการที่เช่า อยู่ที่อื่นแล้วย้ายมาเช่าที่นี่แทน ขณะที่การแก้ไขปัญหาจราจรทั้งระบบอธิบดีกรมธนารักษ์จะเป็นเจ้าภาพร่วมกับผู้ บริหารหน่วยงานที่เช่าพื้นที่ ต้นปี 2559 จะชัดเจน"

ระยะยาวจะทำแผน แม่บทพัฒนาพื้นที่ของราชการและรัฐวิสาหกิจทั้งระบบอีกครั้ง เป็นแผน 10 ปี (2559-2569) มูลค่านับแสนล้านบาท อาทิ การพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น บริเวณองค์การสะพานปลา บริเวณอู่กรุงเทพฯ เป็นต้น

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1449859243
See less See more
ร้อยชักสามขอส่งแผนก.ค.

อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงส่วนโครงการ “ร้อยชักสาม” หรือโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุโรงภาษี ร้อยชักสามซอยเจริญกรุง 36 ว่าข่าวดีคือเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าของโครงการได้ส่งตัวแทนมาเจรจากับทางกรมธนารักษ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ยืนยันว่าจะต้องให้ทางศาลเป็นผู้ตัดสิน ทำให้กรมธนารักษ์ต้องดำเนินการทางคดีแพ่งและคดีอาญา โดยได้เดินหน้าฟ้องร้องคดีแพ่ง และยื่นโนติซรวมถึงทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคารเพื่อริบตั๋วเงินคํ้าประกัน

อย่างไรก็ดีภายหลังผู้ลงทุน ได้หารือกับทางอัยการและได้รับคำแนะนำ จึงเสนอมายังกรมฯขอให้มีการเจรจาระหว่างเอกชนกับกรมธนารักษ์ขึ้นมาอีกรอบ โดยให้มีการจัดตั้งกรรมการ แต่ทั้งนี้ทางกรมฯต้องตรวจสอบถึงสถานะการเงินของผู้พัฒนาโครงการด้วย เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะยืดอายุสัญญาตามที่ผู้ลงทุนขอต่อไปอีก 20 ปี หรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับวงเงินลงทุนของนักพัฒนานั้นๆ ที่จะต้องแสดงตัวเลขการลงทุนที่ชัดเจน หากเป็นโครงการที่มีความเป็นไปได้ และมีวงเงินลงทุนจำนวนมาก เราก็อาจต่อสัญญาให้เป็น 50 ปี โดยทางผู้ลงทุนขอระยะเวลาในทำแผนลงทุนประมาณ 1 เดือน ก่อนจะเสนอกลับมาที่กรมธนารักษ์อีกครั้งคาดไม่เกินเดือนกรกฎาคม 2559 นี้

“อนาคตระเบียบตลอดจนข้อปฏิบัติที่กรมฯวางไว้ ผู้เช่าจะต้องทำตามอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะโครงการที่หมดสัญญาและยังไม่มีการจ่ายค่าเช่า อาจมีความจำเป็นให้ผู้เช่าออกไปจากพื้นที่ แตกต่างจากในอดีตที่เราไม่เคยให้ผู้เช่าที่ทำผิดสัญญาออกแม้แต่รายเดียว แต่แนวโน้มแนวทางดังกล่าวจะเน้นในเรื่องที่ดินเชิงพาณิชย์มากขึ้น ”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,165 วันที่ 12 – 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559

http://www.thansettakij.com/2016/06/13/61489
See less See more
  • Like
Reactions: 1
1 - 20 of 156 Posts
This is an older thread, you may not receive a response, and could be reviving an old thread. Please consider creating a new thread.
Top