กรมชลฯทุ่มงบกว่า 2 ล้านล้านชงแผนแก้น้ำท่วมแล้งทั้งระบบ
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน
เปิดเผยว่าได้เร่งเสนอแผนงานแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ โดยกรมชลฯเดินหน้าแผนบูรณาการน้ำ 9
แผนงานป้องกันอุทกภัยลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างทั้งฝั่งตะวันตก-ฝั่งตะวันออก วงเงินกว่า
2 แสนล้านบาท
ที่ผ่านเห็นชอบแล้วจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.)ที่มีนายกรัฐมนตรี
เป็นประธาน เช่น ฝั่งตะวันตก ขุดคลองสายใหม่บางบาล-บางไทร
จะผันน้ำจากช่วงลำน้ำที่แคบที่สุด ก่อนเข้าเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา
จะเป็นทางผันน้ำเลี่ยงเมือง ระยะทางยาว 23 กม. กว้าง 230 เมตร
ดำเนินการปักหลักเขตแนวคลอง อีก6-7 เดือนข้างหน้า เนื้อที่ 3.6 พันไร่
โดยจะขออนุมัติ ครม.เปิดโครงการในกลางเดือนก.ย. เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี
มีการสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ เขื่อนพระนครศรีอยุธยา
ทำหน้าที่ทดน้ำมาเข้าคลองบางบาล-บางไทร เพื่อระบายน้ำหลาก ในอัตรา1.2
พันลบ.ม.ต่อวินาที เสริมคันกั้นน้ำเพิ่มแนวถนนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 65 กม.
ทั้งโครงการ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยในปี 61 สร้างประตูระบายน้ำคลองบางบาล 2 แห่ง
จะป้องกันน้ำท่วมได้ปีหน้า รวมทั้งได้ปรับการปลูกข้าวให้เร็วขึ้น
เตรียมไว้เป็นแก้มลิงพื้นที่รับน้ำนองอีก 1.5 ล้านไร่
ซึ่งคาดว่าปีนี้จะประสบความสำเร็จตามนโยบายของรมว.เกษตรฯ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า แผนน้ำฝั่งตะวันออก ขยายคลองชัยนาท-ป่าสัก
เพิ่มอัตราการระบายน้ำจาก130 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 930 ลบ.ม.ต่อวินาที
ระยะทางยาว120กม.เริ่มปี61 และ โครงการขุดคลองสายใหม่ ป่าสัก -อ่าวไทย 600
ลบ.ม.ยาว130 กม. ได้ศึกษาอีไอเอแล้วเตรียมยื่นสผ.พิจารณาความเหมาะสม
และโครงการขุดคลองใหม่เป็นฟัดส์ไดเวอร์ชั่น เรียกว่า “คลองเจ้าพระยาสอง”
ขนานวงแหวนขั้นที่3 จากก่อนจุดบรรจบแม่น้ำน้อยกับแม่น้ำเจ้าพระยาลงอ่าวไทย
ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างศึกษาอีไอเอ 1 ปี ส่วนแผนป้องกันอุทกภัยฝั่งตะวันตก
ลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง จะขยายแม่น้ำสุพรรณบุรี ช่วงเป็นปัญหาคอขวด
ผ่านอ.เมืองสุพรรณฯ ขุดคลองเลี่ยงเมือง และมีโครงการเชื่อมทั้งระบบ
เพื่อดึงน้ำจากแม่น้ำน้อย คลองเจ้าเจ็ด- บางยี่หน ลงสู่อ่าวไทย
เชื่อมแนวคลองพระยาบรรลือ คลองมหาสวัสดิ์ คลองมหาชัย-สนามชัย
ซึ่งคลองเหล่านี้เป็นคลองแนวขวาง เพื่อลดภาระปริมาณน้ำไปลงแม่น้ำท่าจีน
และเจ้าพระยา นอกจากนี้แผนงานเร่งด่วนเริ่มปี 61 แก้วิฤกติน้ำทะเลรุกล้ำน้ำจืด
บริเวณอ.ดำเนินสะดวก ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม
ที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำช่วงหน้าแล้ง ก็จะใช้น้ำจากแม่กลองมาผลักดันน้ำเค็ม
ซึ่งขณะนี้เหลือน้ำต้นทุนของเขื่อนลุ่มน้ำแม่กลอง 6 พันล้านลบ.ม.
และเตรียมทำคันกันน้ำเค็มตามแนวพระราชดำริ ถนนเอกชัย –พระราม2 ระยะทาง 62 กม.วงเงิน
500 ล้านบาท และสร้างแก้มลิง สนามไชยเขต ต่อเนื่องกับแก้มลิงคลองสุนัขหอน วงเงิน
980 ล้านบาท สร้างประตูระบายน้ำ ปากคลองฝั่งท่าจีน
ทำประตูน้ำช่วงกลางใกล้จุดบรรจบคลอง ขุดลอกช่วงตื้นเขิน
ปรับปรุงระบบชลประทานทั้งหมด ที่สร้างมากว่า50-60 ปี
รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ภาคอีสาน
จะมีการปรับโครงการมาป้องกันอุทกภัย-ภัยแล้ง วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท
ระยะเร่งด่วนปี 61-62 มี 300 กว่าโครงการ กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 9 พื้นที่ ปรับลงมา
8 พื้นที่ ลุ่มน้ำชายขอบแม่โขง ลุ่มน้ำสงคราม ลุ่มน้ำก่ำ ลุ่มน้ำชี
พัฒนาอ่างเก็บโปร่งขุนเพชร แนวทางแก้ปัญหา สร้างเขื่อนลำน้ำชี เขื่อนพระอาจารย์จื่อ
ซึ่งเขื่อนวังสะพุงอยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ ขณะที่ปัญหาเขื่อนลำตะคอง
ที่มีน้ำไม่ถึง30% นั้น ในระยะ10ปีข้างหน้า
จังหวัดเสนอโครงการเจาะอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนป่าสัก -ลำตะคอง วงเงิน 4 พันล้านบาท
โดยสามารถก่อสร้างได้ปี 63 อุโมงค์เจาะรอดเขาดงพระยาเย็น กว้าง 3 เมตร ยาว 25 กม.
ท่อส่งน้ำ 40 กว่ากม.สูบน้ำยกขึ้น พักที่อ่างหมวกเหล็ก และพัฒนาล้ำน้ำมูล
ลำเชียงไกร วงเงิน 1.6 พันล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานท้ายลำตะคอง
ก่อนเข้าตัวเมืองโคราช เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอ.เมือง
นอกจากนี้ยังได้เสนอแผนแก้น้ำท่วม-แล้ง จ.อุบลราชธานีทั้งระบบ
และเดินหน้าโครงการผันน้ำ โขง- เลย- ชี -มูล ที่มีพื้นที่เกษตร ต้องการน้ำ
33ล้านไร่ วงเงิน 1.8 ล้านๆบาท ระยะยาว 20 ปี โดยจะดำเนินการเฟสแรก 1.69 ล้านไร่
วงเงิน 1.5 แสนล้าน ปลายปี 62 จะเริ่มโครงการ เน้นเติมน้ำ3 เขื่อนลำปาว อุบลรัตน์
ห้วยหลวง.
https://www.dailynews.co.th/politics/594592