SkyscraperCity Forum banner

Bangkok | Mega Bangna + IKEA Bangna

414796 Views 815 Replies 196 Participants Last post by  DMS_SKY
61 - 72 of 816 Posts
เอาใจขาช็อป! เมกาบางนาเท95ล้านผุดสะพานกลับรถ บางนากม.7 แก้คอขวด-ย่นระยะทาง2กม.เสร็จปี’63

วันที่ 1 November 2018 - 17:09 น.

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์​ อธิบดี​กรมทางหลวง​ (ทล.)​ เปิดเผยว่า บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้า “เมกาบางนา” มอบเงินจำนวน 95 ล้านบาท ให้กับกรมทางหลวง เพื่อสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างสะพานกลับรถแห่งใหม่ บริเวณ ถ.บางนา-ตราด กม.7 เขตทางหลวงหมายเลข 34 (ถ.เทพรัตน) เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการ ไม่ต้องไปกลับรถที่สะพานกลับรถบริเวณ กม.4.5 อีกต่อไป

เนื่องจากสะพานกลับรถนี้มีห่างจากเมกาบางนาเพียง 1 กม. และถือว่าลดปัญหาการจราจรได้ในอีกทางหนึ่ง เพราะแค่รถยนต์ที่ออกมาจากเมกาบางนาและต้องใช้สะพานกลับรถเดิม ก็มีจำนวนสูงถึง 1.3 ล้านคัน/เดือนแล้ว เมื่อมีสะพานกลับรถนี้จะช่วยระบายความหนาแน่นของการจราจรได้ประมาณ 40% อีกทั้งทำให้ผู้ที่ต้องการกลับรถไปทาง จ.ชลบุรี ย่นระยะทางจากสะพานกลับรถเดิมได้ 2 กม.





ขั้นตอนหลังจากนี้ จะเป็นการหาผู้รับจ้างก่อสร้างแบบ E-Bidding คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือน และจะเริ่มก่อสร้างภายในต้นปี 2562 ใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี แล้วเสร็จในปี 2563 โดยโครงสร้างของสะพานจะเหมือนกับสะพานกลับรถในบริเวณใกล้ๆ กันคือ จะมีความกว้างประมาณ 8 เมตร มี 2 ช่องจราจร ความสูงประมาณ 5-7 เมตร ใช้ทางขึ้น-ลงเดียวกับโครงการทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งโครงการได้รับอนุญาตจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เรียบร้อยแล้ว

“เงินที่เมกาบางนาให้มานั้น จะเป็นงบก่อสร้างทั้งโครงการ รวมป้ายจราจรและระบบไฟส่องสว่างแล้ว แต่ก็ต้องมาเปิดประมูลตามขั้นตอนของราชการปกติ หากเราสร้างแล้วมีเงินเหลือเราก็จะคืนบริษัทไป แต่ถ้าการก่อสร้างเกินวงเงินก็ต้องเจรจากับเมกาบางนาอีกที แต่อย่างไรก็ตาม จะพยายามควบคุมให้การก่อสร้างอยู่ในงบ 95 ล้านบาทให้ได้ และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ กำลังคุยกับเมกาบางนาว่า จะต้องโอนให้ ทล.ดูแลหรือไม่ แต่การบำรุงรักษาอาจจะให้ทางเมกาบางนาเป็นผู้รับหน้าที่ไป ถ้าหากทางเมกาทำไม่ได้ เราก็ยินดีช่วยเหลือ” นายอานนท์กล่าว

https://www.prachachat.net/property/news-243708
See less See more
  • Like
Reactions: 1
ใหญ่สุดในโลก! “อิเกีย” เตรียมเปิดสโตร์สาขาแรกในฟิลิปปินส์ปี 2020

วันที่ 20 November 2018 - 17:25 น.


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “อิเกีย” ยักษ์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีเดนเปิดเผยในวันนี้ว่า อิเกียจะเปิดสโตร์สาขาแรกในประเทศฟิลิปินส์ในปี 2020 ซึ่งจะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก



โดยอิเกียในฟิลิปปินส์สาขานี้จะตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า SM Mall of Asia ซึ่งสโตร์จะมีพื้นที่ขนาด 65,000 ตารางเมตร หรือเทียบกับสนามบาสเก็ตบอลจำนวน 150 สนาม

สโตร์แห่งนี้จะมีสินค้า 9,000 รายการ และจะมีคลังสินค้า ศูนย์บริการอีคอมเมิร์ซ และศูนย์บริการข้อมูลแบบครบวงจร โดยได้มีการเปิดเว็บไซต์ให้บริการก่อนเปิดตัวจริงที่ www.IKEA.ph

ทั้งนี้ “อิเกีย” ยักษ์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีเดนก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1943 หรือกว่า 75 ปี มีสาขาทั่วโลกมากกว่า 400 สโตร์ใน 50 ประเทศ ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีทั้งหมด 8 แห่งด้วยกันคือ สิงคโปร์ 2 แห่งมาเลเซีย 3 แห่ง ไทย 2 แห่ง และฟิลิปปินส์ที่กำลังจะเปิดอีก 1 แห่ง

https://www.prachachat.net/aseanaec/news-252978
See less See more
เร่งสปีด ทรานส์ฟอร์มสู่ ‘เมกาซิตี้’ เสริมแม็กเนตรับศึกค้าปลีกโซนตะวันออก

“เมกาบางนา” เดินหน้าทรานส์ฟอร์มสู่ “เมกา ซิตี้” ชูจุดขาย Meeting Place ทั้งกิน ช็อป เที่ยว เผยทุ่มงบกว่า 1,600 ล้านยกเครื่องเสริมแม็กเนตเอ็ดดูเทนเมนต์ทั้งฮาร์เบอร์แลนด์, มูฟเมนต์เพลย์กราวด์, เมกา สมาร์ทคิดส์, เมกาพาร์ก ขณะที่ร้านแบรนด์ดังจ่อรอเข้าเสียบอีก 40-50 ร้าน

การแข่งขันของค้าปลีกย่านกรุงเทพฯตะวันออกระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อทุนยักษ์ทั้งกลุ่มเซ็นทรัล และสยามพิวรรธน์ ผู้บริหารสยามพารากอนและไอคอนสยาม ประกาศปักหมุดเข้ามาลงทุนเอาต์เลตมอลล์ และพร้อมเปิดให้บริการในปีนี้ ส่งผลให้เจ้าถิ่นอย่าง “เมกาบางนา” ที่เตรียมแผนรองรับอยู่แล้ว ต้องเร่งสปีดให้เร็วขึ้น

นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยว่า จากเดิมที่มีแผนพัฒนาสู่ “เมกา ซิตี้” ด้วยระยะเวลา 14 ปี ณ ขณะนี้แผนการลงทุนและพัฒนาพื้นที่ที่เดินหน้าอย่างหนักในปีก่อนต่อเนื่องมายังปีนี้ถือว่าเร็วกว่าดีและเร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ทำให้เชื่อว่าการทรานส์ฟอร์มสู่เมกา ซิตี้จะสำเร็จสมบูรณ์ได้ภายในระยะเวลา 10 ปี (นับจากปี 2560) ส่งผลให้เมกา ซิตี้ เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ ริมถนนบางนา - ตราด รวมมูลค่าโครงการกว่า 6.7 หมื่นล้านบาท


สำหรับแผนลงทุนในปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนกว่า 1,600 ล้านบาทในการพัฒนาและเพิ่มแม็กเนตใหม่ เพื่อตอกยํ้าความเป็น Meeting Place ในด้านกิน เที่ยว ช็อป โดยทยอยเปิดตัวส่วนต่อขยายโซนเอ็ดดูเทนเมนต์ ได้แก่ เมกาพาร์ก โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และจะเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนเมษายน โดยภายในประกอบด้วยพื้นที่สีเขียวเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย สนามเด็กเล่น พื้นที่พักผ่อนสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง และร้าน Pet Club ที่จะเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ยังมีฮาร์เบอร์แลนด์ สนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนพื้นที่กว่า 8,500 ตารางเมตร และมูฟเมนต์เพลย์กราวด์ โซนกีฬากลางแจ้งกว่า 1 ไร่ ที่รองรับเทรนด์เอ็กซ์ตรีมสปอร์ต และการแข่งขันรูปแบบนินจาวอริเออร์ โดยทั้ง 2 ส่วนจะเปิดในเดือนเมษายนนี้ขณะที่โซนเมกา สมาร์ทคิดส์ ได้ขยายพื้นที่จากเดิม 5,000 ตร.ม.เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 หมื่นตร.ม. พร้อมเพิ่มโรงเรียนกวดวิชาและเสริมทักษะใหม่ๆ เข้ามารวมกว่า 17 สถาบัน ด้วย


“ในปีที่ผ่านมาเมกาบางนา ได้ปรับเพิ่มร้านค้าต่างๆเข้ามากว่า 100 แบรนด์ทั้งกลุ่มร้านแฟชั่นอินเตอร์แบรนด์ แฟล็กชิพสโตร์ รวมถึงร้านอาหารชื่อดังในโซนเมกา ฟู้ดวอล์ก ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีมาก เห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นราว 10%


อย่างไรก็ดีขณะนี้มีร้านค้าต่างๆ ที่สนใจเข้ามาเปิดให้บริการในเมกาบางนาอีกกว่า 40-50 ร้านทั้งร้านกาแฟ ร้านเทปันยากิ ร้านสปอร์ตแฟชั่น ฯลฯ ซึ่งบริษัทจะพิจารณาในการคัดสรรแบรนด์ที่เหมาะสม ขณะที่ร้านค้าเดิมก็จะส่งเสริมให้มีการรีโนเวตร้านเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ พร้อมกับเพิ่มไลน์สินค้าให้หลากหลายด้วย







สำหรับในปีที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่เมกาบางนาราว 46 ล้านคนหรือเฉลี่ย 3.8 ล้านคนต่อเดือน ขณะที่ในเดือนมกราคม 2562 พบว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่ม 5% โดยเฉลี่ยลูกค้าจะเข้ามาใช้จ่ายภายในศูนย์นาน 4 ชม.ต่อวันในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ขณะที่วันธรรมดาลูกค้าจะอยู่ในศูนย์ราว 90-120 นาทีต่อวัน ดังนั้นการเสริมแม็กเนตใหม่ๆ เข้ามาจะช่วยทำให้ลูกค้าใช้ชีวิตและใช้จ่ายในศูนย์นานและมากขึ้นด้วย โดยในปีนี้บริษัทจะใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้น 20% ในการทำอีเวนต์ต่างๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาในศูนย์มากขึ้น และตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 20% โดยรายได้หลักจะมาจากค่าเช่าพื้นที่

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,443 ระหว่างวันที่ 10 - 13 กุมภาพันธ์ 2562

http://www.thansettakij.com/content/385796
See less See more
September 2017

cr. กรมทางหลวง

See less See more
cr. Megabangna 29/1/2020

โครงการสร้างอาคารจอดรถ 8 ชั้นของเมกาบางนา ซึ่งจะเพิ่มที่จอดรถให้กับลูกค้าอีก 2,000 คันเลยทีเดียว โดยอาคารจอดรถนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2564 ทำให้ปีหน้าเราจะมีที่จอดรถมากกว่า 12,000 คัน



See less See more
2
‘เมกาบางนา’ ซุ่มเนรมิตโฉมใหม่

30 May 2020 10:17 น.


“เมกาบางนา” พร้อมเดินหน้าลงทุน “เมกาซิตี้” แม้ผลกระทบโควิด-19 ต้องปิดนานเกือบ 2 เดือน เผยใช้โอกาสปิดห้าง เร่งรีโนเวตพื้นที่ภายใน-นอก ก่อสร้างอาคารจอดรถใหม่ ด้วยงบเกือบ 2,000 ล้าน เล็งเปิดแผนลงทุนต่อในครึ่งปีหลัง

นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แม้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบทำให้ศูนย์ต้องปิดให้บริการราว 2 เดือน ตามมาตรการของภาครัฐ แต่นโยบายของบริษัทยังคงเดินหน้าขยายโครงการเมกาซิตี้ ในรูปแบบของมิกซ์ยูส บนถนนบางนา-ตราด ให้ศูนย์รวมการใช้ชีวิตครบวงจรทั้งที่อยู่อาศัย สำนักงาน โรงเรียน และสวนสาธารณะ โดยมีเมกาบางนาเป็นศูนย์กลางต่อไป


“ในช่วงที่ศูนย์ปิดทำการ ก็ใช้เวลานี้ในการรีโนเวตพื้นที่ภายใน ทั้งกลางวันและกลางคืน รวมทั้งลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อให้โครงการเมกาซิตี้เดินหน้าต่อได้”

โดยเบื้องต้นบริษัทได้รีโนเวตสถาปัตยกรรมภายในอาคารศูนย์การค้าจนแล้วเสร็จในเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมปรับภายนอกอาคารบริเวณโซนเมกา ฟู้ดวอล์ก ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อปี 2560 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Scandinavian Playground โดยนำเสนอสนามเด็กเล่นธรรมชาติขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ธรรมชาติ สายน้ำ (stream valley) และบ่อทราย (sand dune) สวนต้นไม้มารวมไว้ด้วยกัน ซึ่งขณะนี้ปรับปรุงไปแล้วกว่า 50% พร้อมจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายนนี้ โดยใช้งบลงทุนในการรีโนเวตทั้ง 2 ส่วน กว่า 800 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ยังได้ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารจอดรถแห่งใหม่ จำนวน 8 ชั้น เพิ่มที่จอดรถมากกว่า 2,000 คัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีที่จอดรถรวมกว่า 1.2 หมื่นคัน นอกจากนี้ในครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีแผนลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะการร่วมกับพันธมิตรเปิดตัวแม็กเนตใหม่ที่จะมาตอกย้ำความเป็น มีตติ้งเพลส และรองรับ New Normal ของลูกค้าด้วย

อย่างไรก็ดี หลังจากกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง พบว่า มีร้านค้าที่เปิดให้บริการได้จำนวน 612 ร้านค้าจากจำนวนผู้เช่าทั้งสิ้น 652 ร้านค้า เหลือเพียงธุรกิจที่รัฐยังกำหนดให้ปิดบริการ เช่น โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส สถาบันกวดวิชา เป็นต้น หลังจากเปิดให้บริการพบว่า มีลูกค้ากลับเข้ามาใช้บริการคิดเป็น 80-85% ของช่วงเวลาปกติ

“ช่วงที่ต้องชัตดาวน์ พบว่ามีร้านค้าที่สามารถเปิดให้บริการได้ เช่น ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพียง 20% ลูกค้าทั้งหมด ขณะที่ผลกระทบต่างๆ ทำให้ศูนย์ต้องออกมาตรการช่วยเหลือผู้เช่า ทั้งการงดเก็บค่าเช่า สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้เปิดบริการ และการลดค่าเช่า ฯลฯ”

นางสาวปพิตชญา กล่าวอีกว่า เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคและ New Normal ศูนย์จึงร่วมกับร้านค้าผู้เช่า ปรับกลยุทธ์การดำเนินการ โดยมุ่งเน้นการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทั้งการต่อยอดความร่วมมือกับ Food Online Delivery Platform ทุกแพลตฟอร์ม สำหรับร้านค้าผู้เช่าในกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม เมกาบางนาเป็น “ฟู้ด เดสติเนชัน” ซึ่งปัจจุบันมีร้านอาหารกว่า 165 ร้าน นอกจากนี้ยังเน้น Omni Channel เชื่อมช่องทางออนไลน์และหน้าร้าน เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าแบบไร้รอยต่อ สำหรับร้านค้าผู้เช่าในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเมกาบางนาสนับสนุนบริการ Click & Collect เป็นการต่อยอดทางธุรกิจในการรวม retail และ logistics เข้าด้วยกัน

“ในไตรมาสแรก พบว่าผลประกอบการของเมกาบางนาไม่ได้รับผลกระทบใดๆ โดยมีการเติบโตคงที่ ไม่ได้ติดลบ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย อีกทั้งมีแผนเตรียมพร้อมรับมือ และด้วยมาตรการต่างๆ เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น และกลับเข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง เห็นได้จากช่วง 7 วันที่ผ่านมา หลังเปิดให้บริการ”


หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,578 วันที่ 28-30 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

See less See more
CRC ส่งห้าง “เซ็นทรัล เมกาบางนา” แทนที่ “โรบินสัน” เริ่ม 2 ก.ค. นี้

วันที่ 12 มิถุนายน 2563

CRC ส่งแบรนด์ “เซ็นทรัล” บุกเมกาบางนา แทนที่ “โรบินสัน” ดีเดย์วันแรก 2 ก.ค. นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเซ็นทรัลรีเทล หรือ CRC ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และโรบินสันเตรียมที่จะเปลี่ยน “ห้างโรบินสัน เมกาบางนา” เป็น “ห้างเซ็นทรัล เมกาบางนา” เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในย่านบางนา-ตราด ซึ่งเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกได้ดียิ่งขึ้น สานต่อกลยุทธ์บ้านหลังที่ 2 ของทุกคน โดยจะพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 2 กรกฏาคมนี้

สำหรับกลยุทธ์บ้านหลังที่ 2 หรือ แนวคิด “a second home that transcends generations” มาจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ของห้างในเครือเซ็นทรัล ให้สามารถรองรับการใช้ชีวิตของลูกค้าทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และได้เข้ามารับประสบการณ์ที่ดีในทุกโอกาส เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับเทรนด์ของตลาดค้าปลีกในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้ นายอนุชิต สรรพอาษา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาด ของ โรบินสัน กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับธุรกิจค้าปลีก แต่บริษัทเล็งเห็นโอกาสในวิกฤตดังกล่าว โดยเฉพาะการเติบโตในธุรกิจออนไลน์ ที่จะต่อยอดไปสู่การเป็น “ออมนิแชนเนลดีพาร์ตเมนต์สโตร์” ของโรบินสัน

See less See more
ทุ่มกว่า 50 ล้าน เปลี่ยนโรบินสันเมกาบางนา เป็น เซ็นทรัล เพิ่มแบรนด์หรูรวม 1,000 แบรนด์ จับลูกค้าเป๋าหนัก

นางณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาทในการเปลี่ยนและปรับห้างโรบินสัน เมกาบางนา เป็น ห้างเซ็นทรัล เมกาบางนา โดยพร้อมเปิดในเฟสแรกวันที่ 2 ก.ค.นี้ และมีแผนศึกษาเพื่อที่จะขยายขนาดพื้นที่สาขาร่วมกับศูนย์การค้าเมกาบางนา พร้อมเตรียมทำการปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่อีกครั้ง ในช่วงไตรมาส 3-4 ปี 2564 สำหรับงบประมาณกำลังอยู่ระหว่างสรุปตัวเลขที่แน่นอน

สำหรับการเปลี่ยนครั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในย่านตะวันออกเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน และครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพสูงด้วยกำลังซื้อที่มีสูง โดยได้เพิ่มสินค้าทั้งแบรนด์ไทย-แบรนด์อินเตอร์ รวมถึงแบรนด์ใหม่ยอดนิยมกว่า 400 แบรนด์ ที่จะทยอยเข้ามาในปีนี้รวมกว่า 1,000 แบรนด์ ทั้ง แผนกเครื่องสำอาง แฟชั่นผู้หญิงและผู้ชาย อีกทั้งสินค้าเกี่ยวกับบ้าน ซึ่งคาดว่าหลังจากเปิดให้บริการจะสร้างยอดขายเติบโตขึ้น 20% ภายในปี 2564

นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า โรบินสัน เมกาบางนา ได้เปิดให้บริการมาแล้ว 8 ปี และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยอยู่ในท็อป 8 ที่สร้างยอดขายได้ดีของโรบินสัน และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการตอบโจทย์ลูกค้าเป็นหลัก ตามนโยบายของบริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (มหาชน) หรือ ซีอาร์ซี (CRC) บริษัทแม่ ได้วางโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลใหม่ในปี 2563 นี้ โดยรวมธุรกิจห้างสรรพสินค้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ประกอบด้วย ห้างเซ็นทรัล 23 สาขา และ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 51 สาขา ทำให้ซีอาร์ซีมีห้างรวมกันมากที่สุดถึง 74 สาขา


พร้อมกันนี้มีการปรับรูปแบบของธุรกิจใหม่ ซึ่งห้างแต่ละสาขาต้องตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว โดยห้างเซ็นทรัล กลุ่มลูกค้าจะเป็นระดับกลางบน ส่วนโรบินสันจะอยู่ในระดับกลาง และยอดการใช้จ่ายของลูกค้าจะน้อยกว่าเซ็นทรัลประมาณ 20-30% ทั้งนี้จึงได้นำร่องเปลี่ยนสาขาแรก โรบินสัน เมกาบางนา และมีแผนจะเปลี่ยนโรบินสันเป็นเซ็นทรัลอีก 2 สาขา กำลังอยู่ระหว่างศึกษา แต่จะเป็นในกรุงเทพ 1 สาขา และต่างจังหวัดอีก 1 สาขา นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปลี่ยนห้างเซ็นทรัลในบางสาขา เป็น โรบินสันด้วย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างศึกษา

19/6/2563 ทุ่มกว่า 50 ล้าน เปลี่ยนโรบินสันเมกาบางนา เป็น เซ็นทรัล เพิ่มแบรนด์หรูรวม 1,000 แบรนด์ จับลูกค้าเป๋าหนัก
See less See more
“เซ็นทรัล-โรบินสัน” แท็กทีม ชิงค้าปลีกกรุงเทพฯ ตะวันออก

วันที่ 22 มิถุนายน 2563

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญ หลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ของ “เซ็นทรัลรีเทล” เพื่อเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็คือการควบรวมห้าง ทั้ง “โรบินสัน” และ “เซ็นทรัล” ให้โอเปอเรตภายใต้บริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ในฐานะบริษัทแม่

นอกจากจะทำให้พอร์ตโฟลิโอของกลุ่มห้างสรรพสินค้าของ “ซีอาร์ซี” รวมกันแล้วมีถึง 74 สาขา (ห้างเซ็นทรัล 23 สาขา และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 51 สาขา) ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ภายใต้พื้นที่การขายกว่า 5.8 แสน ตร.ม.แล้ว ยังทำให้ซีอาร์ซีมีความยืดหยุ่นในการบริหารแบรนด์พอร์ตโฟลิโอ สามารถเลือกโมเดลที่เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น

เช่น ในกรณีล่าสุดที่ “ซีอาร์ซี” เลือกที่จะเปลี่ยนโมเดลของ “ห้างโรบินสัน เมกาบางนา” ให้เป็น “ห้างเซ็นทรัล เมกาบางนา” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และรองรับกำลังซื้อที่มีศักยภาพของย่านบางนา-ตราดได้มากขึ้น

“ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ฉายภาพว่า นโยบายของซีอาร์ซีหลังจากการควบรวมของทั้ง 2 ห้าง คือ การมองลูกค้าเป็นตัวตั้ง และพัฒนาสินค้าหรือบริการให้สามารถตอบสนองความต้องการที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด

ดังนั้น จึงมีการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ (new business model) ซึ่งจะมีทั้งการเปลี่ยนโรบินสันเป็นเซ็นทรัล และเซ็นทรัลเป็นโรบินสัน ให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละพื้นที่ โดยเฟสแรกจะเห็นการปรับเปลี่ยนทั้งหมด 3 สาขา นำร่องโดยโรบินสัน เมกาบางนา เป็นที่แรก ส่วนอีก 2 สาขา มีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้

เนื่องจากทำเลของสาขาดังกล่าวมีการขยายตัวค่อนข้างสูง ถือเป็นทำเลทองของย่านบางนา-ตราด เป็นย่านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ และยังเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก เชื่อมต่อหลายจังหวัด อาทิ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และเป็นหน้าด่านก่อนเข้าสู่กรุงเทพฯ

และในอนาคตอันใกล้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้ารางคู่บางนา-สุวรรณภูมิ ที่จะเป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่ และยังมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จำนวนมาก มีโครงการบ้านจัดสรรมากถึง 18 โครงการ กว่า 7 หมื่นหลังคาเรือน

โดย “ห้างเซ็นทรัล เมกาบางนา” จะเปิดให้บริการในวันที่ 2 ก.ค. 63 บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 1.3 หมื่น ตร.ม. จำนวน 3 ชั้น พร้อมกับการทยอยปรับพื้นที่ในเฟสแรก (minor renovation) ภายใต้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ก่อนที่จะทำการปรับโฉมใหญ่ (major renovation) อีกครั้ง ในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีหน้า


การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ที่จะเกิดขึ้นก็คือ “product assortment” การจัดหาสินค้าที่หลากหลาย และตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งทาร์เก็ตหลักของเมกาบางนา มีทั้งกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น วัยทำงาน ฯลฯ จึงจะเห็นแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาเติมเต็มในทุกแผนกกว่า 400 แบรนด์ รวมเป็น 1,000 แบรนด์

เช่น แผนกบิวตี้ ได้นำแบรนด์ชาแนล นาร์ส ซิซเลย์ ออริจิ้น ฯลฯ เข้ามาเพิ่ม แผนกแฟชั่นผู้หญิง เช่น โดโรธี เพอร์กินส์, มิส เซลฟริดจ์ ฯลฯ แผนกผู้ชาย เน้นกลุ่มสปอร์ตแฟชั่นอย่าง ฟิลลา, ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์, เอ็มแอลบี เป็นต้น

“การปรับโฉมในครั้งนี้จะสานต่อการเติบโตของโรบินสัน ทำให้เซ็นทรัล เมกาบางนา มียอดขายเพิ่มขึ้นได้ถึง 20% ภายในปี 2564 และแม้ว่าจะมีห้างเซ็นทรัลบางนาเปิดในละแวกเดียวกัน แต่มองว่าเป็นการจับฐานลูกค้าคนละกลุ่ม ซึ่งเซ็นทรัลบางนาก็จะเน้นกลุ่มครอบครัวใหญ่ที่มีหลายเจเนอเรชั่นมากกว่า”

ส่วนด้านของการเติบโตในภาพรวม “ณัฐธีรา” มองว่า ปีนี้คงไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ต้องปิดห้างทั้งหมดเป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน โดยเฉพาะสาขาในเมืองท่องเที่ยว อาทิ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ฯลฯ ก็ต้องปรับการทำตลาดมาเน้นลูกค้าคนไทยมากขึ้น เน้นการทำซีอาร์เอ็ม และออมนิแชนเนล เพื่อเพิ่มยอดซื้อต่อบิล

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ห้างได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งพบว่า ผลตอบรับดีกว่าที่คาดเอาไว้ บางแคทิกอรี่กลับมาเติบโตได้ค่อนข้างสูง เช่น บิวตี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ บวกกับหลาย ๆ มาตรการของภาครัฐที่มีแผนออกมากระตุ้นศรษฐกิจก็เป็นสัญญาณที่ดีให้กับภาคธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการดำเนินการด้วย เพราะวันนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือกำลังซื้อของผู้บริโภค ถ้ามาตรการทำได้เร็ว ธุรกิจก็จะกลับมาได้เร็ว

สำหรับยุทธศาสตร์สำคัญอย่าง “Onmi Chanel” ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้เซ็นทรัลสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยบริษัทได้ปรับมาเน้นออมนิแชนเนลมากขึ้นตั้งแต่ก่อนมีโควิด-19 แล้ว และมองว่าการเกิดวิกฤตทำให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ เช่น ช่องทางการขาย ที่เพิ่มขึ้นมาอย่าง Chat & Shop หรือ Call & Shop

ทำให้เซ็นทรัลมีแพลตฟอร์มการขายรวม 4 ช่องทาง สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างหลากหลาย และครอบคลุม อาทิ ผ่านเว็บไซต์ www.central.co.th ผ่าน Facebook Live ที่เพจเฟซบุ๊กห้างเซ็นทรัล บริการ Central Chat & Shop ช็อปผ่านแอปพลิเคชั่น Line ที่ @CENTRALOFFICIAL และบริการ Central Call & Shop

และนอกจากการปรับโครงสร้าง การรีโนเวต การปรับรูปแบบการขายใหม่แล้ว “ณัฐธีรา” ยังระบุอีกด้วยว่า ห้างเซ็นทรัลยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 1 สาขาต่อปี ขณะที่โรบินสันจะขยายเฉลี่ย 2-3 สาขาต่อปี

“วุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวเสริมว่า สำหรับโพซิชั่นของโรบินสัน และเซ็นทรัล มองว่าใกล้เคียงกัน โดยทั้งคู่เน้นเจาะไปที่กลุ่มกลาง-บน แต่สัดส่วนของลูกค้าในแต่ละเซ็กเมนต์จะแตกต่างกัน เช่น หากเป็นในกรุงเทพฯ โรบินสันจะมีสัดส่วนที่กลุ่มกลางมากกว่าบน ส่วนในต่างจังหวัดก็จะเป็นทั้งกลาง-บน

ส่วนการใช้จ่ายต่อบิลของโรบินสัน ก็จะต่ำกว่าเซ็นทรัลอยู่ที่ราว 20-30% ต่อบิลต่อคน เป็นไปตามความหลากหลายของสินค้าที่วางขาย และขนาดของพื้นที่ของห้าง

สำหรับโรบินสัน เมกาบางนา เปิดตัวในปี 2555 เป็นสาขาที่มียอดขายเติบโตแบบดับเบิลดิจิตติดต่อกันหลายปี คิดเป็น top 8 ของสาขาที่มียอดขายสูงที่สุด และเนื่องจากศักยภาพที่สูงของสาขานี้ จึงมองว่ามีความเหมาะสมที่จะปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้เป็นเซ็นทรัล เมกาบางนา

ความร้อนแรงของค้าปลีกโซนกรุงเทพฯตะวันออกนับวันจะดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ

See less See more
cr. fm91 1/7/2020

See less See more
cr. fm91 3/7/2563

See less See more
  • Like
Reactions: 2
เมกาบางนา จับมือ อิเกีย ทุ่มงบกว่า 1 พันล้าน สร้างอาคารจอดรถใหม่ รับนักช้อปช่วงเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ได้ 12,000 คัน

วันที่ 18 ธันวาคม 2563

See less See more
61 - 72 of 816 Posts
Top