‘เอเชี่ยน’ เขย่าโมเดลธุรกิจใหม่ รุกตลาดคอนโดฯตร.ม. 4 หมื่น
เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ บุกหนักตลาดคอนโดมิเนียม แตกแบรนด์ออกเป็นสองระดับ "โว้ค" จับตลาดบน ราคา 3-4 ล้านบาทต่อยูนิต ขณะที่แบรนด์ "ไลฟ์" จับตลาดกลางลงมา ราคา 1.5 ล้านบาท เตรียมเปิดที่ท่าพระ ส่วนโว้คหลังเปิดทำเลราชเทวี เตรียมต่อที่ทองหล่ออีกทำเล
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน ) เปิดเผยว่า หลังจากที่เอเชี่ยนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่อีก 1 โครงการในปีนี้ ภายใต้แบรนด์ใหม่คือ "โว้ค" (Vogue @ Siam) ในย่านราชเทวี ใกล้กับโครงการบ้านกลางกรุงสยาม-ปทุมวัน โดยเป็นคอนโดมิเนียมสูง 25 ชั้น จำนวน 224 ยูนิต ราคา 7-9 หมื่นบาทต่อตารางเมตร หรือ 3-4 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ บริษัทได้เตรียมที่จะเปิดตัวคอนโดมิเนียมแห่งใหม่อย่างต่อเนื่องอีก 1 โครงการในย่านทองหล่อใช้แบรนด์โว้คเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ได้ซื้อที่ดินเข้ามาใหม่อีก 2 แปลง อยู่ในย่านท่าพระ 1 แปลง อีกแปลงหนึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะยังไม่ได้โอนที่ดิน ส่วนแปลงทำเลท่าพระนั้น เตรียมที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง ราคาขาย 1.5 ล้านบาทต่อยูนิต หรือ 40,000 บาทต่อตารางวา ภายใต้แบรนด์ใหม่ "ไลฟ์" (Life)
อย่างไรก็ตามโมเดลของธุรกิจ สัดส่วนรายได้ 17% มาจากที่อยู่อาศัยประเภทตึกสูง ส่วนบ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 23-24% และทาวน์เฮ้าส์ 60% แต่ในปีนี้รายได้จากตึกสูงจะเพิ่มเป็น 30% บ้านเดี่ยวเหลือ 17% และทาวน์เฮ้าส์ยังคงสัดส่วน 60% และในปีหน้าสัดส่วนคอนโดมิเนียมยังอยู่ที่ 20-30% โดยนับแต่นี้ต่อไปเอเชี่ยนจะมีแบรนด์บ้านกลางกรุง , บ้านกลางเมือง,โว้ค และไลฟ์ โดยทุกแบรนด์จะต่อท้ายด้วยทำเลของโครงการ สำหรับแบรนด์ไลฟ์ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงว่า สัดส่วนของการพัฒนาจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของตลาดนั้นๆในแต่ละปี หากตลาดคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงได้รับความนิยมก็อาจจะมีการพัฒนาหลายโครงการ แต่ปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับแบรนด์โว้ค
"วันนี้ต้องยอมรับว่าตลาดคอนโดมิเนียมมาแรงมาก เพราะราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทำให้ต้นทุนค่าเดินทางของผู้บริโภคเพิ่มเป็น 20% เพิ่มจาก 13-14% คนวัยทำงานรวมถึงคนที่ทำงานอยู่ในใจกลางเมืองจึงหันมาอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมซึ่งการเดินทางที่สะดวกสบายโดยรถไฟฟ้าทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมวันนี้เปลี่ยนไปแต่ไม่ใช่ว่าทุกทำเลจะประสบความสำเร็จหมด บางทำเลที่มีสินค้าเป็นจำนวนมากอาจสะดุด"
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว 3-4 โครงการ โดยมีมูลค่าของโครงการที่ค้างอยู่ 4,000-5,000 ล้านบาท และในครึ่งปีหลังจะเปิด 3-4 โครงการ ได้แก่บ้านเดี่ยวย่านพระราม 3 , ทาวน์เฮ้าส์ ย่านเกษตร-นวมินทร์ และถนนกรุงเทพฯ-กรีฑา คิดเป็นมูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท
นายอนุพงษ์ กล่าวถึงทิศทางตลาดอสังหาฯ ใน 7 เดือนหลังจากนี้ว่า ถ้าพิจารณาจากจีดีพีที่ 4.5% เชื่อว่าตลาดในไตรมาส 3 และ 4 จะดีกว่าในครึ่งปีแรก แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาปีนี้แย่กว่าปี 2548 ยังน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้นผู้ประกอบการคงต้องหาแคมเปญมากระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคเพราะวันนี้ตลาดเป็นของผู้บริโภคไม่ใช่ผู้ประกอบการ และเชื่อว่าในปีนี้จะเห็นแคมเปญส่งเสริมการขายเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังมากมาก ในส่วนของเอพี ได้จับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ จัดแคมเปญ "Amazing Zero" หรือ O% มหัศจรรย์ คืออัตราดอกเบี้ย 0% ตลอดปีแรก โดยในส่วนนี้บริษัทได้ซัพพลอด์แทนลูกค้าโดยรับภาระดอกเบี้ยในปีแรกไว้แทนซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์คิดในอัตราที่ต่ำคือ 3.75% หลังจากนั้น MLR-0.5 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ในส่วนของฟรีเงินดาวน์ 0% นั้นเนื่องจากโครงการของเอเชี่ยนเป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนจึงไม่ต้องผ่อนดาวน์ และหากลูกค้าไม่ใช้สินเชื่อไทยพาณิชย์ก็จะนำส่วนต่างมาเป็นส่วนลดให้ลูกค้า
สำหรับโครงการที่เข้าร่วมแคมเปญ ประกอบด้วย บ้านกลางกรุง แกรนด์ เวียนนา พระราม 3, บ้านกลางกรุง ออฟฟิศ พาร์ค ซิดนีย์ ลาดพร้าว 71, บ้านกลางกรุง ออฟฟิศ พาร์ค ซานฟรานซิสโก สุขุมวิท-บางนา, บ้านกลางเมือง บริติช ทาวน์ ศรีนครินทร์, บ้านกลางเมือง แกรนด์ เดอ ปารีส รัชดา, บ้านกลางเมือง ลูเซิร์น สุขุมวิท และบ้านกลางเมืองมอนติคาร์โล รัชวิภา ทั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายที่เกิดจากแคมเปญดังกล่าว 1,500 ล้านบาท โดยเป้ารายได้ทั้งปีอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสแรกทำไปแล้ว 1,500 ล้านบาท และยังมียอดที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้อีก 2,600 ล้านบาท เหลือที่จะต้องทำอีก 2,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2548 รับรู้รายได้ 4,700 ล้านบาท
Source : Than Setthakij : June 3, 2006