SkyscraperCity Forum banner

Bangkok | Mega Bangna + IKEA Bangna

414669 Views 815 Replies 196 Participants Last post by  DMS_SKY
41 - 60 of 816 Posts
เมกะบางนาถือฤกษ์555 เล็งทำเลใหม่งบหมื่นล้าน

เศรษฐกิจ 8 ธันวาคม 2554 - 00:00

เมกะ บางนา รับเลื่อนเปิด 6 สัปดาห์จากแผนเดิม เผยอยากเล่นกิมมิก 555 คาดโกยรายได้ต่อไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท ภายใน 10 ปีคลอดเพิ่ม 2 สาขา

นายคริสเตียน โอลอฟเซน ประธานกรรมการฝ่ายจัดการศูนย์การค้า บริษัท เอสเอฟ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าเมกะ บางนา เปิดเผยว่า บริษัทยอมรับว่าได้เลื่อนการเปิดศูนย์การค้าเมกะ บางนา ออกไป 6 สัปดาห์ จากเดิมจะเปิดให้บริการในวันที่ 8 มี.ค. 2555 เป็นวันที่ 5 พ.ค.2555 เนื่องจากต้องการให้ร้านค้าเช่าเข้ามาตกแต่งร้านให้สวยงามและเสร็จสมบูรณ์พร้อมที่จะเปิดให้บริการพร้อมกับศูนย์การค้า ประกอบกับบริษัทต้องการที่จะเข้ามาเล่นมุกการตลาด (กิมมิก) ของวันที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 จึงได้มีการเลยวันเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ดังกล่าว

สำหรับงบประมาณที่บริษัทได้เตรียมไว้ใช้ในการทำกิจกรรมทางการตลาดในปีหน้านั้นอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท แบ่งเป็น งบในการสร้างแบรนด์และโฆษณาประชาสัมพันธ์ และใช้ไปกับการทำกิจกรรมทางการตลาดและเปิดตัวศูนย์การค้า ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักที่บริษัทต้องการเข้าไปทำตลาดคือ กลุ่มครอบครัวระดับซีถึงเอ

นอกจากนี้ ในส่วนของร้านค้าเช่าที่เข้ามาเปิดให้บริการ บางแบรนด์ไม่เคยเปิดร้านมาก่อนในประเทศไทย ประมาณ 5-6 แบรนด์จะเข้ามาเปิดให้บริการในโครงการเมกะ บางนา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา นอกจากนี้ยังมีโรงภาพยนตร์เมกะ ซีนีเพล็กซ์ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า โฮมโปร และอีเกีย เข้ามาเปิดให้บริการ โดยในแต่ละปีคาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท คืนทุนภายใน 10 ปีนับจากปี 2555 ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ 10 ปี บริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการศูนย์การค้าเมกะอีกจำนวน 2 แห่ง เบื้องต้นจะเน้นทำเลในกรุงเทพฯ เป็นหลัก โดยแต่ละโครงการจะมีขนาดใหญ่ใช้เงินลงทุน 10,000 ล้านบาท.

http://www.thaipost.net/news/081211/49323
Mega Bangna optimistic of setting new stand

The Nation December 8, 2011 1:00 am

With its grand-opening celebrations scheduled for May 5, Mega Bangna, the first low-rise regional super-mall in Southeast Asia, expects to become a new phenomenon in Thailand 's retail industry by switching the focus from downtown shopping to suburban destinations.

The Bt10-billion shopping complex yesterday announced the impressive commitment it had received from the market, with more than 92 per cent of retail space leased to select leading local and international retailers.

Located on a 254-rai (41-hectare) plot on Bang Na-Trat Road, Mega Bangna is poised to be one of the region's leading shopping, dining and entertainment destinations covering 185,000 square metres of gross leasable area, hosting 450 in-line tenants, and 335 open-plan retailers. The complex expects to attract more than 100,000 shoppers daily.

Christian Olofsson, president of SF Development and manager of Mega Bangna, said the shopping mall would provide "everything under one roof" for the entire family, utilising the strong traffic driving anchor tenants, which would exceed the consumers' shopping expectation with fashion, dining, entertainment and services for everyday necessities.

"On a personal note, it has been extremely painful to watch the suffering and consequences of the flooding to the Thai population. But it has also strengthened my own belief in Thailand and its people, watching it first-hand and up close. We are confident that the economy and consumer spending will grow 5 per cent next year, according to a forecast figure from the National Statistical Office," Olofsson said.

He said Mega Bangna was now 92 per cent leased, affirming retailer confidence and continued positive outlook for the future. Thailand is a very resilient country as seen through its ability to rebound, socially and economically, from several hard-hitting challenges over the recent years, he said, adding that the shopping complex was expected to break even within 10 years. "We are fully confident of the excellent potential of Thailand's retail market, which we expect to grow at a steady pace next year. We see potential in Thai consumers, especially the middle class, which enjoys higher spending power," Olofsson said.

Caroline Murphy, executive vice president of SF Development, said that as an experienced retail developer and operator, the company strove to select the best local and international retailers in all categories while also providing a platform for new brands and concepts to debut at Mega Bangna.

"In this way, we ensure that we create a fully comprehensive and outstanding selection of retail stores," Murphy said. "The main reason for the success of our leasing campaign is that many international brands have high confidence in Mega Bangna's future success, as most of them are already located in Ikea-anchored suburban centres elsewhere in the world and are trading phenomenally well, as well as Siam Future's large portfolio of local retailers."

She said Mega Bangna would see many leading local and international brands from downtown coming to the suburbs for the first time, such as ZARA, Bershka, Stradivarius, Forever XXI, Stella Luna, F Fashion, Pandora, Swarovski, Four Seasons Restaurant, Wine I Love You, Nara, Rosniyom and many more along with the "big five" anchors, Ikea, Robinson Department Store, HomePro, Major Cineplex, and Big C Extra.

"The recent addition of two new famous anchors - BreadTalk Group and IT City - helps broaden and complete our unique tenant mix. BreadTalk Group, a leading operator of restaurant concepts from Singapore, plans to open its amazing food-court concept called Food Republic with total area of 2,399 square metres, while IT City will also unveil its brand-new IT retail concept here," Murphy said.

http://www.nationmultimedia.com/business/Mega-Bangna-optimistic-of-setting-new-stand-30171432.html
ทางเข้าห้างด้านถนนบางนา ชวนเวียนหัวเหมือนแฟชั่นไอส์แลนด์เลย

ใครขับรถไปเผลอไม่ได้เข้าทางคู่ขนาน ต้องขับรถอ้อมกลับมา อีกชั่วโครตหนึ่ง
กรณีข้างต้นการทำงานคงต้องแยกระหว่าง น้ำใจ กับระเบียบในการทำงานครับ

คิดว่าในอนาคต IKEA ไทยคงปรับระบบเป็นซื้อหมื่นส่งฟรีอะไรประมาณนี้

ส่วนตัวผมสำหรับการทดลองเปิดขาย ไม่ชอบครับ ทั้งๆที่ ผมเข้าใจวัฒนธรรมฝรั่งจ้า


สำหรับผมชอบอยู่ 3 อย่าง มีทบอล เหมือนลูกชิ้นลูกวัว ช๊อคโกเล็ตถูก กับด่านเก็บเงิน ที่เหมือน ตม สนามบิน

ส่วนเรื่องถุงไปซื้อแม็คโคร ก็ไม่มีถุงให้เหมือนกัน ไม่น่าเอามาเป็นประเด็น


คาดว่าพอ Mega Bangna เปิด จะมั่วหนักยิ่งกว่านี้ โดยเฉพาะคนแห่มากินศูนย์อาหารชั้นสอง
IT zones latest addition to Megabangna complex

Published: 8/03/2012 at 02:12 AM

Megabangna, the first low-rise regional shopping mall in Southeast Asia, will open later this year with a number of zones featuring technology products.

The eight zones will take up 18,000 of the mall's total 200,000 square metres and sell mobile phones, computers and other information technology (IT) products.

The Megabangna shopping mall, a 12.5-billion-baht complex, is scheduled to open on May 3.

As IT products have became a part of our lives, Megabangna's "mega-tech" shops will sell a wide range of IT products, said Caroline Murphy, an executive vice-president of SF Development, the operator of Megabangna.

SF Development Co is 49% owned by Siam Future and 49% owned by Ikano. The SPS Group has the other 2% of shares.

Ms Murphy said technology and fashion items ranked in the top three categories of spending in a survey of residents within 45 kilometres of Megabangna.

The survey was conducted by SF Development.

Christian Olofsson, the president of SF Development, said a 10-million-baht intelligent visitor counting system has installed to help analyse visitor behaviour trends and consumer density.

Used for the first time in an indoor area in Thailand, the technology has been proven in Australia and the UK, where governments use similar systems to track movements and density levels in public areas.

Mr Olofsson said the counting system will not violate privacy, as it detects only mobile phone signals and does not log phone numbers or the identity of the individuals.

The company plans to spend 200 million baht on marketing activities this year.

http://www.bangkokpost.com/business/retail/283392/it-zones-latest-addition-to-megabangna-complex
"เมกะบางนา"จุดชนวนศึกค้าปลีก ดึง800ร้านค้าบี้เซ็นทรัล-พาราไดซ์


ค้าปลีกสะเทือน "เมกะบางนา" ดีเดย์เปิดบริการ 3 พฤษภาคม ชูจุดขายศูนย์การค้าแนวราบใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ขนทัพอิเกีย-โฮมโปร-บิ๊กซี-โรบินสัน พร้อม 800 ร้านค้า เต็มพื้นที่ 4 แสน ตร.ม. "เซ็นทรัล" แปลงโฉมสู้ "พาราไดซ์พาร์ค" เพิ่มพื้นที่รีเทลอีก 3 หมื่น ตร.ม.


"เมกะบางนา" ศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ริมถนนบางนา-ตราด ด้วยวงเงินลงทุนมหาศาลถึง 1 หมื่นล้านบาท ด้วยพื้นที่กว่า 4 แสนตารางเมตร จะเปิดบริการเต็มทั้งโครงการในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 นี้ หลังจากเร่งการก่อสร้างมาตลอด 20 เดือนเต็ม สร้างความคึกคักให้วงการค้าปลีกในย่านดังกล่าวอย่างยิ่ง เพราะมีเป้าหมายดึงนักช็อปเข้ามาใช้บริการมหาศาลทั้งปี 40 ล้านคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "เมกะบางนา" เป็นศูนย์การค้าแนวราบ ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดขายเป็นแม่เหล็กหลัก ๆ ทั้งอิเกียที่เปิดบริการตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา รวมถึง 5 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกและบันเทิง อาทิ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ โฮมโปร รวมถึงเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จะมีโรงหนังระบบดิจิทัลถึง 15 โรง มากกว่าทุก ๆ แห่งของเมเจอร์ฯ

ก่อนหน้านี้ "เมกะบางนา" ได้ประกาศสร้างเทรนด์ใหม่ของศูนย์การค้าครบวงจรที่มีร้านค้ากว่า 800 ร้าน ในจำนวนนี้รวมถึงร้านค้าชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ สปอร์ตเวิลด์, ซูเปอร์สปอร์ต, บีทูเอส, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, เพาเวอร์บาย, สยามชัย, ฟิตเนสเฟิร์สต์, ทอยอาร์อัส, ชิค รีพับลิก, ออฟฟิศดีโป, ไอทีซิตี้, คอตตอนออน, เวิร์คชอป, ฟอร์เอฟเวอร์ เทเวนตี้วัน, ซาร่า, ยูนิโคล่, เอทูแซด และฟู้ดรีพับลิค



นอกจากนี้ยังสร้างความแตกต่างและสีสันด้วยการนำแฟชั่นแบรนด์ชั้นนำที่เลือกเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่เมกะบางนา อาทิ Cotton On, New Look, Mind Bridge, Misty Mynx และ Royal Ivy Regatta

ขณะที่ผู้ช่ำชองวงการค้าปลีกไทยกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมกะบางนามีความโดดเด่นใน 3 ส่วนหลัก ๆ ทั้งพื้นที่ขายที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ ตัวทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนบางนา-ตราด กับวงแหวนรอบนอก และจุดขายระดับแม่เหล็ก มีทั้งอิเกีย โรบินสัน บิ๊กซี โฮมโปร รวมถึงอิเกียที่ประสบความสำเร็จเกินกว่ากลุ่มผู้ลงทุนคาดหวังไว้ ทำให้ค้าปลีกในย่านนั้นคึกคัก และเตรียมรับมือการแข่งขันที่คาดว่าจะร้อนแรงเป็นพิเศษ

เห็นได้จากความเคลื่อนไหวของศูนย์การค้าระนาบตลอดย่านกรุงเทพฯตะวันออกทั้งในฝั่งเส้นถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ ต่างปรับทัพเพื่อรับมือการแข่งขันของค้าปลีกรอบใหม่นี้ ไม่เพียงศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ที่ได้ลงทุนต่อเนื่องกว่า 500 ล้านบาท สำหรับทยอยปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายในศูนย์การค้าควบคู่กับการแข่งขันด้วยขนาดความใหญ่ของพื้นที่กว่า 5 แสน ตร.ม.

แต่ยังหมายถึงความเคลื่อนไหวของเซ็นทรัลบางนา และพาราไดซ์ พาร์ค ที่มีการปรับศูนย์การค้าในเชิงรุกและต่อเนื่อง ส่งผลให้กรุงเทพฯตะวันออกกลายเป็นโซนค้าปลีกที่แข่งขันกันด้วยศูนย์การค้าโมเดลระดับบิ๊กไซซ์ทั้งนั้น ปัจจุบันซีคอนสแควร์มีขนาดพื้นที่ 5 แสน ตร.ม., พาราไดซ์ พาร์ค 3 แสน ตร.ม., เซ็นทรัลบางนา 1.25 แสน ตร.ม. และเมกะบางนา 4 แสน ตร.ม.

เซ็นทรัลเติมความครบสู้

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล กล่าวว่า การแข่งขันของค้าปลีกย่านกรุงเทพฯตะวันออกมีความเคลื่อนไหวชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามาของเมกะบางนา ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และการเป็นรายใหม่ของตลาด จึงเป็นที่จับตามอง รวมถึงลูกค้าเองก็ย่อมอยากเข้าไปดูและสัมผัสศูนย์การค้าที่เปิดใหม่ สอดคล้องกับการขยายของชุมชนเมืองที่ไหลออกไปรอบนอกตามเส้นทางรถไฟฟ้าและถนนที่ตัดใหม่

ทั้งนี้ ในส่วนของเซ็นทรัลบางนา ซึ่งอยู่ในย่านทำเลใกล้เคียงกัน ผู้บริหารซีพีเอ็นชี้ว่า มีแผนการรีโนเวตศูนย์การค้าครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ของศูนย์การค้ามากขึ้น และการยกระดับให้เป็นศูนย์การค้าที่ทันสมัยเทียบเท่าเซ็นทรัลชิดลม ด้วยการเติมร้านค้าและบริการในทุกกลุ่มสินค้าเข้าไปให้มากขึ้น

"ถ้ามองตามไลฟ์สไตล์ความต้องการของลูกค้าตอนนี้ เซ็นทรัลบางนาขาดทุกอย่าง เพราะต้องยอมรับว่าโจทย์แรกของสาขาบางนาคือชานเมือง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ทาร์เก็ตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนในเมืองที่ขยายออกมาตามหมู่บ้านและเส้นทางคมนาคมรถไฟฟ้า ซึ่งโฉมใหม่ที่จะเปิดให้เห็นเร็ว ๆ นี้จะเติมเต็มและครบถ้วนกับทุกความต้องการของตลาด โดยเฉพาะกลุ่มแฟชั่นและร้านอาหาร"

เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) แจ้งในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทเตรียมลงทุน 1,000 ล้านบาท สำหรับเซ็นทรัลบางนา เพื่อรับมือการแข่งขัน โดยมีที่ดินจำนวน 8 ไร่ บริเวณด้านหลัง สามารถนำมาพัฒนาเป็นอาคารจอดรถและเพิ่มพื้นที่รีเทลได้อีก 1 หมื่น ตร.ม. แบ่งเป็นการลงทุน 2 ช่วง คือในปี 2554 ทยอยลงทุนไปล่วงหน้าแล้ว 500 ล้านบาท ส่วนปีนี้จะลงทุนต่อเนื่องอีก 500 ล้านบาท เพื่อเป็นวันสต็อปช็อปปิ้ง ตอบสนองเป้าหมายตั้งแต่ระดับกลางและบน

พาราไดซ์ พาร์ค ขึ้นเฟส 2

นางชฎาทิพ จูตระกูล รองประธานกรรมการ บริษัท พาราไดซ์ พาร์ค จำกัด กล่าวว่า ทำเลที่ตั้งของศูนย์การค้าเมกะบางนา และพาราไดซ์ พาร์ค ไม่ได้ใกล้กันซะทีเดียว ประกอบกับคอนเซ็ปต์ไม่เหมือนกัน เนื่องจากพาราไดซ์ พาร์ค เป้าหมายหลักคือกลุ่มครอบครัว ขายภาพความเป็นศูนย์การค้าที่อบอุ่น ร้านค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าด้วยขนาดของศูนย์การค้าไม่ได้ใหญ่เกินไป สามารถเดินได้ครบและถึงกันหมด

"สยามเซ็นเตอร์ไม่ใหญ่นะ แต่เราก็มีวิธีทำให้ลูกค้าอยู่กับเราได้ ทุกอย่างอยู่ที่ฝีมือ ไม่เกี่ยวว่าเล็กหรือใหญ่"

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางชฎาทิพกล่าวว่า พาราไดซ์ พาร์ค มีแผนขยายเฟส 2 บนพื้นที่ 8 ไร่ บริเวณด้านข้าง คาดว่าจะก่อสร้างได้ในปีนี้ ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 18 เดือน เบื้องต้นจะใช้งบฯ 800 ล้านบาท สำหรับเพิ่มพื้นที่ค้าปลีก 3 หมื่น ตร.ม. เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ย 1 แสนคนต่อวัน

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1335064119&grpid=00&catid=&subcatid=
เมกาบางนา ดึงแบรนด์ดัง เพิ่มยอดลูกค้า

เศรษฐกิจ 6 July 2555 - 00:00

เมกาบางนา ปลื้ม 2 เดือนคนเดินวันละแสนคน เผยแผนครึ่งปีหลังดึง 3 กลุ่มลูกค้าเข้าใช้บริการวันธรรมดา พร้อมเสริมทัพแม่เหล็กร้านแฟลกชิพ แฟชั่น-อาหาร-กีฬา หวังดันทะลุเป้า 1.2 แสนคนต่อวัน

นายคริสเตียน โอลอฟเซน ประธานกรรมการฝ่ายจัดการศูนย์การค้า บมจ.เอสเอฟ ดีเวลลอปเมนท์ ผู้บริหารเมกาบางนา เปิดเผยว่า หลังจากเปิดศูนย์เมกาบางนาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 3 พ.ค.- สิ้นเดือน มิ.ย. พบว่า ยอดผู้เข้าใช้บริการรวม 4.5 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ1 แสนคน มียอดใช้จ่ายต่อบิลต่อคนอยู่ที่ 3,300 บาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ

สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลัง จะเร่งดึงลูกค้าเข้าใช้บริการในวันธรรมดาเพิ่มขึ้น โดยเน้น 3 กลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ นักท่องเที่ยว, นักเรียน-นักศึกษา ในย่านใกล้เคียงและกลุ่มคนทำงาน ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายจะเพิ่มลูกค้าให้ถึง 1.2 แสนคนต่อวัน ซึ่งนอกจากการดึงคนเข้ามาใช้บริการวันธรรมดาแล้ว ยังเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง โดยครึ่งปีหลังนี้จะใช้งบการตลาดรวม 120 ล้านบาท จากงบที่ตั้งไว้ทั้งปี 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มสีสันและร้านค้าใหม่ โดยในครึ่งปีหลังนี้จะมีร้านค้าที่เป็นแม่เหล็กใหม่เข้ามาเสริมมากขึ้น และเป็นแฟลกชิพสโตร์ที่เปิดที่เมกาบางนาเป็นแห่งแรก อาทิ ร้าน GO ในเครือเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป ที่จำหน่ายเฉพาะสินค้ากอล์ฟและกีฬาเอาต์ดอร์เป็นแห่งแรกที่เมกาบางนา

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์แฟชั่นจากต่างประเทศที่มาเปิดเป็นครั้งแรกในไทยที่เมกาบางนาเช่นกัน อาทิ นิวลุค และ เน็กซ์จากอังกฤษ แบรนด์ในเครือจัสปาลที่แตก 2
แบรนด์ใหม่มาเปิดที่นี่โดยเฉพาะ ได้แก่ มิสทรี มิกซ์ (Misty Mynx) และ โรยัล ไอวี รีกัตตา รวมถึงทิมเบอร์แลนด์ ที่พีนากรุ๊ปนำกลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง ก็จะเปิดสาขาแรกที่เมกาบางนาเช่นกัน.

http://www.thaipost.net/news/060712/59216
อีเกียหวังลดราคาสินค้าลงอีก10-50%

23 กันยายน 2555 เวลา 11:46 น.

อีเกีย เน้นวิจัย-ผลิตจำนวนมาก หวังดึงราคาสินค้าลง 10-50% พร้อมตั้งเป้า 10 ปี ผุด 5-7 สาขาใหม่ในอาเซียน


นายอีเจ มิดล์โฮเวน ผู้จัดการ ฝ่ายการสื่อสารและออกแบบภายใน อิคาโน่ เอเชีย ผู้ดำเนินธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านอีเกีย เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะลดต้นทุนทุกด้านเพื่อให้ราคาสินค้าลดลงปีละ 10-50% แต่จะไม่ลดคุณภาพ โดยจะเน้นการผลิตในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น

“ขณะนี้สินค้าในอีเกีย สาขาบางนา มีจำนวน 7,500 รายการ ซึ่งเราลดราคาแล้ว 10-50% หรือจำนวน 200 รายการ ซึ่งไม่ได้เป็นสินค้าที่นำมาจัดโปรโมชัน” นายมิดล์โฮเวน กล่าว

นอกจากนี้ ยังเตรียมจะเปิดอีเกียสาขาที่ 2 ภายในปี 2559 ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) ฝั่งตะวันตก โดยใช้เม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1.25 หมื่นล้านบาท และยังมีแผนเปิดสาขาที่ 3 บริเวณปริมณฑลของ กทม. โดยจะเปิดร่วมกับศูนย์การค้าขนาดใหญ่

ทั้งนี้ อีเกียตั้งเป้าใน 10 ปี จะเปิดสาขาในอาเซียนเพิ่มอีก 5-7 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 4 สาขา

http://www.posttoday.com/ธุรกิจ-ตลาด/178473/อีเกียหวังลดราคาสินค้าลงอีก10-50-
'อิเกีย'ลุยต่อ ใส่6พันล้าน เพิ่ม2สาขา

เศรษฐกิจ 28 August 2556 - 00:00

อิเกียมั่นใจกำลังซื้อคนไทย เดินหน้าแผน 10 ปี ทุ่ม 6,000 ล้านบาท ขยาย 2 สาขาในประเทศไทย

นางลาเซีย เชอร์ล็อค ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย บางนา อิเกียประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการเปิดให้บริการในช่วงเดือนกันยายน 2555 - เดือนสิงหาคม 2556 อิเกีย บางนา มีลูกค้าเพิ่มขึ้นมากถึง 19% หรือคิดเป็นประมาณ 3.5 ล้านคน นอกจากนั้นแล้วยังมียอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก 8% ต่อคนต่อบิลอีกด้วย แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอิเกีย แม้ในช่วงที่ผ่านมากำลังซื้อของคนไทยจะมีอัตราที่ลดลงไปบ้าง แต่คาดการณ์ว่าในช่วง 4 เดือนที่เหลือน่าจะเริ่มมีการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของประชาชนในประเทศไทย จึงมั่นใจและมีการเดินหน้าขยายอีก 2 สาขา ภายในระยะเวลา 10 ปีตามแผนที่วางไว้ ด้วยงบลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งสาขาที่จะขยายนี้จะมีขนาดใหญ่ เหมาะกับพฤติกรรมการซื้อของคนในประเทศไทย โดยมีทั้งรูปแบบที่เชื่อมกับช็อปปิ้งเซ็นเตอร์และรวมถึงสแตนด์อโลน ตั้งอยู่ในบริเวณทิศตะวันตกและทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร

โดยในขณะนี้ได้มีการเจรจาเพื่อซื้อขายที่ดินอยู่ รวมถึงการดูความเป็นไปได้ในการเข้าไปทำธุรกิจขึ้นอยู่กับปัจจัย อาทิ รายได้ของประชากรหรือกำลังซื้อของคนในบริเวณนั้นและความหนาแน่นของประชากร ซึ่งหากผลการสำรวจปรากฏถึงความเป็นไปได้ก็จะดำเนินการสร้างทันที โดยระยะเวลาในการสร้างใช้เวลาในการดำเนินการ 1 ปีด้วยกัน ขณะที่อิเกียในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเทศ คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ซึ่งประเทศมาเลเซียมีการเติบโตที่ดีที่สุด

สำหรับการแข่งขันในประเทศไทย ต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันที่รุนแรง แต่นับว่าการแข่งขันที่ค่อนข้างเยอะนี้เป็นผลดีต่อผู้บริโภค ซึ่งสามารถมีตัวเลือกในการจับจ่ายได้มากขึ้นมากกว่า ขณะที่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในรัศมี 20 กิโลเมตร โดยส่วนมากเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทครอบครัวกว่า 60% โดยเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นของตกแต่งบ้านสำหรับครอบครัวเป็นหลัก มีสินค้าให้บริการกว่า 8,500 รายการ.

http://www.thaipost.net/news/280813/78451
เมกาบางนาทุ่มหมื่นล้านพัฒนาธุรกิจ

ศูนย์การค้าเมกาบางนา เตรียมทุ่มงบหมื่นล้านบาท พัฒนาพื้นที่รอบศูนย์การค้า ยกชั้นเป็นศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพตะวันออก

วันศุกร์ 31 ตุลาคม 2557 เวลา 17:30 น.

น.ส.สโรชา ลายสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าเมกาบางนา บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000-15,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาพื้นที่กว่า 150 ไร่ บริเวณรอบศูนย์การค้าเมก้าบางนาเดิม ให้เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจในย่านกรุงเทพฝั่งตะวันออก รองรับการเปิดประชมคมอาเซียนที่จะมีประชากรหลากหลายเชื้อชาติไหลเข้าสู่ประเทศไทย

ทั้งนี้การพัฒนาโครงการแบ่งออกเป็น 4 เฟส โดยจะเริ่มต้นสร้างในปีหน้า และจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 5 ปี ทั้งนี้ภายในโครงการจะประกอบไปด้วยที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน รวมไปถึงศูนย์ประชุม เบื้องต้นปีหน้าจะเริ่มต้นพัฒนาโรงแรมระดับ 3-4 ดาวก่อน ตามมาด้วยอาคารสำนักงานต่อไป

“ย่านบางนาอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ เราจึงเล็งเห็นโอกาศทางธุรกิจหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจขอาเซียน เพราะนักธุรกิจจากต่างชาติสามารถเดินทางมาได้สะดวก ประกอบกับย่านนี้คนมีกำลังซื้อสูงการดำเนินธุรกิจต่างๆจึงไม่ค่อยกังวลด้านกำลังซื้อเท่าไร”

http://www.dailynews.co.th/Content/economic/277826/เมกาบางนาทุ่มหมื่นล้านพัฒนาธุรกิจ
การจัดทัพลงทุนรอบใหม่ของเมกาบางนา ดำเนินการโดยอิเกียและกลุ่มทุนไทย นางสาวสโรชา ลายสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าเมกาบางนา บริษัท เอสเอฟ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด ฉายภาพว่า อยู่ระหว่างเตรียมขยายพื้นที่เฟส 2 อีกประมาณ 150 ไร่ ในพื้นที่ติด ๆ กัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้โครงการยิ่งขึ้น รองรับการเพิ่มจำนวนร้านค้าและบริการที่เป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่เข้ามาเสริม โดยส่วนโครงการต่อขยายนี้จะแล้วเสร็จใน 5 ปีจากนี้ "แผนลงทุน 5 ปีรอบใหม่นี้จะแบ่งเป็น 4 เฟส ซึ่งเฟสแรกจะเริ่มได้ปีหน้า เพื่อให้เมกาบางนาเป็นศูนย์กลางกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ทั้งในส่วนของเรสซิเดนเชียล โรงแรมระดับ 3 ดาว ออฟฟิศ ที่จอดรถ สวนสนุก และศูนย์ประชุม โดยรูปแบบมีทั้งร่วมทุนกับการให้พาร์ตเนอร์เช่าพื้นที่"

การขยายธุรกิจของเมกาบางนาครั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ย่านตะวันออกของกรุงเทพฯนี้มีความเจริญมากขึ้น กำลังซื้อที่สูงขึ้น รองรับการเปิดเออีซี รวมทั้งการแข่งขันของตลาดที่ดุเดือดมากขึ้น

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1418967074
เมกาบางนาจ่อผุดเฟส2 หลังเลิกพัฒนาบางใหญ่ ชี้แข่งขันแย่งลูกค้าเดือด

Monday, February 8, 2016 - 00:00

เอสเอฟ ดีเวลลอปเมนท์ เผยสมรภูมิค้าปลีกบางนาแข่งเดือด ล่าสุดเตรียมลุยเมกา บางนา เฟส 2 บนที่ดิน 200 ไร่ รับน้องใหม่ หลังชะลอแผนลุยโครงการใหม่ย่านรังสิต ยกเลิกโครงการย่านบางใหญ่

นายคริสเตียน โอลอฟสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกา บางนา เปิดเผยว่า การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในย่านบางนา มองว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอกที่มีศักยภาพ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ จึงทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่สนใจที่จะเข้ามาขยายธุรกิจในทำเลดังกล่าว ซึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าวส่งผลให้บริษัทต้องชะลอแผนการพัฒนาโครงการเมกา บางนา ในย่านรังสิตออกไป และยกเลิกการพัฒนาโครงการเมกา บางใหญ่ เพื่อหันมาให้ความสำคัญกับโครงการเมกา บางนา

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการเมกา บางนา ในส่วนของเฟสที่ 2 บนพื้นที่ 200 ไร่ ใกล้กับเฟสแรก เพื่อให้โครงการมีความครบวงจรมากขึ้น โดยรูปแบบของโครงการในเฟสที่ 2 บริษัทจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบไปด้วย พื้นที่ค้าปลีก และที่พักอาศัย

สำหรับผลการดำเนินงานของศูนย์การค้าเมกา บางนาในช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา ยังคงมีอัตราการเติบโตสวนกระแสภาพรวมธุรกิจค้าปลีก ด้วยการมีรายได้เติบโตประมาณ 20% เนื่องจากบริษัทมีการปรับค่าเช่าผู้เช่ารายย่อย 3 ปีขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละประมาณ 5% และมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วยเหลือผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า ส่วนภาพรวมในปีนี้มองว่าผู้ประกอบการรายเล็กจะดำเนินธุรกิจค่อนข้างยาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ไม่มีความชัดเจนในด้านของคอนเซ็ปต์ เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว.

http://www.thaipost.net/?q=เมกาบางนาจ่อผุดเฟส2-หลังเลิกพัฒนาบางใหญ่-ชี้แข่งขันแย่งลูกค้าเดือด
Bangkok | IKEA Mega Bangna - IKEA Asia’s Largest Complex
http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=914024

“เมกาบางนา” ทุ่ม 6.7 หมื่นล้าน ผุด “เมกาซิตี้” ดัน “มิกซ์ยูส” ออฟฟิศ-เรสซิเดนส์-ชอปปิ้งครบวงจร
โดย MGR Online

31 มกราคม 2560 17:11 น. (แก้ไขล่าสุด 31 มกราคม 2560 18:06 น.)




“เมกาบางนา” ศูนย์การค้าแนวราบใหญ่สุดในอาเซียน ประกาศเดินหน้าโครงการ “เมกาซิตี้” โปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์รูปแบบ “มิกซ์ยูส” พื้นที่กว่า 400 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด สร้างเมืองขนาดใหญ่สำหรับการใช้ชีวิตแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย ออฟฟิศสำนักงาน แหล่งช้อปปิ้งหรือแม้กระทั่งสถานที่ให้ได้ใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย คาดว่าสามารถรองรับผู้เข้ามาใช้บริการได้มากถึงกว่าวันละ 250,000 คนทีเดียว

โครงการจะแบ่งออกเป็นหลายเฟส ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย ส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าและอื่นๆ ภายใต้งบลงทุนทั้งหมดกว่า 67,000 ล้านบาท โดยศูนย์การค้าเมกาบางนาได้เริ่มดำเนินการส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าฯ ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มร้านอาหารชื่อดังอีกถึง 40 ร้าน รวมถึง “ท็อปส์ ฟู๊ด แอนด์ ไวน์ ซูเปอร์มาร์เก็ต” ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับการชอปปิ้งที่ครบครัน อีกทั้งอาคารจอดรถที่สามารถรองรับได้ถึง 1,200 คัน คาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณเดือนธันวาคมปีนี้



นายคริสเตียน โอลอฟสัน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ (บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด) กล่าวว่า “โครงการเมกาซิตี้ จะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ที่พรั่งพร้อมสำหรับทุกคน ให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างสะดวกสบายในที่เดียวกัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของชีวิตนอกเหนือจากเป็นสถานที่ชอปปิ้ง ยังเป็นที่สำหรับพบปะสังสรรค์ และสถานที่มอบความสนุกสนานและความบันเทิงได้อย่างครบวงจร เรามีโครงการจะสร้างที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับคนกว่า 50,000 คน อาคารสำนักงานรองรับคนกว่า 30,000 คน โรงแรม 2 แห่ง และเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะ เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่ลูกค้าและชุมชนโดยรอบ”

ขณะนี้ทางกรรมการผู้จัดการของศูนย์การค้าเมกาบางนาได้เปิดเผยถึงความต้องการในการเปิดโอกาสสำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่สนใจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการจะร่วมลงทุนในแผนพัฒนาระยะยาวในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอาคารสำหรับที่อยู่อาศัย สำนักงานออฟฟิศ โรงแรม หรือแม้กระทั่งรูปแบบอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ



เมกาบางนา คือ ศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทย ที่อยู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (Central Business District : CBD) ที่เพียบพร้อมไปด้วยแบรนด์แฟชั่นระดับอินเตอร์เนชันแนล แฟลกชิปสโตร์ และร้านอาหารยอดนิยมจำนวนมาก การยกเอาร้านค้า สุดอินเทรนด์จากใจกลางเมืองมามอบความสุขให้กับลูกค้าโซนนอกเมืองนับเป็นแนวคิดการพัฒนาศูนย์ฯ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยมาก่อน นับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2555 เมกาบางนาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ประกอบของไทยและนานาชาติ และมี ผู้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ มากถึง 3.5 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 10 เปอร์เซ็นต์ทุกปี และคาดว่าการเพิ่มอาคารจอดรถ 7 ชั้น (แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2560) ประกอบกับการสร้างถนนวงแหวนภายในเมกาบางนาที่จะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จะเสริมสภาพคล่องของการจราจร และเพิ่มพื้นที่จอดรถให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แม้ในช่วงเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

“ส่วนต่อขยายนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการภายในศูนย์ฯ ได้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน เราตื่นเต้นที่จะบอกกับลูกค้าของเราว่า เราได้คัดสรรร้านอาหารชื่อดังมากมายหลายแบรนด์ที่มักจะเห็นแต่ในย่านใจกลางเมืองเท่านั้น ซึ่งจะพากันตบเท้าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่กับเรา เช่น Dean & Deluca, Godfather, Bon Chon และ Starbucks ที่จะขยายร้านไปยังส่วนต่อขยายใหม่นี้เพิ่มอีกด้วย”

ทั้งนี้ ส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าฯ อีก 2 เฟส ซึ่งวางไว้เป็นศูนย์รวมความบันเทิง สันทนาการ กีฬา และการศึกษา อยู่ในระยะของการวางแผนและศึกษารายละเอียด โดยจะเปิดเผยข้อมูลได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทั้งนี้เมกาบางนาได้แต่งตั้งให้ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนในการคัดเลือกบริษัทที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารโรงแรมแห่งแรกของโครงการเมกาซิตี้

นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมกาบางนาตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ ถนนบางนา-ตราดและพื้นที่ใกล้เคียงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีจำนวนประชากรมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งมีกำลังซื้อสูง และเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนด้านโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่พัฒนาขึ้น เชื่อมต่อทั้ง ที่พัก และโครงการศูนย์อุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้ารางคู่บางนา-สุวรรณภูมิ ที่เป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่นี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ถนนบางนา-ตราดกลายเป็น “ฮับ” ยุทธศาสตร์สำคัญ ศูนย์รวมของการเดินทาง และการขนส่งในอนาคต ดังนั้นโครงการเมกาซิตี้ จึงเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดดเด่นเหนือชั้น และพร้อมจะตอบโจทย์ความต้องการในทุกรูปแบบทั้งการอยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และเป็นแลนด์มาร์กสำหรับการชอปปิ้งท่องเที่ยวอย่างแท้จริง”



นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า “พื้นที่ย่านบางนาเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งบ้านจัดสรร และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ เรามองว่าเมืองที่สมบูรณ์แบบแห่งนี้ ยังต้องการศูนย์การค้าที่แข็งแกร่ง และพื้นที่คอมมูนิตี้สำหรับการพักอาศัย และอาคารสำนักงาน เพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและครบวงจรได้อย่างเต็มที่ ซึ่งโครงการเมกาซิตี้จะตอบโจทย์ได้ครบทั้งหมด และเรายังคงเดินหน้าลงทุนอย่างเต็มที่กับพื้นที่ย่านนี้ และพร้อมที่จะร่วมทุนกันพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ และเห็นโอกาสในทำเลยุทธศาสตร์แห่งนี้เหมือนกับเรา”



นายโทมัส มาล์มเบิร์ก ผู้อำนวยการศูนย์การค้า อิคาโน่ รีเทล เอเชีย ได้กล่าวว่า “การได้รับความนิยมอย่างดีเยี่ยมของศูนย์การค้าเมกาบางนา คือ เหตุผลหนึ่งที่เราตัดสินใจเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้าแห่งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งในอนาคตจะมีทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม และตึกที่พักอาศัย รวมไปถึงส่วนประกอบอื่นๆ อีกมากมาย ศูนย์การค้าและอิเกียคือธุรกิจหลักของเรา แต่เราเชื่อมั่นว่า เมกาบางนามีศักยภาพที่จะเป็นได้มากกว่าแค่ศูนย์การค้า เรามองภาพว่า เมกาบางนา และอีเกียบางนา จะเป็นศูนย์กลางของคอมมูนิตี้สมัยใหม่ และวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นก้าวแรกในการพัฒนาโครงการเมกาซิตี้”

สำหรับนักลงทุน หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการเมกาซิตี้ ทางโครงการมีรูปแบบทั้งการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (Freehold) และการเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ (Leasehold) ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์การค้า
เมกาบางนา

http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000010499
http://www.krobkruakao.com/ข่าวเศรษ...ารเมืองการค้า-เมกาซิตี้--พื้นที่-400-ไร่.html
http://www.matichon.co.th/news/447018
http://www.marketplus.in.th/content/detail.php?id=650
..
  • Like
Reactions: emikayoung
Mega Road
41 - 60 of 816 Posts
Top