SkyscraperCity Forum banner

M84 Songkhla - Malaysia Border (Sadao Checkpoint) Motorway

53914 Views 112 Replies 21 Participants Last post by  Appleich
1 - 20 of 113 Posts
2
รายละเอียดของโครงการ

- เป็นโครงการที่จะลดความแออัดคับคั่งของทางหลวงหมายเลข 4 ตอน หาดใหญ่ - คลองพรวน

- ก่อสร้างเป็นทางหลวงพิเศษ ขนาด 4 ช่องจราจร เขตทางประมาณ 70 ม.

- ระยะทาง 47.200 กม.

- ค่าก่อสร้างประมาณ 7,740 ลบ.

- กรมทางหลวงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจวิศวกรรมและผลกระทบ
สิ่งแวดล้อม แล้วเสร็จเมื่อปี 2545 ผลการศึกษา คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ (EIRR = 13.82 %) แต่ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน








ภาพแสดงแนวก่อสร้างทางด่วนพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่ – สะเดา (เส้นประ)
มอเตอร์เวย์หาดใหญ่ – สะเดา

โครงการศึกษาเรื่องการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์เส้นทางหาดใหญ่-ด่านสะเดาระยะทางประมาณ 47.2 กิโลเมตร เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2543 โดยกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เป็นผู้ดำเนินการ แต่มีผลการศึกษาออกมาจริงๆ ในปี 2548 โดยมีวงเงินลงทุนตามผลการศึกษาขณะนั้น มูลค่าประมาณ 10,055 ล้านบาท

นายชูศักดิ์ เสวี ผู้อำนวยการสำนักแผนงานกรมทางหลวง(ทล.) เหตุที่มอเตอร์เวย์หาดใหญ่ – ด่านสะเดา สายนี้ยังไม่ได้ก่อสร้าง เนื่องจากผลการศึกษาขณะนั้น ระบุว่า ยังไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจจึงไม่เร่งผลักดันโครงการ แต่ผลการศึกษาระบุว่า จะเริ่มเห็นผลได้ในปี 2558

“แม้ผลการศึกษาดังกล่าว ระบุว่าจะเห็นผลในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่ขณะนี้ได้เริ่มมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์เส้นทางหาดใหญ่ - ด่านสะเดาแล้ว เพียงแต่ต้องมาวิเคราะห์งบประมาณในส่วนต่างๆ ใหม่อีกครั้งเท่านั้น โดยเฉพาะการเปิดสัมปทานภายใต้งบประมาณการลงทุนระยะเวลา 30 ปี” นายชูศักดิ์ กล่าว

ปัจจุบันสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้รื้อแผนโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หาดใหญ่ – ด่านสะเดาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ปรับระยะทางเป็น 55 กิโลเมตร เพื่อรองรับการจราจรที่แออัดในถนนกาญจนวนิช ซึ่งเป็นถนนสายหลักสายเดียวจากหาดใหญ่ไปยังด่านสะเดา

แม้ สนข.ได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางจากเดิมไปบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่เส้นทางใหม่ก็ยังผ่านบริเวณนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ หรือนิคมฉลุง อำเภอหาดใหญ่ เชื่อมกับเส้นทางเดิม โดยมีการเสนอให้สร้างอุโมงค์ลอดทางแยกสำคัญๆ

ขณะเดียวกันต้องสอดคล้องกับการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ด้วย เนื่องจากด่านพรมแดนไทย – มาเลเซียที่บ้านด่านนอกปัจจุบัน ก็มีความแออัดเช่นกัน

ส่วนข้อมูลโครงการเดิม ระบุว่า การก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายนี้จะลดจุดตัดสำคัญ 3 จุด ในอำเภอหาดใหญ่ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา และที่ด่านสะเดา เพื่อให้รถใช้ความเร็วได้สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียผ่านด่านสะเดา

สำหรับจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อยู่ใกล้กับ ไปสิ้นสุดที่ด่านสะเดาติดกับชายแดนประเทศมาเลเซียระยะทางประมาณ 47.2 กิโลเมตร มีทั้งส่วนที่เป็นถนนระดับพื้นและทางยกระดับ เขตทางกว้าง 70 เมตร ทิศทางไป-กลับฝั่งละ 2 ช่องจราจร

โดยมีแนวเส้นทางเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ตำบลฉุลง อำเภอหาดใหญ่ ใกล้ๆ กับที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ หรือ นิคมฉลุง ผ่านพื้นที่ใกล้กับสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เข้าไปในเขตอำเภอคลองหอยโข่ง แล้วเชื่อมต่อกับถนนกาญจวนิชก่อนถึงด่านสะเดา แต่อาจมีการเปลี่ยนแนวในบริเวณนี้ เพื่อรองรับด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่

ตลอดเส้นจะมีการติดตั้งรั้วกั้นระหว่างทางหลวงพิเศษและทางบริการชุมชนอื่นๆ จะมีการจัดส่วนไว้รองรับบริการ(Service Track) จะมีทางเข้า – ออก บริเวณที่ผ่านพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สีเขียวจะต้องมีการเวนคืนบางส่วน

สำหรับวงเงินลงทุนเดิม 10,055 ล้านบาทนั้น แบ่งออกเป็นค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 641 ล้านบาท ค่าออกแบบรายละเอียด 120 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 120 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 6,875 ล้านบาท ค่าบริหารจัดการโครงการ 1,456 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษาประจำปี(รวม 26 ปี) 312 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา (ทุกๆ 7 ปี) 531 ล้านบาท

ระยะเวลาตั้งแต่การออกแบบจนก่อสร้างแล้วเสร็จใช้เวลา 4 ปี และเปิดใช้เส้นทางอีก26 ปี รวมเป็น 30 ปี
See less See more
กมธ.จี้รื้อมอเตอร์เวย์ หาดใหญ่-ด่านสะเดาหวังเพิ่มโครงข่ายโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 25 - 28 ก.ค. 2553--

กรรมาธิการคมนาคมวุฒิสภาจี้กรมทางหลวงปัดฝุ่นโครงการมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-ด่านสะเดาหวังเพิ่มโครงข่ายโลจิสติกส์ระหว่างประเทศและแก้ปัญหาจราจรถนนหมายเลข4ที่เริ่มหนาแน่นเผยผลการศึกษาคาดใช้งบกว่า10,000 ล้านบาท มีเวนคืนและต้องตรวจสอบ EIA

นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ รองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การคมนาคมวุฒิสภา เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้เร่งรัดให้กระทรวงคมนาคมและกรมทางหลวงพิจารณาดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์เส้นทางหาดใหญ่-ด่านสะเดาระยะทางประมาณ 47 กิโลเมตร วงเงินลงทุนเดิม(ตามผลศึกษาเมื่อปี2548) มูลค่าประมาณ 10,055 ล้านบาทเนื่องจากปัจจุบันสภาพการจราจรบนถนนหมายเลข4ช่วงหาดใหญ่-ด่านสะเดาหนาแน่นขึ้นทุกวันแม้จะขยายถนนเป็นขนาด 4 เลนแล้วก็ตามอีกทั้งยังถือเป็นเส้นทางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอีกด้วย

"โดยจะลดจุดตัดสำคัญ 3 จุด ทั้งจุดตัดหาดใหญ่ ปาดังเบซาร์ และด่านสะเดาจึงใช้ความเร็วได้สม่ำเสมอเหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียผ่านด่านสะเดาประกอบกับขณะนี้กรมศุลกากรเตรียมก่อสร้างจุดผ่านแดนด่านสะเดาแห่งที่2 แล้ว จึงสามารถรองรับการเปิดให้บริการได้พอดี นอกจากนั้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้กรรมาธิการด้านคมนาคมไทยจะจัดประชุมร่วมกับมาเลเซียขึ้นที่เชียงใหม่ซึ่งเตรียมนำเรื่องนี้หารือในที่ประชุมด้วย

ทั้งนี้เพื่อรองรับการพัฒนาด้านระบบโครงข่ายคมนาคมทั้งรถไฟฟ้าและถนนให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างประเทศและเพื่อสร้างความมั่นใจด้านการลงทุนจึงต้องเร่งหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอาทิการรถไฟแห่งประเทศไทยกรมศุลกากรกรมทางหลวงและประเทศมาเลเซียเพื่อหาความชัดเจนในการดำเนินโครงการต่อไป"

ทางด้านนายชูศักดิ์ เสวี ผู้อำนวยการสำนักแผนงานกรมทางหลวง(ทล.)เปิดเผยว่าโครงการนี้เริ่มมีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2543 แต่มาเห็นผลจริงในปี 2548 ขณะนั้นหลายฝ่ายไม่ได้เล็งเห็นถึงความคุ้มค่าในอนาคตโครงการจึงไม่เร่งผลักดันโดยตามผลการศึกษาจะเริ่มเห็นผลในปี2558 ซึ่งเป็นการกระจายถนนมอเตอร์เวย์ระหว่างภูมิภาคมากกว่าจะกระจายจากส่วนกลางกรุงเทพฯ เช่นที่ผ่านมา อีกทั้งยังสามารถใช้ทดแทนถนนสายหลักได้อีกด้วยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)หากผ่านเมื่อใดจะเดินหน้าโครงการในส่วนอื่นๆได้ทันทีเพียงแต่ต้องมาวิเคราะห์งบประมาณในส่วนต่างๆใหม่อีกครั้งเท่านั้นเอง โดยเฉพาะการเปิดสัมปทานภายใต้งบประมาณการลงทุนระยะเวลา 30 ปี

สำหรับจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาไปสิ้นสุดที่ด่านสะเดาติดกับชายแดนประเทศมาเลเซียระยะทางประมาณ 47.2 กิโลเมตร มีทั้งส่วนที่เป็นถนนระดับพื้นและเป็นสะพานยกระดับ เขตทางกว้าง 70 เมตร ทิศทางไป-กลับฝั่งละ 2 ช่องจราจร ติดตั้งรั้วกั้นระหว่างทางหลวงพิเศษและทางบริการชุมชนอื่น ๆ มีการจัดส่วนไว้รองรับบริการ(Service Track) จึงจะช่วยเสริมโครงข่ายเข้า-ออกในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่งด้วยโดยต้องผ่านพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สีเขียวจึงต้องมีการเวนคืนบางส่วน

ส่วนวงเงินลงทุนโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายหาดใหญ่-ด่านสะเดา เชื่อมชายแดนมาเลเซีย ประมาณ10,055 ล้านบาท(โดยจะต้องมีการศึกษาใหม่ให้สอดคล้องยุคปัจจุบันอีกครั้ง)แบ่งเป็นค่าเวนคืนที่ดินสิ่งปลูกสร้าง641 ล้านบาท ค่าออกแบบรายละเอียด120 ล้านบาท ค่าควบคุมงานก่อสร้าง120 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง6,875 ล้านบาทค่าบริหารจัดการโครงการ 1,456 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษาประจำปี(รวม 26 ปี)312 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา(ทุกๆ 7 ปี)531 ล้านบาท ระยะเวลาตั้งแต่การออกแบบจนก่อสร้างแล้วเสร็จใช้เวลา 4 ปี และเปิดใช้เส้นทางอีก26 ปี รวมเป็น 30 ปี.--จบ--
See less See more
รัฐทุ่มพัฒนาด่านสะเดาพันล้าน-ปัดฝุ่น “มอเตอร์เวย์” หนุนค้าชายแดน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2552

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ประธานหอฯสงขลาเผย หลังรอมานานล่าสุด รัฐบาลให้ความสนใจทุ่มงบขยายและพัฒนาด่านสะเดารวมมูลค่า 970 ล้านบาทแล้ว โดยในปีนี้อนุมัติ 100 ล้าน ดำเนินการช่วงแรก เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวและการค้าชายแดนที่เพิ่มสูงขึ้น ด้าน สนข.ปัดฝุ่นโครงการมอเตอร์เวย์ เชื่อมด่านสะเดา-หาดใหญ่ ระยะทาง 55 กม. ที่มีการศึกษามานานกว่า 10 ปี คาด ใน 5 ปีจะมีรถตู้คอนเทนเนอร์วิ่งเข้าออกชายแดนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตู้ และจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เชื่อมต่อแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล ที่รองกับการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกจะนะ-ปากปารา เพื่อขนส่งสินค้าข้ามทวีปในอนาคต

จากความร่วมมือของสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ หรือ IMT-GT ระหว่าง 3 ประเทศ ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ได้ครอบคลุมทั่วภาคใต้แล้ว และยังมีความร่วมมือในกรอบอาเซียนที่ระบุว่า แต่ละประเทศต้องเร่งพัฒนาเส้นทางคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาบริเวณชายแดน

ดร. สุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ล่าสุดรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 100 ล้านบาท ในการขยายด่านสะเดาชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเป็นโครงการต่อเนื่องมูลค่าทั้งหมด 970 ล้านบาท ด้วยเป็นประตูหลักในด้านเศรษฐกิจค้าชายแดนของ จ.สงขลา ที่มีมูลค่านำเข้าส่งออกแต่ละปี 230,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัญหาที่สะสมมานาน คือ ด่านสะเดามีความคับแคบ แออัด โดยเฉพาะภายหลังจากที่ไม่มีสายการบินต่างชาติเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ หาดใหญ่ ทำให้กลายเป็นเส้นทางหลักของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมา จ.สงขลา แต่ต้องรอแถวเป็นเวลานับชั่วโมงโดยเฉพาะช่วงวันหยุดและเทศกาลท่องเที่ยว แม้แต่การขนส่งสินค้าผ่านรถคอนเทนเนอร์ก็กระทบไปด้วย โดยเฉพาะของสดที่ต้องส่งวันต่อวัน

“ปัญหา การขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ผ่านด่านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะผ่านการตรวจสอบจุดนี้ได้กินเวลา 5-6 ชั่วโมง ทำให้ของสดได้รับความเสียหาย เป็นเพราะทั้งการค้าและการท่องเที่ยวได้ขยายตัวเร็วกว่าการเตรียมสถานที่ นั่นเอง คณะพัฒนาการค้าชายแดนจึงได้มีการประชุมแก้ปัญหาดังกล่าว และเห็นควรจะต้องขยายด่านเสียที และเพิ่งจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลชุดนี้” ดร.สุรชัย กล่าว

ทั้งนี้ จากข้อมูลด่านศุลกากรสะเดา ระบุว่า สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์จากยางพารา เช่น ถุงมือ เครื่องจักร ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง ยานพาหนะ

สถิติการนำเข้าส่งออกปี 2552 ระหว่างเดือนตุลาคม 2551-กรกฎาคม 2552 พบว่า สินค้าส่งออกสูงสุด 5 อันดับได้แก่ ยางธรรมชาติ มูลค่า 18,598.15 ล้านบาท ส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักร มูลค่า 11,866.64 ล้านบาท เครื่องประมวลข้อมูลอัตโนมัติ (คอมพิวเตอร์ PC Notebook PDA เป็นต้น) มูลค่า 6,585.11 ล้านบาท มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มูลค่า 6,009.80 ล้านบาท และสื่อบันทึกข้อมูลที่ยังไม่ได้บันทึก (ซีดี เทปสมาร์ทการ์ด เป็นต้น) มูลค่า 5,008.26 ล้านบาท

ดร.สุรชัย กล่าวต่อด้วยว่า นอก จากการขยายด่าน ซึ่งทำให้การเข้าออกผู้โดยสารและสินค้ามีความคล่องตัวแล้ว สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ยังได้รื้อแผนโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์เเชื่อมด่านสะเดา-หาดใหญ่ ระยะทาง 55 กิโลเมตร เพื่อรองรับการจราจรที่แออัดในเส้นทางสายหลักกาญจนวานิชอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ใช้เวลาเดินทางได้รวดเร็วขึ้น และรองรับการเติบโตของการค้าชายแดน ที่มีการประมาณการว่าภายใน 5 ปีจะมีตู้คอนเทนเนอร์ผ่านเข้า-ออกชายแดนไม่น้อยกว่า 1 ล้านตู้ และเป็นเส้นทางเครือข่ายที่รองรับโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล เส้นทาง 5A อีกด้วย

สำหรับโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ เคยมีการศึกษาเมื่อกว่า 10 ปีก่อน โดยกระทรวงคมนาคมเสนอให้มีการศึกษาเส้นทางมอเตอร์เวย์วิ่งเลียบทางรถไฟ โดยว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ที่ไม่สามารถเดินหน้าได้เนื่องคณะผู้ทำการศึกษาระบุว่ายังไม่มีความจำ เป็นที่จะต้องก่อสร้าง ทว่าการขยายตัวของการคมนาคมจากชายแดนสู่ตัวเมืองหาดใหญ่เติบโตมากกว่าที่มี การคาดการณ์ ทำให้เกิดปัญหาการแออัด เพราะมีเส้นทางหลักคือถนนกาญจนวานิชเท่านั้น นั่นเป็นที่มาของการต้องฟื้นโครงการดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง

ปัจจุบันนี้เส้นทางของการขนส่ง มี 3 เส้นทาง เส้นทางมอเตอร์เวย์ ที่ สนข.ได้ทำการศึกษาครั้งนี้ ได้เปลี่ยนจากเดิมเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่ที่มีความเป็นไปได้สูงคือเส้นทางตัดใหม่ที่ผ่านบริเวณนิคมอุตสาหกรรมฉลุง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ แต่จะเชื่อมเส้นทางเดิมที่เคยศึกษาและเป็นทางแยก ซึ่งมีการเสนอให้สร้างอุโมงค์มุดเลี่ยงทางแยกดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ดร.สุรชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า การ พัฒนาภาคใต้ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศนั้นยังมีความ ล่าช้าอยู่มาก ทั้งที่มีการศึกษาเส้นทางเชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศเพื่อลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ขนส่งสินค้าสู่ต่างประเทศ แต่พบว่าความคืบหน้าน้อยมาก และหลายโครงการถูกเก็บไว้หลังจากทำการศึกษาเสร็จแล้ว เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์ สงขลา-สตูล ที่มีท่าเรือน้ำลึกจะนะ-ท่าเรือน้ำลึกปากบาราเป็นจุดขึ้นลงสินค้า ที่จะพลิกเส้นทางการค้าข้ามทวีปแห่งใหม่ ทดแทนการอ้อมช่องแคบมะละกาในอนาคต ซึ่งหอการค้าจังหวัดสงขลาจะเร่งติดตามและผลักดันให้เดินหน้า ไม่ว่าการเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตาม
See less See more
ผมว่าด่านสะเดาควรทำให้ใหม่ด้วย ให้สวยๆและใหญ่ไปเลย ทุกวันนี้ด่านฝั่งเราหน้าตาแย่กว่าฝั่งของเพื่อนบ้านอีก
ผมว่าด่านสะเดาควรทำให้ใหม่ด้วย ให้สวยๆและใหญ่ไปเลย ทุกวันนี้ด่านฝั่งเราหน้าตาแย่กว่าฝั่งของเพื่อนบ้านอีก
อยากให้เกิดเร็วๆจัง เพราะ ถนนสายเก่านั้น เล็กเเละเเคบรู้สึกสายเก่าถนน เส้นนึงแค่3เลนเองครับ รถบรรทุกวิ่งเยอะมาก ขับยากมาก

เเละด่านสะเดา ตอนนี้ก็มีความคืบหน้ามากขึ้น สร้างตั้ง 700กว่าไร่และด่านบ้านประกอบ ก็สร้างไปเกินครึ่งเเล้วครับ
โครงการนี้ผมสนับสนุนอย่างยิ่ง ควรจะมีมอเตอร์เวย์ตามเมืองใหญ่ๆชายแดนที่มีการข้ามแดนมาเที่ยว
ผมก็สนับสนุนสุดตัวครับ
อยากให้โครงการนี้เกิดมากๆครับ เป็นการพัฒนาหัวเมืองใหญ่ๆ ไม่ต้องรอสร้างออกจากกรุงเทพอย่างเดียว
น่าจะมีทางแยกอีกสักสองสาย สายแรกแยกอ้อมเมืองหาดใหญ่ทางทิศเหนือ ตรงไปเมืองสงขลา ลอดอุโมงค์ใต้ปากน้ำสงขลา ไปสุดที่ท่าเรือน้ำลึกแห่งที่ 1
สายที่สอง อ้อมใต้เมืองหาดใหญ่ ไปท่าเรือน้ำลึกที่จะนะ
หอการค้าสงขลาจี้สร้างมอเตอร์เวย์

หอการค้าจ.สงขลาจี้กรมทางหลวงสร้างมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย หลังปัญหาการจราจรตึดหนึบยาวกว่า 5 กม. ใช้เวลาเดินทางกว่า 1.30 ชั่วโมง กรมทางหลวงเร่งชงงบปี 55 จำนวน 25 ล้านบาทเพื่อใช้ศึกษาครั้งใหม่พร้อมงบเพื่อออกแบบรายละเอียด 10 ล้านบาท หลังเมื่อปี 43 ศึกษาไปแล้วพบว่าไม่คุ้มค่าการลงทุน คาดเปิดใช้บริการในปี 2558

ดร.สุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้ขอให้กรมทางหลวง(ทล.)เร่งก่อสร้างมอเตอร์เวย์ เส้นทางหาดใหญ่- สะเดา-เชื่อมชายแดนมาเลเซียเนื่องจากพบว่าปริมาณการใช้รถใช้ถนนมีความหนาแน่นมากขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วนที่พบว่ารถติดนับจากหน้าด่านสะเดาเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่า 1.30 ชั่วโมง จึงเป็นการสูญเสียเวลา อีกทั้งยังมีปริมาณขนสินค้าผ่านพื้นที่ดังกล่าวกว่า 300,000 ตู้คอนเทนเนอร์ในแต่ละวัน คาดว่า ปี 2555 จะเพิ่ม 500,000 ตู้คอนเทนเนอร์ จึงควรต้องมีเส้นทางเพิ่มเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องใช้เส้นทางนี้

ด้าน ดร.ประภัทรเผ่า อาวะกุล วิศวกรโยธา 8 วช. กลุ่มงานวางแผน สำนักวางแผน ทล. กล่าวว่าโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองในภาคใต้ตามแผนแม่บทของทล.ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติเมื่อปี 2540 เพื่อพัฒนาทางหลวงระดับมาตรฐานสากลเชื่อมโยงภูมิภาคและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในปี 2555 จะมีการเสนอของบประมาณเพื่อการศึกษาครั้งใหม่ 25 ล้านบาทและงบออกแบบรายละเอียดอีก 10 ล้านบาท โดยโครงการนี้เคยมีการศึกษามาแล้วเมื่อปี 2543 พบว่ามีมูลค่าการลงทุนประมาณ 10,055 ล้านบาท ผลการศึกษาวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์เท่ากับ 1,302 ล้านบาท ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ(EIRR) 13.65% กรณีการดำเนินงานครั้งใหม่คาดว่าจะเริ่มในปี 2555 เพื่อให้ทันเปิดใช้งานในปี 2558

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,621 27-30 มีนาคม พ.ศ. 2554


http://www.thanonline.com/index.php...2-27&catid=129:2009-02-08-11-47-38&Itemid=479
See less See more
หอฯสงขลาเร่งดัน “มอเตอร์เวย์” ลดแรงต้าน “แลนด์บริดจ์” ขานรับ AEC ปี 58

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กันยายน 2554 16:22 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ประธานหอการค้าสงขลาหนุน “มอเตอร์เวย์-แลนด์บริดจ์” ขานรับ AEC ในปี 2558 เผยพยายามหารือ NGO หาทางออกเดินหน้าโครงการให้เร็วที่สุด ด้านนักเศรษฐศาสตร์ ชี้ ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจในสงขลาจะโตขึ้นอีก 15% โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับยางพารา

วันนี้ (6 ก.ย.) นายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงาน “TMB Trade on Tour @ Hatyai” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “AEC โอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการภาคใต้” ซึ่งจัดโดยธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ณ โรงแรมโนโวเทล เซ็นทารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจและตัวแทนบริษัทเอกชนเข้าร่วมประมาณ 50 คน

นายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ ASEAN Economic Community (AEC ) ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้งหลายก็จะต้องพัฒนาสินค้าให้มีมาตรฐาน และพัฒนาศักยภาพของตนเอง ให้พร้อมรับมือกับการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย โดยเฉพาะภาษาที่สองซึ่งเป็นภาษาสากล

ในเรื่องนี้ตนมีโครงการที่จะขอความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ นำนักวิชาการมาสอนภาษาอังกฤษเบื้องต้นแก่ผู้ประกอบการที่สนใจแล้ว แต่ยังต้องรอความพร้อมด้านอื่นๆ อีกสักระยะหนึ่งจึงจะเริ่มดำเนินการได้ ในขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมใน อ.หาดใหญ่ มีมากถึง 53,645 ราย ซึ่งนับว่าสูงใกล้เคียงกับจังหวัดปริมณฑลเลยทีเดียว

ทั้งนี้ หอการค้าจังหวัดสงขลายังได้ประสานงานกับหอการค้าของประเทศมาเลเซีย จัดกิจกรรมพบประผู้ประกอบการธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศขึ้นในเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างโอกาสให้นักธุรกิจภาคใต้ได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การรวมกลุ่มธุรกิจ และร่วมลงทุนระหว่างกันในอนาคต

นอกจากนี้ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ตนพยายามผลักดันโครงการมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างชายแดนไทย-มาเลเซีย ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเพื่อรองรับ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 นี้ด้วย โดยคาดว่า หากโครงการมอเตอร์เวย์ และโครงการแลนด์บริดจ์ สงขลา-สตูล แล้วเสร็จจะเอื้อประโยชน์แก่ภาคธุรกิจในการเป็นประตูสู่อาเซียนเป็นอย่างมาก ขณะนี้หอการค้าจังหวัดสงขลากำลังพยายามหาจุดร่วมกับ NGO ซึ่งรวมตัวกันกับชาวบ้านเพื่อต่อต้านโครงการพัฒนาที่จะนำไปสู่การอิงอุตสาหกรรม โดยทำลายทรัพยากรที่เป็นพื้นฐานต่อวิถีชีวิตชาวบ้าน ว่า จะสามารถเดินหน้าโครงการเหล่านี้ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนให้น้อยที่สุดได้อย่างไรบ้าง

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000112927
See less See more
สงขลาชงสร้าง'มอเตอร์เวย์-อ่างรับน้ำ'

หอการค้าสงขลาเล็งเสนอรัฐบาลสร้างมอเตอร์เวย์ พร้อมอ่างเก็บน้ำ หวังใช้เป็นแนวรับน้ำ ป้องกันน้ำท่วม และมีน้ำให้ภาคเกษตร - อุตสาหกรรม ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ

นายสุรชัย จิตรภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า วิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้นทั่วประเทศสร้างเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 3 แสนล้านบาท ในส่วนของสงขลาซึ่งเป็นจังหวัดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้เคยได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมมาก่อน ทางหอการค้าจึงมีแนวคิดเตรียมเสนอรัฐบาลให้จัดสร้างทางด่วนพิเศษ (มอเตอร์เวย์) จาก อ.สะเดา จ.สงขลา เชื่อมกับ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยที่ริมถนนมอเตอร์เวย์สามารถสร้างอ่างเก็บน้ำได้ 13 อ่าง แต่ละอ่างสามารถกักเก็บน้ำได้ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมน้ำที่สามารถกักเก็บได้คือ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ โครงการมอเตอร์เวย์ดังกล่าว ทางหอการค้าจังหวัดสงขลาได้ผลักดันไปยังรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มาแล้วครั้งหนึ่ง และพร้อมจะนำเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้ เพราะเห็นว่าเป็นโครงการหนึ่งที่จะป้องกันไม่ให้น้ำท่วมหาดใหญ่ได้ และยังเกิดโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งช่วยส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว และมีแหล่งน้ำผลิตน้ำประปาอุปโภคบริโภค และใช้ในการเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

"ปลายปี 2553 หาดใหญ่ถูกน้ำท่วมหนักเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท หากก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์น่าจะใช้เป็นแนวป้องกัน หรือกลายเป็นพื้นที่รับน้ำที่สำคัญได้"

นายณัฐชัย พลกล้า ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมเจ้าท่า โดยศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เพื่อเป็นเส้นทางเดินเรือและระบายน้ำออกสู่ทะเล แก้ปัญหาความตื้นเขินของทะเลสาบสงขลาบรรเทาปัญหาอุทกภัยของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา โดยทำการขุดลอกตั้งแต่บริเวณปากร่องน้ำไปจนถึงบริเวณท่าเทียบเรือประมงใหม่ ใช้งบประมาณกว่า 59 ล้านบาท

http://www.komchadluek.net/detail/20111124/115895/สงขลาชงสร้างมอเตอร์เวย์อ่างรับน้ำ.html
See less See more
ช่วงหาดใหญ่-ด่านสะเดา ชายแดนมาเลเซีย รอลุ้นงบประมาณปี2556 กว่า 5 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดประตูการค้าเพิ่มรองรับเออีซีภาคใต้

อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวอีกว่าส่วนโครงการมอเตอร์เวย์ช่วงหาดใหญ่-ด่านสะเดา(ชายแดนมาเลเซีย)ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นประตูการค้าเพิ่มและรองรับการเปิดการค้าเสรีอาเซียนโซนพื้นที่ภาคใต้ของไทย เพื่อรองรับการจราจรที่แออัดในถนนกาญจนวนิช ซึ่งเป็นถนนสายหลักสายเดียวจากหาดใหญ่ไปยังด่านสะเดาที่เชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งต้องรอลุ้นงบประมาณปี 2556 จากรัฐบาลดำเนินโครงการดังกล่าวโดยปีนี้ทล.ได้ขออนุมัติงบประมาณ 30 ล้านบาทเพื่อทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม

"มอเตอร์เวย์สายนี้จะลดจุดตัดสำคัญ 3 จุด ในอำเภอหาดใหญ่ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา และที่ด่านสะเดา เพื่อให้รถใช้ความเร็วได้สม่ำเสมอ เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียผ่านด่านสะเดา จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไปสิ้นสุดที่ด่านสะเดาติดกับชายแดนประเทศมาเลเซีย มีทั้งส่วนที่เป็นถนนระดับพื้นและทางยกระดับ เขตทางกว้าง 70 เมตร ทิศทางไป-กลับฝั่งละ 2 ช่องจราจร โดยมีแนวเส้นทางเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ ใกล้ๆ กับที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ หรือ นิคมฉลุง ผ่านพื้นที่ใกล้กับสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เข้าไปในเขตอำเภอคลองหอยโข่ง แล้วเชื่อมต่อกับถนนกาญจวนิชก่อนถึงด่านสะเดาที่กำลังก่อสร้างด่านสะเดาแห่งใหม่"

ทางด้านนายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลาเปิดเผยว่า วันที่ 27 เมษายนนี้ได้จัดสัมมนาเรื่องมอเตอร์เวย์เส้นทางหาดใหญ่-สะเดา(เชื่อมชายแดนมาเลเซีย) เพราะหอการค้าจะต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ภาคธุรกิจและภาคประชาชนเพื่อร่วมกันผลักดันงบประมาณตรงจุดนี้ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เนื่องจากสิ่งที่หอการค้ายังเป็นกังวลและพยายามผลักดันมาโดยตลอดคือมอเตอร์เวย์ เนื่องจากถนนกาญจนวนิชที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีปัญหาในการใช้เส้นทางสัญจร ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหาเส้นทางที่จะวิ่งตัดตรงไปยังหาดใหญ่-สะเดารวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท

"มั่นใจว่ามอเตอร์เวย์เส้นทางนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยการอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมขนส่งสินค้าชายแดนทางบกระหว่างไทย-มาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าการค้านำเข้า-ส่งออกรวมกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าสู่ประเทศไทยให้กับตลาดนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การกระตุ้นการสร้างความตื่นตัวด้านการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่อีกด้วยโดยเฉพาะช่วงนี้ภาคใต้กำลังประสบปัญหาด้านความไม่สงบจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,734 26-28 เมษายน พ.ศ. 2555


http://www.thanonline.com/index.php...4-51&catid=129:2009-02-08-11-47-38&Itemid=479

See less See more
ฮา รถปกติตอนนี้มันเยอะเท่าไหร่ล่ะครับ ติดพอตายมั้ยครับ
^^ เยอะกว่าบ้านคุณแน่นอนครับ

เส้นทางสายนั้นมันเป็นเส้นทางหลักที่รถบรรทุกวิ่งเข้าออก ส่งสินค้าวันละเป็นพันๆ คัน รถโดยสารอีกเยอะ มีมันอยู่เส้นเดียวแหละ จากชายแดนทั้งปาดังเบซาร์-สะเดา วิ่งเข้าเมืองหาดใหญ่
เอาเป็นว่า การค้าชายแดนของทุกด่านของประเทศไทยเอามารวมกัน ยังสู้ด่านสะเดาด่านเดียวไม่ได้เลยครับ บนถนนมีแต่รถ 10 ล้อ
1 - 20 of 113 Posts
This is an older thread, you may not receive a response, and could be reviving an old thread. Please consider creating a new thread.
Top