Bangkok | Wong Wian Yai Underground Pedestrian

10/2009

ยันรื้อสะพานลอยรอบวงเวียนใหญ่ ส.ก.ภาษีเจริญชู'อุโมงค์'-เมินสน.บุปผารามค้าน

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7256 ข่าวสดรายวัน

นายสุธา นิติภานนท์ ส.ก.เขตภาษีเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม แสดงความไม่เห็นด้วยที่จะรื้อสะพานลอยทั้ง 4 ด้าน และเปลี่ยนมาใช้ทางม้าลายข้ามถนน เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดมากขึ้นจากการข้ามถนนของประชาชน และอาจเกิดอันตราย ว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบวงเวียนใหญ่ ซึ่ง กทม.จะต้องดำเนินการย้ายสาธารณูปโภคลงดิน รวมทั้งสะพานลอยทั้ง 4 ด้าน ซึ่งยืนยันว่าจำเป็นต้องย้ายออก เพื่อไม่ให้บดบังทัศนียภาพและเป็นการเชิดชูเกียรติของอดีตกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของไทย

นายสุธา กล่าวว่า ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบวงเวียนใหญ่ไปแล้ว โดยการย้ายต้นไม้ใหญ่ออกและใช้ไม้พุ่มตกแต่งเป็นสวนแทน รวมทั้งการสร้างอุโมงค์มุดใต้ดินจาก ถ.ตากสินมหาราช ไปยังพระราชานุสาวรีย์ วงเงิน 200 กว่าล้านบาท และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างให้ ม.เกษตรศาสตร์ศึกษาการสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดโดยรอบครอบคลุมถนนทั้ง 4 สาย ได้แก่ ถ.ประชาธิปก ถ.ตากสิน ถ.ลาดหญ้า และถ.อินทรพิทักษ์ รวมทั้งเชื่อมไปถึงสะพานพระพุทธฯ และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีวงเวียนใหญ่และสถานีกรุงธนบุรี รวมพื้นที่ 3-4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใช้เวลา 356 วันโดยใช้งบประมาณที่เหลืออีก 700 ล้านบาท โดยรูปแบบอุโมงค์จะมีความทันสมัย มีความปลอดภัยและมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าด้วย ทั้งนี้ เชื่อว่าจะมีคนใช้จำนวนมากซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาจราจรในพื้นที่รอบวงเวียนใหญ่ และทำให้ภูมิทัศน์โดยรอบวงเวียนใหญ่งดงามมากขึ้น

หน้า 29

อุโมงค์วงเวียนใหญ่700ล้าน มก.ศึกษาเชื่อม4ถนนรายรอบ

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16:55:41 น. มติชนออนไลน์

นายสุธา นิติภานนท์ ส.ก. เขตภาษีเจริญ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบุปผาราม ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยที่ กทม.จะมีการรื้อสะพานรอยทั้ง 4 ด้าน และเปลี่ยนมาให้ประชาชนใช้ทางม้าลายข้ามถนนทั้ง 4 จุด โดยรอบวงเวียนวงเวียนใหญ่แทน เนื่องจากเกรงว่าการเปลี่ยนมาข้ามทางม้าลายของประชาชนจะทำให้รถชะลอตัวและเกิดปัญหาจราจรติดขัดมากขึ้น และอาจเกิดอันตรายได้นั้นว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบวงเวียนใหญ่ ซึ่ง กทม.จะต้องดำเนินการย้ายสาธารณูปโภคลงดิน รวมทั้งสะพานลอยทั้ง 4 ด้าน ซึ่งยืนยันว่ามีความจำเป็นต้องย้ายออก เพื่อไม่ให้บดบังทัศนียภาพและเป็นการเชิดชูเกียรติของอดีตกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของไทย

นายสุธากล่าวว่า โครงการปรับปรุงภูทัศน์โดยรอบวงเวียนใหญ่ดำเนินการตั้งแต่ปี 2552 ระยะแรกเป็นการย้ายต้นไม้ใหญ่ออกและใช้ไม้พุ่มตกแต่งเป็นสวนแทน รวมทั้งการสร้างอุโมงค์มุดใต้ดินจากถนนตากสินมหาราช ไปยังพระราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเงิน 200 กว่าล้านบาท และขณะนี้กำลังกำลังอยู่ระหว่างให้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)เป็นผู้ศึกษาการสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดโดยรอบระยะที่สองครอบคลุม ถนนทั้ง 4 สาย ได้แก่ ถนนประชาธิปก ถนนตากสิน ถนนลาดหญ้า และถนนอินทรพิทักษ์ รวมทั้งเชื่อมไปถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือสะพานพุทธ และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีวงเวียนใหญ่และสถานีกรุงธนบุรี รวมพื้นที่ 3-4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใช้เวลา 356 วันในการศึกษา ใช้งบประมาณ 700 ล้านบาทในการก่อสร้าง



"รูปแบบอุโมงค์จะมีความทันสมัย มีความปลอดภัย และมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าไม่ให้น่ากลัว โครงการนี้ช่วยแก้ปัญหาจราจรทำให้ภูมิทัศน์โดยรอบวงเวียนใหญ่งดงามมากขึ้น"

อุโมงค์เก่าที่สร้างลอดอะไรก็ไม่รู้ ใช้เวลาสร้างกี่ปีนะครับ

เห็นว่าโดนอาคารแถวนั้นฟ้องศาลปกครอง ทิ้งร้างไว้เป็นปีๆ กว่าจะได้สร้างต่อจนเสร็จ

ว่าไปก็คิดถึงวงเวียนใหญ่เวอร์ชั่นเก่า ดูร่มรื่นน่าพักผ่อนกว่าตอนนี้เยอะเลย



วงเวียนใหญ่ปัจจุบัน เหมาะสำหรับผู้ต้องการวิตามิน D


images from Google

ืถ้่าบอกว่า "เพื่อไม่ให้บดบังทัศนียภาพและเป็นการเชิดชูเกียรติของอดีตกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของไทย"

ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย
ทำไมไม่ทำให้ฐานมันสูงขึ้นละ เอาสูงซักตึก4ชั้นเลย
รับรอง ไม่มีอะไรมาบดบัง แุถมเชิดชูให้สูงขึ้น4เท่าด้วย

b0ss32 said:

อุโมงค์เก่าที่สร้างลอดอะไรก็ไม่รู้ ใช้เวลาสร้างกี่ปีนะครับ

เห็นว่าโดนอาคารแถวนั้นฟ้องศาลปกครอง ทิ้งร้างไว้เป็นปีๆ กว่าจะได้สร้างต่อจนเสร็จ

ว่าไปก็คิดถึงวงเวียนใหญ่เวอร์ชั่นเก่า ดูร่มรื่นน่าพักผ่อนกว่าตอนนี้เยอะเลย

วงเวียนใหญ่ปัจจุบัน เหมาะสำหรับผู้ต้องการวิตามิน D

images from Google

Click to expand...

ต๊าย นึกว่ากรุงจาการ์ต้า

uno said:

ขอเก่าดูใหญ่มากมาย แต่ว่าของใหม่มันเสริมให้อนุสาวรีย์ดูเด่นขึ้นจริงๆ

Click to expand...

เด่นขึ้นเพราะมันไม่มีอะไรบังเลยไงครับ ผมสงสัยว่าไม้พุ่มนี่มันเวิร์คกว่าต้นไม้ใหญ่จริงหรือ? ตอนกลางวันแดดเปรี๊ยงๆคงไม่มีใครไปเดินเล่นแถวนั้นเป็นแน่แท้

เท่าที่พอรู้มา บริเวณวงเวียนใหญ่ช่วงกลางคืนมันเป็นแหล่งมิจฉาชีพ ค้ากาม มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาญชยากรรมสูงนะครับ เขาเลยปรับให้มันโล่งๆ เตียนๆ สว่างๆ จะได้ดูแลได้ดีขึ้น (มั้ง) ครับ

ูดูในรูปบนแล้ว ของเก่ายังพอมีคนไปเดินเล่นบ้าง
แต่ของใหม่ ไม่มีใครไปเดินเลย

ผมว่าตัวอนุสาวรีย์เล็กไปนะ น่าจะทำให้ดูสเกลใหญ่กว่านี้ เหมือนอย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ห้าม กทม.รื้อสะพานลอยวงเวียนใหญ่


วันอังคาร ที่ 19 กรกฎาคม 2554 เวลา 10:40 น

รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจ้งว่า ตามที่ กทม.มีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และถนนทุกสายที่เชื่อมกับพระบรมราชานุสาวรีย์ ตามญัตติของคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภา กทม.2550 ปัจจุบันได้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชเสร็จแล้ว พร้อมทำทางม้าลายที่มีสีสะดุดตา และกว้างขวางกว่าปกติ เพื่อเตรียมทดแทนการรื้อสะพานลอยคนข้ามบริเวณโดยรอบวงเวียนใหญ่ทั้ง 4 สะพาน นั้น ที่ผ่านมา สนข.ได้ออกสำรวจพื้นที่โดยรอบวงเวียนใหญ่ พบว่า มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำทางม้าลายและทางจักรยานชิดขอบถนนด้านซ้าย ที่มีสีสันสะดุดตา บนถนนโดยรอบวงเวียนใหญ่ได้แก่ ถนนประชาธิปก ลาดหญ้า สมเด็จพระเจ้าตากสิน แต่มีจักรยานใช้น้อยมาก อีกทั้งยังมีรถจักรยานยนต์มาใช้แทน ซึ่งการตีเส้นทางจักรยานดังกล่าวทำให้ความจุของถนนลดลง และจากการสำรวจจำนวนคนใช้สะพานลอยคนข้าม พบว่า บนถนนประชาธิปกมีคนข้ามสะพานลอยช่วงเช้า 150 คน/ชั่วโมง เย็น 155 คน/ชั่วโมง ถนนลาดหญ้า เช้า 237 คน/ชั่วโมง เย็น 374 คน/ชั่วโมง สมเด็จพระเจ้าตากสิน เช้า 127 คน/ชั่วโมง เย็น 244 คน/ชั่วโมง ถนนอินทรพิทักษ์ เช้า 501 คน/ชั่วโมง เย็น 666 คน/ชั่วโมง ขณะที่มีคนใช้ทางม้าลายในตอนเช้า 169 คน/ชั่วโมง เย็น 42 /ชั่วโมง

รายงานข่าวแจ้งว่า จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้คณะอนุกรรมการพิจารณาแก้ไขปัญหาการจราจรเร่งด่วนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เห็นควรยกเลิกโครงการที่ กทม.จะรื้อสะพานลอยคนเดินข้ามทั้งหมดออก แล้วให้ประชาชนข้ามถนนด้วยทางม้าลายแทน เพราะเมื่อมีประชาชนใช้ทางม้าลายมากจะเป็นการตัดกระแสการเดินรถทำให้เกิดปัญหาการจราจร และยังมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายด้วย และหาก กทม.ยังยืนยันจะรื้อสะพานลอยคนเดินข้ามออก จะต้องทำทางลอดให้คนเดินข้ามถนนที่จุดตัดถนนทั้ง 4 สาย ให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะอนุญาตให้รื้อสะพานได้

นายสุธา นิติภานนท์ สมาชิกสภา กทม. (ส.ก.) เปิดเผยว่า โครงการเดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์จะยังดำเนินต่อไป แต่ยังไม่รื้อสะพานลอยคนเดินข้ามในขณะนี้ และจะรอให้มีการก่อสร้างอุโมงค์คนเดินด้านล่างให้สามารถข้ามได้ทุกถนนเสร็จเรียบร้อยก่อน ขณะนี้ กทม.ได้ลงนามจ้างม.เกษตรศาสตร์ศึกษาออกแบบแล้วเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา งบศึกษา 30 ล้านบาท โดยให้ศึกษาเป็นอุโมงค์คนเดินด้านล่าง เริ่มตั้งแต่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผ่านโรงเรียนศึกษานารี แยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ สิ้นสุดที่แยกกรุงธนบุรี ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้ง 2 สถานี ซึ่งจะมีทางขึ้นลงเป็นระยะในทุกถนน และภายในจะจัดทำเป็นพลาซ่า ใช้เวลาศึกษา 1 ปี เมื่อแล้วเสร็จจะเชิญชวนให้เอกชนมาลงทุน เพราะใช้งบประมาณก่อสร้างจำนวนมาก.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=354&contentID=151956

แก้จราจร-ปรับภูมิทัศน์วงเวียนใหญ่ผุดอุโมงค์รถวิ่ง-คนเดินใต้ดิน

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2555 เวลา 07:43 น.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ม.ค.55 ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ได้มีการพิจารณาญัตติของนาย สุธา นิติภานนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตภาษีเจริญ เรื่องขอให้สภา กทม.ตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาเพื่อติดตามการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและถนนทุกสายที่เชื่อมต่อกับบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ โดยมีการอภิปรายของส.ก. อย่างกว้างขวาง โดยที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาเรื่องดังกล่าวประกอบด้วย ส.ก. 10 คนและผู้บริหาร กทม. 4 คน

ทั้งนี้สำหรับโครงการปรับภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ทางสำนักการโยธา ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาศึกษาสำรวจออกแบบรายละเอียด โดยศึกษาพื้นที่วงเวียนฯตลอดจนถนนโครงข่ายต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมเป็นสง่า สวยงามของพระบรมราชานุสาวรีย์ โดยรื้อสะพานลอยแล้วสร้างทางคนเดินลอดทดแทน ซึ่งสำนักการโยธาได้กำหนดบริเวณในการศึกษาเพื่อเสนอแนวทางปรับปรุงภูมิทัศน์และแก้ปัญหาการจราจรในภาพรวม ครอบคลุมพื้นที่ต่อเนื่องจากพระบรมราชานุสาวรีย์ต่อเนื่องไปยังถนนทุกด้าน โดยด้านถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปจนถึงแยกถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินตัดกับถนนกรุงธนบุรี ด้านถนนประชาธิปก ไปถึงหน้าโรงเรียนศึกษานารี ด้านถนนอิสรภาพไปจนถึงสี่แยกบ้านแขก และหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พร้อมศึกษาการแก้ปัญหาการจราจรบริเวณแยกอรุณอมรินทร์ตัดกับถนนประชาธิปกและถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งผลการศึกษาเบื้องต้นขณะนี้มี 3 ส่วนที่ควรดำเนินการ คือ

1.ก่อสร้างทางคนเดินลอดถนนประชาธิปกบริเวณหน้าโรงเรียนศึกษานารีและบริเวณสี่แยกบ้านแขก

2.ทำอุโมงค์คนเดินจากบริเวณสี่แยกสมเด็จพระเจ้าตากสินตัดกับถนนกรุงธนบุรีไปวงเวียนใหญ่ จนถึงโรงเรียนศึกษานารีและถนนอิสรภาพไปจนถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

3.ทำทางลอดรถยนต์จากถนนอรุณอมรินทร์ไปถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่บริเวณหน้าโรงเรียนศึกษานารี จะมีทั้งโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ โครงการทางลอดรถยนต์ และอุโมงค์คนเดินลอด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกรูปแบบที่เหมาะสม โดยผลการศึกษาเต็มรูปแบบจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้.

http://www.dailynews.co.th/thailand/9367