SkyscraperCity Forum banner

Bangkok | Mega Bangna + IKEA Bangna

414798 Views 815 Replies 196 Participants Last post by  DMS_SKY
21 - 40 of 816 Posts
สยามฟิวเจอร์ดึง “อิเกีย” ปลุกตลาดเฟอร์นิเจอร์ไทย

Posttoday 18 สิงหาคม 2553 เวลา 13:28 น. |

สยามฟิวเจอร์ จับมือ “อิเกีย”บุกตลาดเมืองไทย ประเดิมสาขาแรกใน“เมกา บางนา” ร่วมกับพันธมิตรโรงหนัง ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ หลัง 2 แบงก์ไฟเขียวสินเชื่อ 6.5 พันล้านบาท

นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เอฟ ดีเวลอปเมนท์ หรือกลุ่มสยามฟิวเจอร์ ผู้บริหารศูนย์การค้า “เมกา บางนา” เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการศูนยการค้า เมกา บางนา ได้รับสินเชื่อจาก 2 สถาบันการเงิน คือ ธนาคารกสิกรไทย และไทยพาณิชย์ มูลค่ารวม 6.5 พันล้านบาท เพื่อเดินหน้าก่อสร้าง บนพื้นที่รวม 254 ไร่ พื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 4 แสนตร.ม. บริเวณย่านบางนา กม. 8 ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นพื้นที่เช่า 1.8 แสนตร.ม. รองรับผู้เช่าได้ 400 ราย เจาะกลุ่มลูกค้าในรัศมี 120 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่จากบริเวณหัวเมืองในอินโดจีน

โครงการดังกล่าว บริษัทฯ ได้ดึงเฟอร์นิเจอร์ดังระดับโลกอย่าง “อิเกีย” จากประเทศสวีเดน ร่วมเป็นหนึ่งผู้เช่ารายใหญ่ โดยสาขานี้นับเป็นสาขาแรกของกลุ่มอิเกียกับการเข้ามาทำตลาดในไทย และถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยขนาดพื้นที่ 4 หมื่นตร.ม. ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดในเมืองไทย โดยโครงการดังกล่าวพร้อมเปิดให้บริการในเดือนพ.ย. 2554 นี้

นอกจากนี้ อิเกีย แล้ว ภายในโครงการเมกา บางนา ยังมีพันธมิตรรายใหญ่ที่จะแม่เหล็กในการดึงดูดกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน โฮมโปร พื้นที่ 9,150 ตร.ม. ที่มีสินค้าจำหน่ายกว่า 60,000 รายการ บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ตที่จะเป็นแม่เหล็กในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภค บนพื้นที่ 12,515 ตร.ม. และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่จะเป็นแม่เหล็กในส่วนของความบันเทิงต่างๆ บนพื้นที่ 17,350 ตร.ม. โดยคาดว่ายอดผู้เข้ามาจับจ่ายซื้อประมาณ 4 พันคันต่อชั่วโมง

นายทอม ฮูเซล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิคาโน่ ผู้บริหารเฟอร์นิเจอร์ อิเกีย สโตร์ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าอิเกียในประเทศไทยจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับตลาดในสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งเป็นสาขาที่มีผู้มาจับจ่ายติดอันดับต้นๆ ของอิเกีย จากเปิดตลาดมาแล้ว 43 ประเทศทั่วโลก

จุดเด่นของอิเกีย สโตร์ กรุงเทพฯ อยู่ที่มีสินค้าให้เลือกว่า 1 หมื่นรายการ เน้นรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ไอเดียทันสมัย แปลกใหม่ ประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ในราคาที่สามารถจับต้องได้ โดยเฉพาะในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ ที่ชูจุดขายเรื่องการประกอบการเอง เพื่อให้มีต้นทุนที่ถูกกว่า เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค
See less See more


The first IKEA store in Thailand is under way: The images shows (on the right) the IKEA construction site which is close to have completed the piling process after an extensive filling work to lift the ground level. The next step will be the foundation and then the building construction can start.
See less See more
แบงก์ผนึกกำลังปล่อยกู้ "อิเกีย" ศูนย์การค้ายักษ์จ้องไล่บี้ศูนย์เฟอร์นิเจอร์ไทย

Thairath 19/08/2010

ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ปล่อยสินเชื่อสนับสนุนโครงการศูนย์การค้าเมกาบางนา วงเงินสินเชื่อ 6,500 ล้านบาท ระยะเวลา 9 ปี มั่นใจศักยภาพเมกาบางนา ทั้งด้านทำเลที่ตั้งและความร่วมมือของพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่ง อาทิ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, โฮมโปร, บิ๊กซี และอิเกีย...


นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ปล่อยสินเชื่อสนับสนุนโครงการศูนย์การค้าเมกาบางนา วงเงินสินเชื่อ 6,500 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 12,000 ล้านบาท และเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท อิคาโน่ จำกัด และบริษัท เอส.พี.เอส.โกลเบิลเทรด จำกัด โดยมีเอสเอฟดีเวลอปเม้นท์ เป็นผู้บริหารโครงการ

"การปล่อยสินเชื่อในครั้งนี้ ธนาคารเชื่อมั่นว่าสยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์ มีประสบการณ์ที่แข็งแกร่งด้านการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าในประเทศไทย สำหรับการร่วมทุนกับบริษัท อิคาโน่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหาร อีเกีย สโตร์ ที่มีสาขา กว่า 300 สาขาใน 36 ประเทศ จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี"

นายปรีดี ดาวฉาย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้กับเมกาบางนา วงเงิน 6,500 ล้านบาท โดยสัดส่วนการปล่อยกู้ระหว่างธนาคารกสิกรไทยกับธนาคารไทยพาณิชย์ 50 ต่อ 50 มีระยะเวลาการปล่อยสินเชื่อประมาณ 9 ปี โดยธนาคารมั่นใจศักยภาพเมกาบางนาทั้งด้านทำเลที่ตั้งและความร่วมมือของพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่ง อาทิ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, โฮมโปร, บิ๊กซี และอิเกีย

ด้านนายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเม้นท์ กล่าวว่า โครงการเมกาบางนา บนเนื้อที่ 254 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร 400,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 8 โดยเป็นโครงการศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมรองรับธุรกิจค้าปลีก 400 ร้านค้า โดยจุดเด่นของโครงการคือ อิเกีย สโตร์ ศูนย์เฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะเปิดให้บริการเดือน พ.ย.53 ส่วนโครงการเต็มรูปแบบจะเปิดให้บริการเดือน พ.ย.54
See less See more
สร้างช้า หายเงียบไปเกือบปี
อีเกียเดินหน้าลงทุนในไทย10ปีผุด3แห่ง

Posttoday 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา 11:50 น.

อีเกียฯลั่นเปิดสาขาในไทย 3 แห่งตามแผน 10 ปี ทุ่มสาขาละกว่า 2,400 ล้านบาท ยันสาขาแรกเปิดพ.ย.54

นายลาช สเวนสัน ผู้ช่วยผู้จัดการ อีเกีย สโตร์ ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านจากประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า ทางกลุ่มมีแผนจะเปิดสาขาให้บริการในประเทศไทย 3 แห่ง ภายใน 10 ปี โดยหลังการเปิดสาขาแรกเดือน พ.ย. 2554 แล้ว อีก 3 ปีจะเปิดสาขา 2 และ 3 ต่อไป โดยแต่ละสาขาจะมีขนาดหลายหมื่นตร.ม.ขึ้นไป เพื่อให้มีสินค้าและบริการได้ครบตามคอนเซปท์ของอีเกียคาดใช้งบลงทุนสาขาละกว่า 2,400 ล้านบาท หรือ 60 ล้านยูโร

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าเมืองไทยสามารถเปิดอีเกียฯ ได้อย่างน้อย 3 แห่ง เน้นกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล โดยสินค้าที่อีเกียฯ นำเข้ามาจำหน่ายจะเป็นสินค้าที่ผู้ซื้อประกอบเองได้ หรือดีไอวาย และตั้งราคาให้แข่งขันในตลาดเมืองไทยได้ เพราะมีปริมาณการสั่งซื้อมากพอที่จะต่อรองราคาให้ขายได้ในราคาที่เหมาะสม

ปัจจุบันทางกลุ่มมีสาขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่ง เช่น ที่สิงคโปร์ 2 สาขา มาเลเซีย 1 สาขา นอกจากนี้ยังมองขยายสาขาไปที่เวียดนามและฟิลิปปินส์

“แผนลงทุนยังเดินหน้าตามกำหนด แม้จะเกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินในตลาดโลก เศรษฐกิจในยุโรปที่ผันผวน หรือผลกระทบเศรษฐกิจ การเมืองในไทยก็ตาม” นายสเวนสัน กล่าว

ขณะสาขาแรกอีเกียฯ ที่เปิดในโครงการเมกา บางนา มีขนาด 4 หมื่น ตร.ม. ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดเปิดในเดือน พ.ย.ปีหน้า ส่วนโครงการเมกา บางนา จะเปิดครบทั้งโครงการในปี 2555
See less See more
Ikea promises low prices in Thailand Lower profit margin on most import items

Bangkokpost Published: 23/11/2010 at 12:00 AM


Swedish build-it-yourself furniture chain Ikea vows to offer cheaper products to Thai consumers by cutting its profit margin.


Ikea’s store in Malaysia. The company plans its conquest of Thailand with an opening at a mall in Bang Na next November.

It will open its first Bangkok store _ its largest store in Southeast Asia _ next November as part of the new Mega Bang Na shopping centre.

Ikea franchisee Ikano Retail Asia will uphold its parent company's principle of supplying functional home furnishings at affordable prices.

The company, as required by Ikea, will only be able to sell a tiny proportion of domestic products, which will account for just 2% of items. The rest will be imported, casting doubts on how it can maintain low prices in a market where extensive cheap furniture is available.

Lars Svensson, deputy store manager at Ikea Bang Na, said low prices could be achieved due to the company's bargaining power as it has over 300 stores worldwide.

"With more stores, we bring down prices because of economies of scale," he said. "With import tariffs, life is not easy for us, but we have to fulfil our commitment to consumers."

The company has conducted in-depth interviews with 500 Thai consumers and visited 50 homes to study the lifestyles of its potential customers.

Ikea has universal designs that can be sold worldwide. It had turnover of 23.8 billion (979 billion baht) for the fiscal year that ended in August.

Ikea believes its products are practical even if different markets have different tastes.

Ikea Bang Na, which will have about 7,500 articles, expects to welcome 4-5 million visitors a year. It will have floor space of 43,000 square metres including a 700-seat restaurant.

Ikano Retail Asia holds the licences for Ikea's business in Singapore, Malaysia and Thailand. It has two stores in Singapore and one in Malaysia. The company will add another store in Malaysia and look to tap the market in Vietnam and the Philippines.

Mr Svensson said there is a possibility of opening a second store in Bangkok about three years after the launch of the first one. In the next 10 years, it plans to have three stores covering the whole of Greater Bangkok. Each store requires investment of about 60 million.
See less See more
เปิดพื้นที่"ค้าปลีก"ใหม่6แสนตร.ม. "โรบินสัน"ร่วม"เมกะบางนา"ลุยโมเดลห้างขนาดย่อม

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4278 ประชาชาติธุรกิจ


เปิดพื้นที่รีเทลใหม่ปี"54 คาดทะลุ 6 แสน ตร.ม. รายใหญ่-บิ๊กเนมมาครบ เร่งขยายสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่ "เซ็นทรัล-เอ็มบีเค-สยามฟิวเจอร์-ธนิยะ-กลุ่มแลนด์ฯ" ร่วมเปิดศึกแข่งขันค้าปลีกรอบใหม่ ชี้ดีมานด์ยังทะลัก-กำลังซื้อมีต่อเนื่อง ด้านโปรเจ็กต์ยักษ์ "เมกะบางนา" เคาะสรุปโมเดลห้างสรรพสินค้า ดึง "โรบินสัน"ร่วมขบวน


เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ห้างสรรพสินค้า "โรบินสัน" กลายเป็น 1 ใน 5 แม่เหล็กที่ จะเข้ามาเติมเต็มโครงการเมกะบางนา ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ พื้นที่ 4 แสน ตร.ม. หลังจากได้เจรจากับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าในหลาย ๆ กลุ่มมาอย่างต่อเนื่อง จากก่อนหน้านี้ เมกะบางนาได้เปิด แม็กเนตหลักไปแล้ว 4 ตัว คือ อิเกีย, โฮมโปร, บิ๊กซี และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โดยเชนเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่จากสวีเดน "อิเกีย" พร้อมที่จะเปิดนำร่องก่อนเดือนพฤจิกายน 2554 ด้วยพื้นที่ 4 หมื่น ตร.ม. ส่วนที่เหลือจะเปิดเต็มรูปแบบช่วงเดือนมีนาคมของปีถัดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โมเดลของโรบินสัน สาขาเมกะบางนา มีขนาดพื้นที่ 1.7 หมื่น ตร.ม. ไปพร้อมกับท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต โดยจะโฟกัสในกลุ่มสินค้า และคัดเฉพาะบางไลน์อัพของสินค้าที่ตรงกับความ ต้องการของกลุ่มลูกค้า และจะเปิดตัว พร้อมโครงการในเดือนมีนาคม 2555 โดยโรบินสันเปิดสาขาที่ 24 ล่าสุดที่จังหวัดตรัง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้เปิดเพิ่มอีก 3 สาขา คือ เชียงราย พิษณุโลก และพระราม 9 และปีหน้าร่วมกับโครงการ เมกะบางนา

นอกจาก "อิเกีย" ที่คาดว่าจะเป็น 1 ในตัวหลักที่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการปรับตัวและการแข่งขันในธุรกิจ ค้าปลีกแล้วนั้น ปี 2554 ยังเป็นปีที่มีพื้นที่รีเทลใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะในรูปแบบศูนย์การค้าและคอมมิวนิตี้มอลล์ รวมกันแล้วประเมินว่าจะมีมากกว่า 6 แสน ตร.ม. และส่วนใหญ่เป็นการเดินหน้าขยายธุรกิจของกลุ่มทุนรายใหญ่แทบทั้งสิ้น



นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ชี้ว่า แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกปี 2554 จะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตดีขึ้น กำลังซื้อของตลาดปรับตัวสูงขึ้น ตามฐานเงินเดือนที่ปรับเพิ่มขึ้น ล้วนส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกที่มีโอกาสขยายตัวได้ถึง 10%

สอดคล้องกับแผนการลงทุนของซีพีเอ็น ในช่วง 3 ปีจากนี้ ด้วยงบฯลงทุนปีละ 7-8 พันล้านบาท สำหรับขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ คือ จีน อินเดีย และเวียดนาม ควบคู่กับการเปิด 3 ศูนย์การค้าใหม่ คือเซ็นทรัลเชียงราย, พิษณุโลก และพระราม 9 รวมพื้นที่กว่า 3.5 แสน ตร.ม. จากปัจจุบันมี 15 สาขา ซึ่งจะทำให้เป้าเติบโต 14-15% ภายในปี 2554 รวมถึงการเปิดโฉมใหม่ของเซ็นทรัลลาดพร้าวในเดือนสิงหาคม, การปรับปรุงสาขาปิ่นเกล้าที่แล้วเสร็จ, การเปิดเซ็นทรัลเวิลด์เต็มพื้นที่รวมถึงห้างสรรพสินค‰าเซน ที่พร้อมจะกลับมาเปิดเต็มรูปแบบในเดือนกันยายน ล้วนเป็นปัจจัยบวกหนุนการเติบโตของบริษัท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โมเดลเซ็นทรัล พลาซาพระราม 9 จะมีห้างโรบินสันเป็น แม่เหล็ก เตรียมเปิดตัวไตรมาส 4 ด้วย คอนเซ็ปต์เรียลิสติค ฟิวเจอร์ (realistic future) ในพื้นที่โครงการ 1.19 แสน ตร.ม., เชียงราย พิษณุโลก เปิดไตรมาส 3 ด้วยพื้นที่มากกว่า 1 แสน ตร.ม. และเชียงราย ขนาดพื้นที่ 1.3 แสน ตร.ม. ที่พร้อมเปิด ต้นปี รองรับลูกค้าในเชียงราย จังหวัด ใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ ในพื้นที่ย่านดังกล่าว ยังมี โครงการเดอะไนน์ พระราม 9 ขนาด 1.3 หมื่น ตร.ม. คอมมิวนิตี้มอลล์ของกลุ่มเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ ที่จะเปิดในปี 2554 นี้เช่นเดียวกัน

ด้านนายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้บริหารศูนย์การค้า "เทอร์มินอล 21" กล่าวว่า เทอร์มินอล 21 พร้อมเปิดในเดือนกรกฎาคม 2554 ด้วยขนาดพื้นที่ 4.5 หมื่น ตร.ม. มูลค่าโครงการ 6 พันล้านบาท รองรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทำงานในพื้นที่อโศกและบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง

"จากนี้ไป การขยายธุรกิจกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีแผนลงทุนพัฒนาโครงการศูนย์การค้ามากขึ้น เนื่องจากธุรกิจค้าปลีกยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในทำเลต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ"

สอดคล้องกับมุมมอง นายนพพรวิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอฟ วิเคราะห์ว่า ตลาดค้าปลีกยังเดินหน้าขยายตัวได้ดี ดูจากภาพการลงทุนของผู้ประกอบการหลายๆ โครงการที่พร้อมจะเปิดตัว รวมทั้งซัพพลายเออร์ ร้านค้าต่างเข้าไปจองพื้นที่ และขยายสาขาตามศูนย์ใหม่ ๆ เช่นเดียวกับภาพกำลังซื้อของลูกค้า ซึ่งแม้ว่าจะมีโครงการใหม่ ๆ เตรียมเปิดอีกหลายแห่งในปี 2554 ในกรุงเทพฯ แต่ก็ยังมองว่าไม่เต็ม และมีอีกหลายทำเลที่สามารถเปิดเพื่อรองรับกำลังซื้อของตลาด โดยเฉพาะเส้นบางนาตรงมาจากสุขุมวิท ที่มีกำลังซื้อสูง จะเป็นตัวเร่งให้เกิดภาพการแข่งขันค้าปลีกที่มากขึ้นควบคู่กับภาพของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีเกิดขึ้นใหม่ ๆ ตามมาอีกจำนวนมาก

ทั้งนี้ การลงทุนของเอสเอฟ ในปี 2554 วางงบฯลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาท โฟกัส 2 โครงการ คือ ขยายเฟสต่อในโครงการเกษตรนวมินทร์ และพัฒนาที่ดิน 14 ไร่ ด้านหลังศูนย์การค้าดิ เอสพลานาด เป็นคอมเพล็กซ์ เติมความครบเครื่องทั้งในส่วนพื้นที่รีเทล โรงละคร-คอนเสิร์ต และสำนักงานให้เช่า โดยจะเริ่มลงมือก่อสร้างกลางปีนี้และเปิดในปี 2555 ส่วนเฟส ต่อขยายนวมินทร์เริ่มแล้วพร้อมเปิดใน ปีนี้ ปัจจุบันกลุ่มสยามฟิวเจอร์มีโครงการคอมมิวนิวตี้มอลล์กว่า 30 โครงการ

นอกจากนี้ ปี 2554 ยังเป็นปีแห่งโอกาสของกลุ่มเจ้าของที่ดินเก่าในหลากหลายธุรกิจที่ต่างมองเห็นโอกาสจากการเติบโตของธุรกิจรีเทล อาทิ กลุ่มทุน "ธนิยะ" ขยายการลงทุน 2.5 พันล้านบาท บุกตลาดค้าปลีกด้วยคอมมิวนิตี้มอลล์ย่านศรีนครินทร์ พื้นที่ 7 หมื่น ตร.ม. ด้วย คอนเซ็ปต์ "ช็อป...ใกล้ชิดธรรมชาติ" เจาะ กลุ่มแมส-บี พร้อมแกรนด์โอเพนนิ่งธันวาคม หากผลตอบรับดีเตรียมขยับเปิดตลาดย่านถนนเพลินจิต ซึ่งมีพื้นที่ผืนงามในมือเตรียมไว้แล้ว รวมถึงกลุ่มทุนสิ่งทอที่จะเปิดตัวโครงการ "เดอะเซอร์เคิล" ถนนราชพฤกษ์ มีนาคม 2554 บนพื้นที่ 21 ไร่

หน้า 17
See less See more
อิเกีย! ดักปีทอง..อสังหา

Bangkokbiznews 25/01/2011


"อิเกีย" เร่งเครื่องเปิดให้บริการในปลายปี เป็น "ไฮ ซีซัน" ของตลาดเฟอร์นิเจอร์ แต่ทว่ามาพร้อมกับกลิ่น "ฟองสบู่" อสังหาฯ

การย้ายฐานของบิ๊กคอร์ปอเรทระดับโลกมายังไทย เริ่มมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมากับการเข้ามาของ "อิเกีย" (IKEA) เมกะสโตร์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับโลก สัญชาติสวีดิส ในชื่อโครงการ "เมกา บางนา" (Mega Bangna) โดยยึดพื้นที่ 254 ไร่ ติดถนนบางนาตราด กม.9 เป็นฐานที่มั่น มีแผนจะเปิดให้บริการในปลายปีนี้ (3 พ.ย.54)

ล่าสุดกับการผุดโครงการ "ไทย-ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล โปรดักส์ ซิตี้ " คอมเพล็กซ์ยักษ์ที่เตรียมเปิดเป็นศูนย์กระจายสินค้าและศูนย์แสดงสินค้าของกลุ่มทุนจีน (อาซือม่า กรุ๊ป) บนพื้นที่มากถึง 5 แสนตารางเมตรในเฟสแรก ไม่นับการขยายการลงทุนในพื้นที่มากถึง 2 ล้านตารางเมตร หรือ 200 ไร่ (รวม 3 เฟส) ใช้เงินลงทุนรวมกว่า 45,000 ล้านบาท โดยจะเปิดให้บริการเฟสแรกในปลายปี 2555

ความเหมือนกันของทั้ง 2 เมกะโปรเจค คือ เมื่อโครงการแล้วเสร็จต่างเป็น "คอมเพล็กซ์" ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ขณะที่ระยะห่างของโครงการแค่เหยียบคันเร่ง เพียง "1 กิโลเมตร"

ถนนบางนาตราด จึงกลายเป็นพื้นที่เนื้อหอม เพราะอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ สะดวกในเรื่องโลจิสติกส์ และต่อไปถนนเส้นนี้จะทวีเพิ่มความคึกคักไม่น้อย ถ้า 2 โปรเจคยักษ์นี้ผุดขึ้น

ขณะที่โปรดักท์ที่จัดจำหน่ายต่างเน้นกลุ่มผู้บริโภคในระดับแมส (ราคาพอรับได้ สบายกระเป๋า) นอกจากความต้องการเข้ามาปักธงดักผู้บริโภคคนไทยแล้ว ยังต้องการแสวงหาโอกาสจากความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน และความตกลงการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ความตกลงแรกมีผลแล้ว ส่วนความตกลงที่ 2 กำลังจะมีผลในปี 2558 หรืออีกในไม่กี่ปีจากนี้ ตามขนาดประชากรที่เพิ่มขึ้น

ยังมีความเชื่อว่า อีกหลาย "บิ๊ก" โปรเจคระดับโลก กำลังแห่เข้ามาลงทุนในไทย ที่ค่อนข้างเปิดกว้างในการลงทุน

ทว่า ข้อกังวลตามมา คือ ผลกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ ที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทัน หรือปรับตัวอย่างไรก็ยังรับมือยาก เพราะไม่สามารถต้านทานขนาดบิ๊กไซส์ของทุนเหล่านี้ที่จะเข้ามาเทกระจาดทุ่มตลาดโปรดักท์ในไทย และใช้ไทยเป็นฐานการกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคอาเซียน ตามประโยชน์ของความตกลงเร่งลดภาษีระหว่างประเทศในอาเซียนด้วยกันเอง

โดยเฉพาะการ "บอกชัดๆ" ของผู้บริหารอิเกียว่า ที่ต้องการ "ฉวย" โอกาสที่ใครต่อใครบอกว่า ปีนี้จะเป็น "ปีทอง" ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลุย "ขอ" ส่วนแบ่งการตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในไทย หลังจากแบรนด์ท้องถิ่น (Local Brand) เอ็นจอยท์ตลาดมานาน กันบ้าง

ลาร์ส สเวนส์สัน (Lars Svensson) รองผู้จัดการคลังสินค้า อิเกีย ไทยแลนด์ บอกว่า ในปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้เขาเห็นด้วยกับใครต่อใครที่ว่า "ปีทอง" ของวงการอสังหาริมทรัพย์กำลังจะกลับมา คนจะหันมาซื้อที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมกันมากขึ้น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นการกระตุ้นยอดขายสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ที่ผู้คนน่าจะเริ่มคำนึงสินค้าคุ้มค่ากับพื้นที่ใช้สอย (Value for Money) มากขึ้น ภายใต้แบรนด์ที่เข้มแข็งของ "อิเกีย" เขามั่นใจ

"ก่อนหน้านี้เราเปิดโชว์รูมในสิงคโปร์ และมาเลเซีย พบว่ามีลูกค้าจากไทยเข้าไปสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก จึงพอจะคาดเดาได้ว่าลูกค้าที่เป็นแฟนตัวจริงในแบรนด์อิเกียในไทยมีอยู่ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว"

การเปิดให้บริการของอิเกียในปลายปีนี้ จึงพอเหมาะพอเจาะกับแผนการซื้อของเข้าบ้านหลังการโอน ที่มักกระหน่ำซื้อกันในช่วงปลายปี !

ปรากฏการณ์เข้ามาของกลุ่มทุนยักษ์เทศ ไม่พ้นสายตาของนักวิชาการด้านอสังหาฯอย่าง "มานพ พงศทัต" อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเขาเตือนว่า ผู้ประกอบการไทยจะต้องจับตาและเตรียมพร้อมต่อปรากฏการณ์ "รุกคืบ" ของยักษ์ข้ามชาติในหลายธุรกิจ ที่จะทำให้การแข่งขันในธุรกิจนั้นปรับตัวสูงขึ้น และไม่แน่ว่าธุรกิจไทยจะมีความสามารถในการแข่งขันมากพอหรือไม่

ทว่า หากพิจารณาเป็นรายสาขา เช่น เกษตร อุตสาหกรรม ยานยนต์และชิ้นส่วน และภาคบริการ ถือว่าผู้ประกอบการไทยยังสามารถแข่งขันได้ไทยยังแข่งขันได้ แต่หากมองใน "บางสาขา" อาจจะต้องจับตาเป็นรายตลาด

โดยเฉพาะในสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน กับการเข้ามาของอิเกียที่มี "ทุนหนา" กว่า ซึ่งอาจจะเป็นบทสะท้อนว่าสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในตลาดแมส (สินค้า DIY - Do It Yourself) สำหรับคอนโดมิเนียม อาจจะต้องถูกแย่งตลาดในเซ็กเมนท์นี้ เพราะสินค้าของอิเกีย เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในคอนโดมิเนียมระดับกลางล่าง ซึ่งไม่อาจปฏิเสธว่าการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคที่มีระดับของรายได้ไม่มากนัก

"การตัดสินใจเข้ามาลงทุนของอิเกีย มองว่าอาจจะเกิดจากตลาดคอนโดที่เติบโตอย่างมากในช่วงต้นปี 2553 เป็นโอกาสทำให้เฟอร์นิเจอร์ขายดีขึ้น นอกจากนี้น่าจะเป็นเป้าหมายของบริษัทแม่ของอิเกียในต่างประเทศที่ต้องการที่จะขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียน ต่อจากสิงคโปร์และมาเลเซีย"

มานพ ยังบอกว่า การสร้างบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดที่กำลังคึกคักอยู่ในเวลานี้ว่า ขอให้ระวังและจับตาถึงโอกาสที่จะเกิด "ฟองสบู่" ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่อาจจะเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายในปลายปี ประกอบกันราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น สวนทางกับซัพพลายในตลาด

ในปัจจุบันก็เริ่มเห็นความผิดปกติของคอนโดที่เพิ่มมากขึ้น บางคอนโดจึงเริ่มออกแคมเปญจูงใจลูกค้าด้วยการทำโปรโมชั่น อยู่ก่อนฟรี 1 ปี หรือดอกเบี้ย 0% เข้าอยู่ได้ทันทีหลังจอง

"ปลายปีจะเห็นโอเวอร์ซัพพลายมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโด เมื่อคอนโดสร้างเสร็จ ก็ต้องมีการสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็ขายดี แต่เก็บเงินได้ไหม ตอบว่า ยาก" เขาเตือน

มานพ ยังบอกด้วยว่า กระแสโลกาภิวัตน์ทำให้ไทยหลีกเลี่ยงกระแสเงินทุนไหลเข้าได้ยาก ทุนยักษ์ไม่เข้ามาวันนี้ก็ต้องเข้ามาในอีก 2-3 ปีข้างหน้าอยู่ดี สิ่งที่จะทำได้คือการ "เตรียมพร้อม" รับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น ซึ่งนอกจากจะมองเป็น "วิกฤติ" แล้ว จะต้องมองเป็น "โอกาส" ให้กับผู้ประกอบการบางรายที่จะต่อยอดกับการมาของทุนยักษ์เหล่านี้

ด้าน เลิศมงคล วราเวณุชย์ อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เล่าถึง ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2554 ว่า จะเติบโตขึ้นสอดคล้องกันกับจีดีพีที่คาดว่าจะโตประมาณ 3.5-4.5% ตลาดที่น่าจะเติบโตเป็นพิเศษคือ กลุ่มอาคารชุดและคอนโด ถือว่ามีการขยายตัวอย่างสูงกว่ากลุ่มบ้านเดี่ยว เนื่องจากความต้องการคอนโดตามแนวรถไฟฟ้ามีมากขึ้น

"วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่วัยทำงาน เมื่อเริ่มมีเงินก็เริ่มมองหาคอนโด เพื่อซื้อเป็นเจ้าของก่อน จากนั้นจึงซื้อบ้านเมื่อมีครอบครัว ขณะเดียวกันบางทำเลจะมีคอนโดขึ้นมามากจนซัพพลายเกินดีมานด์ แต่ไม่หมายถึงภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์" เขาย้ำ

เขายังบอกว่า ปัจจุบันมีนักลงทุนจากหลากอาชีพเข้ามาลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ไม่เฉพาะทุนไทยยังมีทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนโครงการใหญ่คือจีน และสวีเดน (อิเกีย) สะท้อนให้เห็นว่าไทยมีความน่าสนใจและเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในอุตสาหกรรมนี้

ขณะที่การปรับตัวของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์โลคอลแบรนด์ในไทยใน 2 แบรนด์หลักที่น่ากังวล ภายใต้แบรนด์ "อินเด็กซ์ และเอสบี" นั้น ก่อนหน้านี้พวกเขาให้ข่าวไปแล้วถึงแผนเตรียมพร้อมรับมือกับการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้น ล่าสุดกับความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมของอินเด็กซ์ คือการใส่เงิน 2,500 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง โดยเฉพาะสาขาถนนราชพฤกษ์ ที่จะเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ของปีนี้ "ดัก" ลูกค้าก่อนการเปิดการให้บริการของอิเกียในปลายปี

ด้านความเคลื่อนไหวของแบรนด์เอส.บี จะเน้นไปที่การพัฒนาแบรนด์ให้เข้มแข็งรองรับการแข่งขันที่ดุเดือด พร้อมกับการดึงเทรนด์ของตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นจากต่างประเทศเข้ามาในไทยเพื่อทำตลาดค้าปลีกแบบซื้อมาขายไป และเกาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบริการตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงบริการหลังการขาย โดยมีมัณฑนากรช่วยออกแบบตกแต่งภายใน และดีไซน์ในรูป 3 มิติ สร้างความแตกต่างจากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าพรีเมียม เอสบียังเน้นตั้งโชว์รูมใกล้บ้าน ต่างจากอิเกียที่สาขาจะตั้งอยู่บนไฮเวย์

ขณะที่แบรนด์น้องใหม่ อย่าง ชิค รีพับบลิค ภายใต้การนำของอดีตผู้บริหารจากอินเด็กซ์ที่แยกออกมาคลอดแบรนด์ใหม่ โดยเน้นตลาดโมเดิร์นเทรด กิจจา ปัทมาสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค บอกว่า การมาของอิเกีย ไม่ส่งผลต่อชิค รีพลับบลิค เพราะจับคนละเซ็กเมนท์กับอิเกีย โดยเแบรนด์ของเขาจะเป็นกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์พรีเมียม ที่มีความคลาสสิกผสมกับวินเทจเล็กๆ มีกลิ่นอายของความทันสมัยและง่ายขึ้นในการผลิตเพราะลดรายละเอียดบางอย่างลง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มบ้านเดี่ยวและคอนโดในกลุ่มคนมีกำลังซื้อ

"เราเชื่อว่าเรากับอิเกียคนละเซ็กเมนท์ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบ เพราะอิเกียเป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น ขณะที่ชิค เป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิกและวินเทจ"

ไพบูลย์ พินิตกาญจนพันธุ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย มองว่า ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ตลาดในไทยถือเป็นตลาดปราบเซียน ซึ่งแม้เศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัว แต่ในพฤติกรรมของการบริโภคและการตกแต่งบ้านนั้น อิเกียยังต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจตลาดเมืองไทยอีกมาก

อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่า อิเกียก็ยังมีความน่ากลัวในแง่ของความเป็นยักษ์ใหญ่และทุนหนา ที่ง่ายต่อการเปิดสาขา และใช้ทุนในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ต่างๆ จึงยังมองไม่ชัดเจนว่า ผู้แข่งขันที่จะได้รับผลกระทบจากการมาของอิเกียมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้จากการหารือกันในสมาคมฯและแวดวงเฟอร์นิเจอร์ ประเมินกันว่าอิเกียอยู่ระหว่างเข้ามาศึกษา และหาซัพพลายเออร์ประมาณ 5-6 ราย ที่จะสามารถผลิตสินค้าได้ตรงกันกับความต้องการของผู้บริโภคในไทยที่มีพฤติกรรมแตกต่างกันออกไป

"คนไทยค่อนข้างมีพฤติกรรมการใช้เฟอร์นิเจอร์แตกต่างจากชาติอื่น คนไทยใช้ตู้เสื้อผ้าในแบบตู้ไม้ใหญ่ ขณะที่คนต่างประเทศ ที่อิเกียเข้าไปเปิดใช้ลิ้นชักเป็นชั้นๆ แทนตู้เสื้อผ้า

นอกจากนี้ยังไม่แน่ใจว่า พฤติกรรมการที่ให้ผู้บริโภคเข้ามาเลือกสินค้าและมาขนสินค้าไปเองนั้นจะตรงกับความต้องการผู้บริโภคคนไทยมากน้อยแค่ไหน ต่างจากผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ในไทยหลายรายให้บริการด้านการออกแบบพร้อมบริการติดตั้งประกอบให้กับลูกค้า แต่อิเกียกลับต้องขนเป็นกล่องกลับไปประกอบเองและขนเอง" ไพบูลย์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯได้หารือเรื่องการเตรียมความพร้อมในการปรับตัว ทั้งในเรื่องของการปรับปรุงรูปแบบ ดีไซน์ ราคา เนื่องจากที่ผ่านมาราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น จึงต้องพยายามหาแหล่งวัตถุดิบใหม่พร้อมปรับปรุงรูปแบบ เพื่อไม่ให้ลูกค้าต่อรองราคามากนัก

๐ ขอเป็นหนึ่งใน...ตัวเลือก

พลันที่อิเกีย แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่มีสาขากระจายไปกว่า 308 สาขาใน 38 ประเทศทั่วโลก ขยับเข้ามาลงทุนในไทย พร้อมกับกลยุทธ์เฉพาะตัวที่เน้นสินค้าถูกและมีคุณภาพ ดีไซน์ที่เหมาะกับการใช้งาน โดนใจชีวิตคนเมืองส่วนใหญ่ที่อ่อนไหวต่อราคา ทำให้ผู้เล่นหน้าเดิมเริ่มหวั่นไหว

ขนาดของอิเกียในไทยยังติด 1 ใน 5 โชว์รูมที่ใหญ่ที่สุด เทียบเท่ากันกับอิเกียใน 5 ประเทศที่มียอดขายสูงสุด โดยมีเยอรมันสัดส่วนอันดับหนึ่ง 16% สหรัฐอเมริกา 11% ฝรั่งเศส 10% สหราชอาณาจักร 7% และอิตาลี 7% ของยอดขายทั่วโลก

ทว่า..ลาร์ส สเวนส์สัน รองผู้จัดการคลังสินค้า อิเกีย ไทยแลนด์ ถ่อมตัวว่า แบรนด์อิเกียจะขอเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับลูกค้าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน และหวังว่าการมาของอิเกียจะช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดนี้ให้คึกคักมากขึ้น

ที่สำคัญจะช่วยพัฒนาความสนใจของผู้บริโภคคนไทย ให้มี "รสนิยม" ในการตกแต่งบ้านอย่าง "กว้างขวาง" มากขึ้น

เขายังเชื่อว่าไทยตามลักษณะภูมิศาสตร์ไทยจะเป็น "ศูนย์กลาง" ตลาดเฟอร์นิเจอร์ที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่จีดีพีไทยก็เพิ่มขึ้นทุกปี

ขณะที่ความกังวลในเรื่องไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคไทยว่าจะไม่สอดคล้องกับโปรดักท์ของอิเกียนั้น เขาเชื่อว่า ไลฟ์สไตล์ของคนจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจ โดยตลาดเฟอร์นิเจอร์ในเมืองใหญ่ของไทยเริ่มที่จะคล้ายคลึงกับวิถีชีวิตของคนในสหรัฐฯและยุโรป ที่มีพื้นที่จำกัด เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้จึงต้องเหมาะแก่การใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชีวิตของคนเมือง ซึ่งถือเป็นคอนเซปต์ของแบรนด์อิเกีย

"การไปเปิดช็อปในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้รู้ถึงความต้องการและรสนิยมของผู้บริโภคทั่วไปว่าต้องการอะไร คนทั่วไปมองหา และวางแผนที่จะจัดสรรเงินให้คุ้มค่ามากที่สุด นอกจากตกแต่งบ้านแล้วยังต้องเก็บเงินไว้เพื่อให้ลูกไปเรียนหนังสือ ซื้อคอมพิวเตอร์ หรือไปทำอย่างอื่น ไม่ต่างกันกับคนในนิวยอร์ก คนเมืองในไทยก็เช่นกัน"

ลาร์ส ยังบอกถึงวิธีการทำตลาดของอิเกียในไทยว่าไม่ต่างจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ คือเน้นที่สินค้ามีคุณภาพ จำนวนมาก ในราคาที่ต่ำที่ผู้บริโภคซื้อได้ เช่นเดียวกับแนวคิดของประเทศในแถบตะวันตก ที่ต้องการสินค้าสไตล์ทันสมัย

"เราจะเน้นเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมาก (Mass Market) ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้เราสามารถบริหารจัดการด้านราคาอย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนกับทุกประเทศที่เราไป และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสินค้าที่สะดวกในการใช้สอยบนพื้นที่จำกัด ให้คนมีความสุขในการใช้ชีวิตในบ้านมากขึ้น"

เขายังบอกว่า อิเกียยังต้องการให้ไทยเป็นแหล่งจัดหาสินค้า (Sourcing) กลุ่มสินค้างานหัตถกรรม (Hand made) และผลิตภัณฑ์จากไม้ จากศักยภาพการผลิตของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของไทย ก่อนจะกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคอื่นๆ
See less See more
เมกาบางนาชอบใจ คอมเพล็กซ์จีนหนุน

Thaipost เศรษฐกิจ3 มีนาคม 2554 - 00:00

นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่า กรณีที่จะมีกลุ่มทุนจากประเทศจีนเข้ามาลงทุนโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านบางนาด้วย เม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 45,000 ล้านบาทนั้น บริษัทไม่รู้สึกมีความกังวลในเรื่องดังกล่าวเนื่องจากศูนย์การค้าของกลุ่มทุนจีนเน้นการค้าส่ง ในทางตรงกันข้ามบริษัทรู้สึกยินดีเพราะทำให้ธุรกิจในย่านดังกล่าวมีการขยายตัว และกลายเป็นแหล่งช็อปปิ้งเหมือนย่านราชประสงค์ แต่ต่างก็เพียงย่านราชประสงค์-กลุ่มที่เข้ามาซื้อสินค้าจะเป็นกลุ่มระดับบน ขณะที่ย่านบางนาจะเป็นกลุ่มคนระดับกลาง

สำหรับความคืบหน้าของโครงการเมกาบางนานั้น ขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จไปประมาณ 30% คาดว่าประมาณเดือน พ.ย.จะสามารถเปิดให้บริการในเฟสแรก จากนั้นประมาณเดือน มี.ค.55 จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการทั้งโครงการ ขณะที่ความคืบหน้าของการขายพื้นที่เช่าขณะนี้ขายไปได้แล้วประมาณ 70% คาดว่าจะขายได้ครบ 100% ก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งขณะนี้สัดส่วนการขายพื้นที่ดังกล่าว 30% เป็นพื้นที่ของโฮมโปร 20% โรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ 20% ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และ 30% ห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทเปิดให้บริการศูนย์การค้าเมกาบางนาอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท.
See less See more
Bang Na gears up to become shopping hub

The Nation Published on March 3, 2011


Bang Na will become a shopping hub when Mega Bangna, Products City Complex, SB Furniture, and Index open new outlets this year and next, Nopporn Witoonchart, chief executive officer of SF Development, told a news conference yesterday.


The Bt10-billion Mega Bangna, the first low-rise regional mall in Southeast Asia, occupying 400,000 square metres, is scheduled to be fully open by March 8 next year, anchored by an Ikea home-furnishings centre.

The shopping complex will be operated by SF Development, a local joint venture of Siam Future Development and Ikano, which each hold a 49-per-cent stake in the company. Another 2-per-cent stake in the joint venture is held by SPS Global Trade.

"About 70 per cent of our retail space, totalling about 180,000sqm, has already been leased," Nopporn said. The company expects all the retail space at Mega Bangna complex will be leased by the end of this year.

Construction of the building for the Ikea home-furnishings centre, which will occupy 40,000sqm of retail space, has already been completed and is due to open on November 3, Nopporn said.

The company will open retail space to its tenants by December, he said.
See less See more
ธุรกิจสิ่งทอเมืองไทยก็ปรับตัวไงครับ ทำไมญี่ปุ่น เกาหลีใต้เขาถึงอยู่ได้

4ยักษ์การ์เมนต์ปักฐานเวียดนาม


สุกิจ คงปิยาจารย์เวียดนาม ส้มหล่น 4 ยักษ์การ์เมนต์ไทยควงแขนปักฐานลงทุนแทนกัมพูชา เตรียมผุด 4 โรงงาน ใน 3 เมือง เพิ่มจ้างงานกว่า 20,000 คน ชี้จุดเด่นห่างไทยหลายขุม อัดรัฐบาล "มาร์ค"หาเสียงปรับเพิ่มค่าแรงอีกเป็นฟางเส้นสุดท้าย

นายสุกิจ คงปิยาจารย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮงเส็งการทอ จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ล่าสุดผู้ผลิตและส่งออกเครื่องนุ่งห่ม(การ์เมนต์) 4 รายใหญ่ ประกอบด้วย ฮงเส็งกรุ๊ป ไนซ์กรุ๊ป ไฮเทคกรุ๊ป และทองไทยกรุ๊ป ได้ตัดสินใจจะเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่มประเภทเสื้อผ้ากีฬาในประเทศเวียดนามเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ทั้ง 4 กลุ่มกับอีก 1 กลุ่มคือ นันยางกรุ๊ป มีแผนจะเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานที่เมืองปอยเปตของประเทศกัมพูชา แต่จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างไทยและกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมารวมถึงจากนี้ไปยังไม่น่าไว้ใจ ดังนั้นทั้ง 4 กลุ่ม จึงได้ตัดสินใจที่จะเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในเวียดนามแทน

สำหรับการตัดสินใจในครั้งนี้เนื่องจากเวียดนามมีจุดเด่นในหลายเรื่อง ที่สำคัญคือ มีแรงงานรองรับเพียงพอ และค่าจ้างยังไม่สูงมาก มีสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนที่เอื้อต่อการลงทุน อีกทั้งรัฐบาลเวียดนามยังมีแผนชัดเจนในเรื่องการเจรจาเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)กับประเทศต่างๆ โดยล่าสุดมีแผนเจรจาเข้าเป็นสมาชิกของกรอบความร่วมมือเอฟทีเอ Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement หรือ TPP โดยในกลุ่มนี้อนาคตจะมีสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ ซึ่งหากบรรลุความตกลง การลงทุนในเวียดนามจะทำให้ได้เปรียบในการส่งออกไปสหรัฐฯ อีกทั้งการปรับลดค่าเงินด่องหลายครั้งของเวียดนามยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันส่งออกด้วย

"ที่เราพากันไปลงทุนในเวียดนามครั้งนี้เพราะทนการผลักใสของรัฐบาลไทยไม่ไหว ทั้งไม่ช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน แถมหาเสียงจะปรับขึ้นค่าแรงอีกเพื่อหวังผลเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นนโยบายประชานิยมมากเกินไป โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการแข่งขันได้หรือไม่ รวมถึงรัฐบาลปัจจุบันไม่อยู่ในสภาพที่จะไปเจรจาเขตการค้าเสรีใหม่ๆ เพื่อช่วยสร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการไทยได้ ดังนั้นพวกเราจึงต้องดิ้นรนออกไปต่างประเทศเพื่อใช้เป็นฐานขยายการผลิตที่เหมาะสมแทน ส่วนฐานในไทยเราก็จะยังคงรักษาไว้ แต่คงขยายไม่ได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่"

นายสุกิจ เปิดเผยถึงรายละเอียดการลงทุนของ 4 กลุ่มในเวียดนามครั้งนี้จะเป็นลักษณะเอกเทศ ลงทุนเองทั้งหมด ไม่ได้ร่วมทุนระหว่างกัน ซึ่งพื้นที่การลงทุนจะอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมของ 3 เมืองทางภาคกลางของเวียดนามได้แก่ เมืองกว่าง-ตรี(Quang-tri) กว่าง-นัม(Quang-nam) และเมืองเว้(Hue) เป็นพื้นที่เช่า 50 ปี แต่ละโรงงานจะใช้พื้นที่ประมาณ 5 เฮกตาร์(ราว 30 ไร่) ใช้เงินลงทุนต่อโรงประมาณ 6-10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 180-300 ล้านบาท) และคนงานต่อโรงประมาณ 4,000-5,000 คน หรือรวมกัน 4 โรงจะเพิ่มการจ้างงานให้ชาวเวียดนามประมาณ 20,000 คนในช่วง 3-5 ปี ซึ่งจากนี้ไปแต่ละโรงจะเริ่มเซ็นสัญญาลงมือก่อสร้าง สามารถผลิตและส่งออกได้ประมาณกลางปีหน้า

นายวัลลภ วิตนากร ประธานบริหารไฮเทคกรุ๊ป กล่าวว่า เบื้องต้นการลงทุนในเฟสแรกของทั้ง 4 กลุ่มจะใช้คนงานไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ซึ่งการลงทุนในเวียดนามจะช่วยเพิ่มยอดขายของแต่ละกลุ่มเพิ่มจากฐานเดิมที่ลงทุนอยู่ในเมืองไทย นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยหาทางออกให้ลูกค้าที่ต้องการโรงงานผลิตขนาดใหญ่ในต้นทุนที่แข่งขันได้ เพราะหากในอนาคตรัฐบาลยังพยายามผลักดันค่าแรงขั้นต่ำให้ถึง 250-300 บาท/วัน ลูกค้าคงรับราคาไม่ได้

"ก่อนหน้านี้มีลิเบอร์ตี้กรุ๊ปจากไทยไปลงทุนตั้งโรงงานการ์เมนต์ในเวียดนามแล้ว ซึ่งก็ไปได้ไม่เลว ขณะที่การออกไปอีก 4 กลุ่มครั้งนี้น่าจะเป็นจุดสนใจ และทำให้อีกหลายรายตามออกไป"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,615 6-9 มีนาคม พ.ศ. 2554

http://www.thanonline.com/index.php...141:4&catid=87:2009-02-08-11-23-26&Itemid=423
See less See more
Ikea plans two more stores in Bangkok

The Nation Published on March 10, 2011

Ikea, the iconic Swedish homefurnishings company, plans to invest another Bt6 billion in Thailand to open its second and third stores in western and northern Bangkok in the near future.

Both new stores, which will be opened within the next five years, are anticipated to be similar in size to the first Bangkok Ikea in Bang Na, which will have 43,000 square metres of total retail space when it opens late this year.

The move is in line with the company's ambition to become the No 1 homefurnishing company in Thailand.

The company yesterday announced its would open Ikea Bangna in November.

The store, with about 1,300 free parking spaces, will be the largest Ikea outlet in Southeast Asia. It will employ about 400 people and reflect the same unique architectural design for which Ikea stores are known worldwide.

Ikea Bangna is 100 per cent owned by Ikano. Mega Bangna, the mall it will anchor, is 49 per cent owned by Ikano and 49 per cent by Siam Future Development.

In addition to Thailand, Ikea plans to open its second store in Kuala Lumpur within the next two years, while the third store will be opened at Johor Bahru, Malaysia's secondlargest city, within the next three to four years.

Tom Huzell, managing director of Ikano Retail Asia, the Ikea franchisee holding licences for Ikea in Singapore, Malaysia and Thailand, said the company expected to open its second Ikea store in Bangkok within the next three years. Meanwhile, the first store is anticipated to reach annual visitor traffic of 6 million people within the same threeyear period.

"We would like to be in shopping clusters and to locate with other retailers," Huzell said.

He added that the Ikea experience would meet and exceed the many needs and tastes of Thai consumers when Ikea Bangna opened its doors. In the first year of operation, Ikea expects more than 4.5 million people to visit its store and its many room displays, children's play area, and 700seat restaurant serving Swedish foods.

The venture aims to be profitable from the beginning by keeping costs low, said Huzell, who has been with different Ikea franchisees for 26 years.

Ikea Bangna will provide a wide selection of 7,500 furnishing designs. Thirty per cent of the product range will change four times a year. The company has sourced products from 70 countries, including Thailand.

Huzell said Ikea's key strengths were its low prices, good function, and good design.

"We offer consumers prices 1020 per cent lower than our competitors' similar basic products and up to 4050 per cent cheaper for midend to premium products," he said.

Mega Bangna is on the southwestern corner of Bang NaTrat Road and Eastern Ring Road at the BangpleeSuksawat Expressway intersection.

Huzell said the company would maintain low prices at Ikea Bangna to fulfil its commitment to customers. Economy of scale helps Ikea keep prices low because of its bargaining power with 316 stores in 38 countries.

Ikea says it develops new products around an estimated price, and design teams set out to create functional and durable furnishings, keeping costs low with careful use of resources.

http://www.nationmultimedia.com/201...lans-two-more-stores-in-Bangkok-30150479.html
See less See more
Ikea 'open house' next week to recruit 500

The Nation Published on May 14, 2011


Ikea, the iconic Swedish homefurnishings company, will hold a jobapplication day on May 20 next Friday to recruit more than 500 staff for its first store in Thailand.

The 43,000squaremetre store in Bang Na will be officially opened in November.

Wasna Nakthaworn, humanresources manager for Ikano (Thailand), said the company expected more than 5,000 people to participate in the "Ikea Job Open House", which will be held at Bangna Towers on Bang NaTrat Road Kilometre 6.5.

"In a challenge as a newcomer to the Thai market, Ikea is trying to make a differฌence by attracting applicants and building up a positive buzz by involv?ing them in small group activities to observe their cooperative behaviour." Wasna added that the right candidates would "share Ikea's valฌues and culture that respect the individual and [provide] equal opportunities to develop each individual".

She said the applicants would take part in group activ?ities and a 10minute interview arranged by the company. Those who pass the firstround recruitฌment will join the secondround interview session to be held between May 23 and June 17.

"About 60 per cent of the recruits will be for fulltime staff, and another 40 per cent for parttime," Wasna said.

She added that fulltime staff would work about 45 hours a week, and parttime people 15 hours.

Both full and parttime staff would enjoy the same company benefits.

Fulltime staff will earn a starting salary of Bt9,000 a month, rising to Bt20,000 a month for supervisor.

Parttime staff will earn Bt45 per hour.

"We are looking for local staff to fill in many positions such as human resources, sales, com?munications and interior design, logistics, customer service, food and beverage, and business navigation," Wasna said.

She said that about 12 foreign Ikea staff at the managerial level, mainly from the Netherlands, Japan, Britain and Russia, would be in Thailand for about three years for coaching and transferring knowhow to the Thai managers.

"We are looking for any people at any educational level who are willing to work enthusiastically and share the same values and culture with Ikea," Wasna said.

Ikea Bangna is 100 per cent owned by Ikano. Mega Bangna, the mall it will anchor, is 49 per cent owned by Ikano and 49 per cent by Siam Future Development.

Lars Svensson, marketing manager for Ikano (Thailand), said the first Ikea store in Thailand on Bang NaTrat Road would be the largest Ikea store in Southeast Asia, occu?pying total retail space of 43,000 square metres. The store is expected to attract between 30,000 and 40,000 shoppers a day or up to 4 million people a year. About 50 per cent of them will come on weekends.

"At Ikea, we are a group of strong wills, humble, enthusiastic, and working towards a common goal of creating a better everyday life for many people," Svensson said.

"We are working like a family and with an open environment so that everybody can relax, interact and talk to one another."

Wasna said Ikea's organisaฌtional structure was very flat, with only four layers of command, starting from manager, to assistant manager, supervisor, and coworker.

She said the manager of the Thailand store would report directly to the company's regional retail manager based in Singapore.

http://www.nationmultimedia.com/201...-house-next-week-to-recruit-500-30155371.html
See less See more
แม่ทัพ "ลาเซีย เชอร์ล็อก" เปิดยุทธศาสตร์"อิเกีย"ประเทศไทย "วันแรกที่เปิด เราอยากเห็นลูกค้ามาต่อคิว"

อีกไม่ถึง 3 เดือน IKEA (อิเกีย) สโตร์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านแบรนด์ดังจากสวีเดนที่มีสาวกกระจายอยู่ทั่วโลก จะดีเดย์เปิดให้บริการ "สาขาแรก" ในเมืองไทย ฤกษ์ดี 09.00 น. ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2554 เพื่อเฉลิมฉลองก่อนวันจับจ่ายใช้สอยใน

รอบปี ทั้งเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

นับเป็นก้าวแรกและครั้งแรกที่ยักษ์ใหญ่ "อิเกีย" เข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทย หลังรี ๆ รอ ๆ มานานนับ 10 ปี

"อิเกีย" ไม่ได้ฉายเดี่ยว แต่ประกาศร่วมทุนกับเจ้าตลาดคอมมิวนิตี้มอลล์ SF "สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์" และซัพพลายเออร์หลักที่เป็นคนไทย "เอส.พี.เอส.โกลเบิลเทรด" (ส.ประภาศิลป์) ผุดโครงการเมกะบางนา มูลค่าสูงถึง 12,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ "อิเกีย" หอบเงินมาลงทุนเฉพาะสโตร์ของตัวเองร่วม ๆ 4,000 ล้านบาท

ยุทธศาสตร์ของอิเกียจะเป็นอย่างไร แล้วหน้าตาสโตร์แห่งแรกจะเร้าใจแค่ไหน "ลาเซีย เชอร์ล็อก" (Lacia Sherlock-Olofsson) ผู้จัดการสโตร์อิเกีย ประจำประเทศไทย แม่ทัพหญิงวัย 44 ปี และ "ลาร์ส สเวนส์สัน" (Lars Svensson) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทอิคาโน่ ประเทศไทย เปิดใจกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า...

ความมหึมาของอิเกียสโตร์สาขาแรกในไทยจะเป็นอาคาร 2 ชั้น มีพื้นที่รวม 4.3 หมื่นตารางเมตร จอดรถได้ 1,300 คัน และตั้งอยู่ภายในโครงการ "เมกะบางนา" ที่มีเนื้อที่ใหญ่ยักษ์ถึง 254 ไร่ จากฐานข้อมูลปี 2553 แบรนด์อินเตอร์ "อิเกีย" แข็งแกร่งมานานถึง 68 ปี มีสโตร์ 316 แห่งกระจายอยู่ใน 38 ประเทศทั่วโลก

การเข้ามาในไทยของอิเกีย ไม่เฉพาะ "สาวก" เท่านั้นที่รอคอย กลุ่มผู้บริหารอิเกียก็คอยอยู่เช่นกัน

ฉะนั้นการเตรียมความพร้อมในงานแกรนด์โอเพนนิ่งอย่างเป็นทางการของอิเกีย "ลาเซีย" บอกว่า "เราพร้อมแล้ว"

โดยเฉพาะเรื่องกำลังคนประมาณ 70% หรือ 280 อัตราจากทั้งหมด 400 อัตรา และขณะนี้บริษัทก็ยังรับและฝึกฝนคนให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของความเป็นอิเกีย

ส่วนตัวสโตร์นั้น ล่าสุดได้ติดตั้งชั้นวางสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือนำสินค้ามาจัดเรียง จึงรับประกันได้ว่า 3 พฤศจิกายน 2554 อิเกียพร้อมเปิดบริการแน่นอน

รายละเอียดสโตร์ช็อปปิ้งจะแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นแวร์เฮาส์ (คลังสินค้า) มาร์เก็ตฮอลล์พวกของชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเซลฟ์เสิร์ฟแอเรีย (Self Serve Area) ที่มีรถเข็นเตรียมไว้ให้ ส่วนชั้น 2 เป็นรูมเซตติ้ง (ห้องตัวอย่างจำลองการตกแต่ง) มีทั้งหมด 60 รูมเซตติ้ง สินค้าบางชิ้นให้ลูกค้าหยิบไปจ่ายเงินที่ทางออกได้เลย ทางเดินก็เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสโตร์ กล่าวคือเป็นวันเวย์เข้าออกทางเดียว

แต่ถ้าเป็นของชิ้นใหญ่จะมีใบเช็กลิสต์ให้ ลูกค้าจดรหัสสินค้าไว้ ชั้นไหน กลุ่มไหน แล้วเดินลงข้างล่างมาที่เซลฟ์เสิร์ฟแอเรีย หยิบรถเข็น จ่ายตังค์ สำหรับของชิ้นใหญ่ อาทิ ตู้เย็น ตู้วางทีวี ชุดครัว ไม่ต้องรอ 3 วัน 7 วัน ลูกค้าแค่จดรหัส จากนั้นอิเกียจะส่งถึงมือลูกค้าภายใน 1 วัน นี่คือมาตรฐานของอิเกียทั่วโลก

ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมี "ค่าขนส่ง" ต่างหาก เพราะ...its never free (ไม่มีอะไรฟรี)

"ไม่มีที่ไหนส่งฟรี ถึงมีก็เฉลี่ยอยู่ในราคาสินค้าแล้ว แต่อิเกียให้เลือกว่าจะขนกลับเอง หรือส่งให้" ลาร์สอธิบายและย้ำว่า ที่ผ่านมาราคาสินค้าในเมืองไทยที่จัดส่งถึงบ้านนั้น ผู้ประกอบการได้รวมราคาสินค้ากับค่าจัดส่งไว้แล้ว

"เรากล้าทุ่ม กล้าลงทุน เพราะเป็นสาขาใหม่และสาขาแรกในเมืองไทย ที่นี่จะเป็นแวร์เฮาส์อิเกียที่ใหญ่ที่สุดในโลก กว้างถึง 11,300 ตารางเมตร ตัวสาขาใหญ่เป็นอันดับ 3 เป็นรองแค่สาขาในสวีเดนและเยอรมนีเท่านั้น"

"ที่ต้องมีแวร์เฮาส์ใหญ่ เพราะการนำเข้าสินค้าจะใช้เวลานานประมาณ 6 สัปดาห์ จึงต้องมีสต๊อกไว้เพียงพอต่อสินค้า 7,500 รายการ"

"ก่อนเปิดสโตร์ พนักงานหลายคนตื่นเต้นถึงขนาดบางคนมาจัดของเอง มาต่อเตียงด้วยตัวเอง" พวกเขากล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ

งาน "เปิดบ้าน" วันแรก อิเกียจะเชิญแขก วี.ไอ.พี.มาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งบริษัทจะให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 และวางแผนการจราจร การเข้าออกให้มีการลื่นไหลที่ดี ไม่ติดขัด

และสิ่งที่พวกเขาอยากเห็นคือ "วันแรกที่เปิด เราอยากเห็นลูกค้ามาต่อคิว" โดยตั้งเป้าและคาดหวังว่าจะมีลูกค้ามาช็อปถึง 40,000 คน ในวันแรกที่เปิด ส่วนเป้าหมายทั้งปีคือ 4.5 ล้านคน หรือตกเดือนละ 4 แสนคน

เรื่องการสร้างการรับรู้นั้น อิเกียจะใช้ "แค็ตตาล็อก" จำนวน 2 ล้านเล่ม แจกเป็น "คู่มือ" แก่ลูกค้าคนไทยทั้งในกรุงเทพฯและสมุทรปราการ แยกเป็น 1 ล้านเล่ม เป็นแค็ตตาล็อกฉบับเต็มหนา 84 หน้า จะทยอยแจกในเดือนตุลาคมนี้ เนื้อหาจะเกี่ยวกับสินค้าอิเกีย วิธีการเดินช็อปปิ้ง ฯลฯ

อีก 1 ล้านเล่มจะเป็น "มินิแค็ตตาล็อก" ส่งไปถึงบ้านลูกค้า ที่ยังไม่ได้รับแค็ตตาล็อกเล่มแรก เพราะกรุงเทพฯเป็นเมืองใหญ่คิดว่าคงแจกได้ไม่ครบ และเป็นการเปิดสาขาแรกในไทย อิเกียถึงต้องทำการบ้านพอสมควร โดยจะบอกถึงช่องทางเข้าถึงแค็ตตาล็อกฉบับสมบูรณ์ เช่น โหลดแอปพลิเคชั่น แจ้งมาโดยตรง ฯลฯ ส่วนลูกค้าทั่วไปและต่างจังหวัดจะสื่อสารผ่านหนังสือพิมพ์ ทีวี เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก

จุดเด่นและพันธสัญญา (commitment) ที่อิเกียจะให้กับคนไทยนั้น "ลาเซีย" บอกว่า...โลว์ไพรซ์ "แค็ตตาล็อกเมื่อส่งตรงถึงมือลูกค้า ราคาที่กำหนดจะเป็นราคาที่ใช้ไปอีก 1 ปี ไม่มีเปลี่ยนแปลง"

นั่นหมายความว่า อิเกียกำหนดราคาล่วงหน้า 1 ปีเต็ม

ทุกปีอิเกียจะพยายามลดราคาสินค้าลงมาอีก เพราะจากประสบการณ์ถือว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ทำให้อิเกีย

ประสบความสำเร็จมาตลอด แต่ละปีอิเกียจะมาคิดกันว่า "สินค้าไหนบ้างที่จะลดราคาได้อีก ขณะที่คุณภาพยังคงเดิมและดีไซน์สวยขึ้น"

ฉะนั้นมาร์จิ้นของอิเกียจึงไม่ได้มากเท่าไหร่ แล้วเมืองไทยก็จัดเก็บภาษีนำเข้าสูง และมีกฎเกณฑ์หลายอย่าง เช่น ห้ามขายต่ำกว่าราคาทุน อิเกียก็ปฏิบัติตรงนี้อย่างเคร่งครัด โดยราคาสินค้าในสโตร์ที่บางนา ชิ้นถูกสุดจะเริ่มต้นที่ 9 บาท (พวกทิสชู ของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ)

นอกจากกลยุทธ์ Low Price Good Function แล้ว ในจำนวนสินค้าทั้งหมดในอิเกียสโตร์ ยังมีรายการที่เรียกว่า "BTI" มาจาก Breathing Taking Item (สินค้ากระชากลมหายใจ) แบบเห็นแล้วยากจะห้ามใจ ตอนเปิดจะมีประมาณ 25 รายการ กลุ่มนี้ราคาจะต่ำกว่าสินค้าฟังก์ชั่นเดียวกันในตลาด 20% และจะเพิ่มรายการขึ้นเรื่อย ๆ

กับคำถามถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือฟรีเทรดโซนในปี 2015 (ปี 2558) "ลาเซีย" ตอบทันทีว่า...We are waiting Please (ลากเสียงยาวพร้อมพนมมือ) และถ้ากำแพงภาษีไม่เป็นอุปสรรค ราคาอิเกียจะถูกลงได้อีก

แต่ใช่ว่า "ราคาถูก" จะเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้อิเกียไม่ต้องทำอะไร เพราะ "ลาเซีย" บอกว่า 1 ปีที่มารับงานในอิเกีย ไทยแลนด์ เธอตระเวนดูผู้ประกอบการท้องถิ่นทุกแบรนด์ ทั้งอินเด็กซ์, เอส.บี., โฮมโปร, โกลบอลเฮาส์, ไทวัสดุ, ชิค-รีพับลิก, CDC, บิ๊กซี หรือแม้แต่เทสโก้ โลตัส

"สรุปว่าทุกรายมีจุดเด่นต่างกัน การไปช็อปปิ้งที่เหล่านี้ ท่านอาจจะสะดวกกว่ามาอิเกียเพราะมีหลายสาขา แต่ถ้ามาอิเกียแล้วคุณจะได้ของครบ ตามคอนเซ็ปต์ IKEA For One Roof คือมีความหลากหลาย"

เธอย้ำอีกว่า การมาของอิเกียไม่ต้องการทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นล้มหายตายจาก แต่ต้องการส่งเสริมซึ่งกันและกัน ขอเรียกว่าคู่ค้า ไม่ใช่คู่แข่ง

ส่วนเรื่องพฤติกรรมการซื้อสินค้า ดี.ไอ.วาย. (Do it Yourself) ที่ซื้อไปแล้วประกอบเอง เป็นคำถามที่เจอทุกครั้งที่เข้าไปทำตลาดใหม่ ๆ อย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย แต่ทุกที่ก็ "เวิร์ก" เคยมีผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคเรื่องนี้ ปรากฏว่ามี 30% ยินดีซื้อของที่ต้องขนเอง ประกอบเอง หากคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป (ในราคาถูกลง)

ทั้งลาเซียและลาร์สบอกทิ้งท้ายอีกว่า พวกเขาเชื่อมั่นประเทศไทย "ทุกอย่างต้อง...เดอะโชว์มัสโกออน (หัวเราะ) อย่างปีที่แล้ว อิเกียประกาศตัวก็เกิดจลาจลพอดี แต่เราก็ยังเดินหน้ารับแมเนจเมนต์รุ่นแรกและสำเร็จไปด้วยดี"

"ประเทศไทยไม่น่าห่วง เพราะอัตราคนว่างงานค่อนข้างต่ำ เป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจ ทุกอย่างน่าจะโอเค"

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1313559305&grpid=no&catid=04
See less See more
IKEAเปิดตัวแจกแคตตาล็อคล้านเล่ม


IKEA (อีเกีย) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากสวีเดนเปิดตัวที่สยามสแควร์ ดึงจุดเด่น "แคทตาล็อค"ความหนา 376 หน้าแจกฟรี จำนวนพิมพ์ 1 ล้านเล่ม ทำให้คนไทยซึ่งนิยมชมชอบการตลาด "ต่อคิว" ได้ต่อคิวรับเล่มแคทตาล็อคโดยเล่นเกมตอบคำถามเกี่ยวกับแบรนด์เล็กๆน้อยๆก็จะได้รับถุงสีน้ำเงิน-เหลือง สีสัญลักษณ์ของแบรน์รวมทั้งแคทตาล็อคสินค้า

จุดเด่นที่ตอบโจทย์ว่าทำไมคนถึงมา "ต่อคิว" รับแคทตาล็อค ซึ่งต่างจากการแจกใบปลิวโฆษณาทางสินค้าทั่วไป ส่นวหนึ่งเพราะการร่ำลือว่าแคทตาล็อค "อีเกีย" เป็นสิ่งพิมพ์ที่มีการลงทุนพิมพ์จำนวนสูงมากสำหรับธุรกิจสิ่งพิมพ์ในโลกปัจจุบัน นั่นจึงเป็นจุดเด่นที่หลายคนชมชอบสะสมแคทตาล็อคอีเกียยามที่ได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อหาไอเดียตกแต่งบ้าน

สำหรับแคทตาล็อค "อีเกีย" ประเทศไทยกับความหนา 376 หน้า ยังคงคอนเซ็ปต์หลักคือ ภาพการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้านต่างๆที่ฉากแบบต่างๆเป็นการลงทุนสร้างจริงทั้งหมด การชมแคทตาล็อคจึงเหมือนเปิดแมกกาซีนแต่งบ้านได้กลายๆ

คนไทยจะได้ลองใช้บริการแบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากสวีเดนได้ 3 พ.ย.นี้ ที่บางนา

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1317375799&grpid=&catid=07&subcatid=
See less See more
อีเกียฟุ้งได้ทำเลสาขาใหม่

เศรษฐกิจ1 ตุลาคม 2554 - 00:00

อีเกียคุยได้ทำเลเปิดสาขาใหม่อีก 2-3 สาขา แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ พร้อมเปิดตัวแคตตาล็อก IKEA กระตุ้นกิเลสคนชอบแต่งบ้าน มั่นใจลูกค้าเข้าร้านวันละ 4 หมื่นคน

นางลาเชีย เชอร์ล็อค ผู้จัดการสโตร์อีเกีย (IKEA) บางนา บริษัท อิคาโน จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากสวีเดน ภายใต้แบรนด์ "อีเกีย" เปิดเผยว่า จากแนวโน้มของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงมีความสนใจที่จะเปิดสาขาอีเกียในประเทศไทยอีกประมาณ 2-3 แห่ง โดยขณะนี้ได้มีการมองทำเลไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปพร้อมเริ่มเห็นโครงการใหม่ได้ภายใน 10 ปีนับจากนี้หรืออาจเร็วกว่านั้น แต่ทั้งนี้คงต้องดูผลตอบรับของผู้บริโภคจากสาขาแรกที่ย่านบางนาก่อน เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทยมีการแข่งขันที่สูง เพราะมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย แต่จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังดี จึงมั่นใจว่าจะยังคงส่งผลให้อุตสาหกรรมเฟอร์ในประเทศไทยเติบโตได้อีกมาก

สำหรับการเปิดให้บริการอีเกียบางนานั้น คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เข้ามาซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่าวันละ 40,000 คน หรือประมาณ 5.5 ล้านคนต่อปี เท่ากับสาขาในมาเลเซียและโตเกียว ซึ่งในปีต่อไปคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ 6 ล้านคนเท่ากับสาขาในจีน เนื่องจากบริษัทจะเปิดพื้นที่ขายทั้ง 43,000 ตร.ม. เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมกันนี้ยังมีบริการรถรับ-ส่งบริเวณสถานีอุดมสุข เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า

"ในวันที่ 3 ต.ค.นี้ จะมีการแจกแคตตาล็อก IKEA เล่มใหม่ จำนวน 1 ล้านเล่ม พร้อมบัตรเชิญสำหรับงานเปิดบ้านใหม่ของเราในวันที่ 3 พ.ย. จะแจกจ่ายไปยังครอบครัวต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของเราที่ IKEA บางนา โดยในส่วนของแคตตาล็อก IKEA เล่มนี้จะช่วยให้คนกรุงเทพฯ ทำบ้านให้เป็นบ้านที่น่าอยู่มากขึ้น เพราะมีสินค้าหลากหลาย ดีไซน์สวยงาม และคนทั่วไปซื้อได้" นางลาเซียกล่าว

ส่วนเรื่องของราคาสินค้านั้น บริษัทได้ทำการสำรวจราคาสินค้าเพื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ในตลาดแล้วพบว่าราคาจะมีความใกล้เคียงกัน แต่ข้อได้เปรียบของอีเกียคือมีสินค้าให้เลือกกว่า 7,000 รายการ และมีสินค้าที่ออกแบบมาโดยเฉพาะที่อีเกียเท่านั้น จึงมั่นใจว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ทั้งนี้ โครงการเมกะบางนา ใช้งบลงทุนไปทั้งหมด 12,500 ล้านบาท.

http://www.thaipost.net/news/011011/45863
See less See more
Ikea to open on time, but without usual hoopla

The Nation November 2, 2011 12:15 pm

Despite the flood threat, Ikea yesterday confirmed the launch tomorrow of its first mega-store on Bang Na-Trat Road, but as a "soft" instead of a "grand" opening.

"We are no different from many others. We have put an emergency response team in place led by a risk manager we flew in from Luxembourg," said Lars Svensson, marketing manager for Ikano (Thailand).

The company has identified critical areas that could have a severe impact or stop its operations and has protected them accordingly.

It has prepared sandbags and pumps, put up brick walls and brought in lifting equipment, and it is shifting goods.

Trucks and boats plus shuttle buses have been secured to take people away from the site. Generators are on standby with enough diesel to run critical operations for 48 hours. There is food as well as enough space to lodge co-workers and families for up to two weeks.

The company has stored tap water on the roof and subjected it to a filter and water treatment so it can be self-sufficient in water for awhile.

"Co-workers are told to prioritise homes, safety and families over work. Time off for flood-related issues has no impact on salary. We also have a flooding policy in place.

"We decided to change the message in the opening campaign and to tone it down a notch and to cancel or defer media where possible.

"Usually our openings are grand and noisy. The opening is no longer a grand opening but a low-key soft opening," he said.

The company has only one local supplier that has been directly affected by the flood and it has solved that problem by seeking replacement products elsewhere.

Ikea is fully committed to continuing its investment plan in Thailand with at least two more stores expected to be built in Greater Bangkok within 10 years.

"We have faith in Thailand and that there is a solid market also for us. We believe that Thailand and the Thais have a solid reputation with foreign investors. The resilience of the Thai people and the strength of its industries are a great foundation for foreign investors.

It will take more than a natural disaster to shake that perception," Svensson said.

http://www.nationmultimedia.com/business/Ikea-to-open-on-time-but-without-usual-hoopla-30169034.html
See less See more
Ikea set for low-key opening

Published: 2/11/2011 at 12:00 AM

The popularity of do-it-yourself furniture among Thai consumers will increase significantly after the country's worst floods in 50 years, according to the Swedish home furnishing giant Ikea.

Lars Svensson, the marketing manager of Ikano (Thailand), Ikea's local operator, said the current flooding would change consumer preferences from built-in units to furniture with self-assembly.

"DIY and ready-to-move furniture will be a new trend, as it is easier to remove and reassemble," he said yesterday.

When flooded, people need to move their furniture as quickly as possible. If the furniture is built-in, they have to leave it; if it is DIY, they can easily remove and move it away.

Ikea plans to open its first store tomorrow on Bang Na-Trat Road, sticking to its plan. But promotional activity has been toned down and ad spending of 3 million baht cut off.

"We believe everything will be back to normal early next year," Mr Svensson said. "Our marketing plan remains the same for the next events like Christmas and New Year."

Instead of holding a celebration for the store opening, Ikea has donated this budget to flood victims through the Mae Fah Luang Foundation. Ikea Thailand has donated 20 million baht to help those who are suffering from the floods.

In terms of flood impact, only one of Ikea's suppliers in Thailand has been affected, its production base submerged.

Thai suppliers contribute 2-3% of the products available in the store. Ikea plans to increase the proportion of Thai-made products to a double-digit rate next year.

"If the flood is worse or throughout Bangkok, our store will remain open but the plan to have a second store may be reconsidered," Mr Svensson said.

Ikea was prepared for the flood. It stocked food, water and power generators and made plans for employees to evacuate in case of flooding.

The Bang Na store held a test day Oct 29 when 7,500 people came to shop. From the test, Ikea learned that Thais knew the DIY concept well, instilling hope that this would become a trend in the country.

Ikea had expected 400,000 to 500,000 visitors for tomorrow's official opening but now predicts 10% fewer.

http://www.bangkokpost.com/business/economics/264300/ikea-set-for-low-key-opening
See less See more
21 - 40 of 816 Posts
Top