Nonthaburi 1 Bridge

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมนายปฐม เฉลยวาเรศ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน และคณะ ตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1 ซึ่งขณะนี้รุดหน้าไปกว่า 17 % เร็วกว่าแผน 5 % คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557

ก่อสร้างสะพานนนทบุรี 1 คืบหน้ากว่า 31 % คาดเปิดใช้ได้ปลายปี 2557

วันที่ 05 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 12:45:29 น.

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1 ว่า ปัจจุบันมีผลงานความก้าวหน้ากว่า 31 % เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างส่วนบนของสะพานหลักทางยกระดับและทางแยกต่างระดับ คาดว่าจะก่อสร้างสะพานฯแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557 โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างรวม 900 วัน

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณนนทบุรี 1 เป็นหนึ่งในการพัฒนาโครงข่ายการเชื่อมโยงพื้นที่สองฝั่งน้ำ เป็นเส้นทางการเดินทางที่จะอำนวยความสะดวกต่อประชาชนในจังหวัดนนทบุรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยแบ่งเบาการจราจรบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเดิม โดยเฉพาะสะพานพระราม 5 ซึ่งมีปริมาณการจราจรกว่า 90,000 คันต่อวัน สะพานพระนั่งเกล้า (เก่า) มีปริมาณการจราจรกว่า 51,000 คันต่อวัน และสะพานพระนั่งเกล้า (ใหม่) มีปริมาณการจราจรกว่า 134,000 คันต่อวัน ทั้งยังอำนวยความสะดวกต่อประชาชนในการเดินทางในจังหวัดนนทบุรีสองฝากฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดจนสามารถใช้เป็นทางเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรบนถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนงามวงศ์วาน และถนนติวานนท์ได้อีกด้วย

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า สะพานดังกล่าวมีโครงสร้างเป็นลักษณะสะพานคานขึง ความยาว 460 เมตร โดยที่ตั้งของโครงการอยู่ในเขตพื้นที่ปกครองของอำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี จุดเริ่มต้นโครงการเริ่มจากถนนนนทบุรี 1 ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และเชื่อมต่อเข้ากับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาขึ้นฝั่งด้านตะวันตกของแม่น้ำบริเวณพื้นที่ฝั่งใต้ของคลองอ้อมนนท์ พร้อมมีทางยกระดับต่อเชื่อมจากสะพานเพื่อข้ามจุดตัดระหว่างแนวเส้นทางโครงการกับถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี ก่อนบรรจบเข้ากับถนนดังกล่าวระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นถนนระดับดินในแนวซ้อนทับไปกับถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรีเป็นระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตรจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการที่ถนนราชพฤกษ์ รวมระยะทางประมาณ 4.3 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 3,795.969 ล้านบาท แยกเป็นเงินงบประมาณ 1,141.333 ล้านบาท และเงินกู้ 2,654.635 ล้านบาท

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370410823&grpid=&catid=05&subcatid=0504

ครึ่งทาง "สะพานนนท์ 1" คืบหน้า 60% เปิดปลายปี′57

updated: 03 ม.ค. 2557 เวลา 10:42:38 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ผลจากมติ "ครม.-คณะรัฐมนตรี" ต่อขยายอายุสัญญาก่อสร้างให้ผู้รับเหมาออกไปอีก 150 วัน หรือประมาณ 5 เดือน ทำให้ลุ้นระทึกโครงการที่มีแผนจะแล้วเสร็จในปี 2557 นี้ มีโครงการไหนที่ผู้รับเหมาจะถือโอกาสใช้สิทธิ์ขอขยายเวลาก่อสร้างออกไปอีก

ที่ลุ้นใจจดจ่อตอนนี้ มีโครงการก่อสร้าง "สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณนนทบุรี 1" ของ "ทช.-กรมทางหลวงชนบท" ที่ทุ่มเม็ดเงินก่อสร้างไปกว่า 3,795 ล้านบาท

ตามสัญญาผู้รับเหมาก่อสร้าง "กลุ่มกิจการร่วมค้าไอทีดี-เอสเอ็มซีซี" (บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์+บ.สุมิโตโม) จะสร้างเสร็จเดือนตุลาคม 2557 ที่จะถึงนี้ หลังเริ่มตอกเข็มเมื่อต้นพฤษภาคม 2555 ปัจจุบันโครงการมีผลงานการก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 60% เร็วกว่าแผนงานประมาณ 2%

ซึ่งสาเหตุที่เปอร์เซ็นต์ผลงานคืบหน้าได้ช้า เป็นเพราะผู้รับเหมาประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานก่อสร้าง แต่ปัจจุบันได้เคลียร์ปัญหาจนสะสาง และลงมือเร่งงานก่อสร้างแบบเต็มสตรีม

โดยภาพรวมของงานในส่วนของ "สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา" ได้ดำเนินการก่อสร้างฐานราก เสาตอม่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างพื้นสะพาน

ขณะที่ "งานสะพานต่างระดับ" เพื่อเชื่อมถนนของโครงการกับถนนนนทบุรี 1 ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และถนนราชพฤกษ์ ได้ดำเนินการก่อสร้างฐานรากและเสาแล้วเสร็จประมาณ 70% ส่วนงานหล่อและติดตั้งโครงสร้างส่วนบน (Precast Segment) แล้วเสร็จประมาณ 60%

ในส่วนของ "งานก่อสร้างถนน" ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ดำเนินงานชั้นรองพื้นทางแล้วเสร็จเกือบ 100% ชั้นพื้นทางประมาณ 80% และชั้นผิวจราจรประมาณ 30%

อย่างไรก็ตาม ถึงเนื้องานจะรุดหน้าไปมาก แต่แหล่งข่าวจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ยังกังวลว่าผู้รับเหมาจะขอใช้สิทธิ์ตามมติ ครม.ขยายเวลาก่อสร้างออกไปอีก 5 เดือน ถ้าเป็นในรูปแบบนั้นจะทำให้การก่อสร้างที่ตามแผนงานจะเสร็จเดือนตุลาคมปี 2557 อาจจะต้องเลื่อนถึงเดือนมีนาคม 2558 แต่กรมจะให้ผู้รับเหมาก่อสร้างให้เสร็จไปตามแผนงาน เพื่อเปิดใช้ในปี 2557 นี้ให้ได้

เนื่องจากโครงการนี้เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นอีกโครงการหนึ่งในการพัฒนาโครงข่าย การเชื่อมโยงพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำให้เชื่อมโยงการเดินทางเข้าถึงกันได้ง่าย อีกทั้งเป็นทางเลือกการเดินทางสำหรับคนจังหวัดนนทบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงของกรุงเทพฯในโซนตะวันตก

สำหรับโครงการ"สะพานนนทบุรี 1" ออกแบบเป็นโครงสร้างสะพานคานขึง 6 ช่องจราจร มีความยาวรวม 460 เมตร มีถนนต่อเชื่อม 6 ช่องจราจรอีกต่างหาก

จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ใกล้กับโรงเรียนศรีบุณยานนท์ จากนั้นแนวจะไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แล้วข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งตะวันตกบริเวณพื้นที่ฝั่งใต้ของคลองอ้อมนนท์ แล้วเบนไปทางทิศตะวันตกตัดผ่านถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี แล้วขนานไปทางด้านใต้ของแนวถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี

โดยจะตัดผ่านพื้นที่ว่างเปล่าและสวนจนมาบรรจบซ้อนทับกับถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรีไปจนถึงจุดสิ้นสุดที่ถนนราชพฤกษ์บริเวณสะพานข้ามถนนราชพฤกษ์ รวมระยะทาง 4.3 กิโลเมตร

และจะมีจุดขึ้น-ลงเพื่อให้สะดวกในการเข้า-ออกโครงการง่ายขึ้น ตรงจุดเริ่มต้นโครงการ "บริเวณนนทบุรี 1" จะมีทางลงสำหรับรถที่ต้องการจะไปถนนนนทบุรี 1 ไปท่าน้ำนนทบุรี ต่อมาเป็น "บริเวณจุดตัดระหว่างถนนวัดโบสถ์ดอนพรหมกับท่าน้ำนนทบุรี" และจุด "บริเวณทางแยกต่างระดับที่ถนนราชพฤกษ์" ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ

งานนี้ก็รอลุ้น "อิตาเลียนไทยฯ" จะสละสิทธิ์หรือขอใช้สิทธิ์

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1388720471

สะพานนนท์ 1 เลื่อนไป มี.ค.58

โครงการ แรกคืองานก่อสร้าง "สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณนนทบุรี 1" วงเงินก่อสร้างกว่า 3,795 ล้านบาท ตามสัญญาผู้รับเหมาก่อสร้าง "กลุ่มกิจการร่วมค้าไอทีดี-เอสเอ็มซีซี" ประกอบด้วย

บมจ.อิตาเลียน ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และ บ.สุมิโตโม จะสร้างเสร็จเดือนตุลาคม 2557 ที่จะถึงนี้ จะต้องเลื่อนไปเป็นประมาณเดือนมีนาคม 2558 แทน


"ปัจจุบัน โครงการมีผลงานคืบหน้าเร็วกว่าแผน หลังเริ่มก่อสร้างเมื่อต้นพฤษภาคม 2555 มีผลงานการก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 62% เร็วกว่าแผนอยู่ประมาณ 2%"

โดย ภาพรวมของงานในส่วนของ "สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา" ได้ดำเนินการก่อสร้างฐานราก เสาตอม่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างพื้นสะพานและติดตั้งสายเคเบิล

ขณะ ที่ "งานสะพานต่างระดับ" เพื่อเชื่อมถนนของโครงการกับถนนนนทบุรี 1 ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และถนนราชพฤกษ์ ได้ดำเนินการก่อสร้างฐานรากและเสาแล้วเสร็จประมาณ 70% ส่วนงานหล่อ 60% และติดตั้งโครงสร้างส่วนบน (Precast Segment) แล้วเสร็จประมาณ 80%

ใน ส่วนของ "งานก่อสร้างถนน" ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดำเนินงานชั้นรอง พื้นทางแล้วเสร็จเกือบ 100% ชั้นพื้นทางประมาณ 80% และชั้นผิวจราจรประมาณ 30%

สำหรับโครงการ "สะพานนนทบุรี 1" เป็นโครงสร้างสะพานคานขึง 6 ช่องจราจร มีความยาวรวม 460 เมตร พร้อมถนนต่อเชื่อมขนาด 6 ช่องจราจร มีจุดเริ่มต้นอยู่ใกล้กับโรงเรียนศรีบุณยานนท์ จากนั้นแนวจะไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แล้วข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณพื้นที่ฝั่งใต้ของคลองอ้อมนนท์ แล้วเบนไปทางทิศตะวันตกตัดผ่านถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี แล้วขนานไปทางด้านใต้ของแนวถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี ผ่านพื้นที่ว่างเปล่าจนมาบรรจบกับถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนทบุรี ไปจนถึงจุดสิ้นสุดที่ถนนราชพฤกษ์บริเวณสะพานข้ามถนนราชพฤกษ์ รวมระยะทาง 4.3 กิโลเมตร

ส่วนจุดขึ้น-ลงมีหลายแห่ง คือจุดเริ่มต้นโครงการ "บริเวณนนทบุรี 1" จะมีทางลงสำหรับรถที่ต้องการจะไปถนนนนทบุรี 1 ไปท่าน้ำนนทบุรี ต่อมา "บริเวณจุดตัดระหว่างถนนวัดโบสถ์ดอนพรหมกับท่าน้ำนนทบุรี" และจุด "บริเวณแยกต่างระดับที่ถนนราชพฤกษ์" ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1392968403

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1407740196

กรมทางหลวงชนบทตรวจติดตามการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ สะพานนนทบุรี1คืบหน้ากว่า83เปอร์เซนต์แล้ว ธ.ค.เปิดวิ่งฉิวแน่นอน

วันอาทิตย์ 24 สิงหาคม 2557 เวลา 15:31 น.

รายงานข่าวจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) แจ้งว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายดรุณ แสงฉาย รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท เป็นประธาน ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1 โดยมีนายปฐม เฉลยวาเรศ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน และคณะนำชมพร้อมบรรยายสรุปผลการดำเนินงานพร้อมกับลงตรวจพื้นที่โครงการ ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าการก่อสร้าง 83.51% เป็นไปตามแผนงานก่อสร้าง ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.2557 นี้แน่นอน

สำหรับสะพานนนทบุรี1เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ในพื้นที่ด้านเหนือกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยลดการจราจรหนานแน่นบนสะพานสะพานพระราม 5ซึ่งมีปริมาณการจราจรกว่า90,000คันต่อวัน รวมทั้งบนสะพานพระนั่งเกล้า (เก่า)มีปริมาณการจราจรกว่า51,000คันต่อวันและสะพานพระนั่งเกล้า (ใหม่)ที่ มีปริมาณการจราจรกว่า134,000คันต่อวันช่วยให้ประชาชนในจังหวัดนนทบุรีสองฟากฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเดินทางได้สะดวกขึ้น และลดปัญหาการจราจรบนถนนรัตนาธิเบศร์ถนนงามวงศ์วาน และถนนติวานนท์ที่ปัจจุบันมีปริมาณการเดินทางหนาแน่น.

http://www.dailynews.co.th/Content/...น้ากว่า83เปอร์เซนต์แล้ว+ธ.ค.เปิดวิ่งฉิวแน่นอน

กรมทางหลวงชนบท เตรียมทดลองเปิดใช้สะพานข้ามเจ้าพระยา ถ.นนทบุรี 1 สิ้นปีนี้

วันพฤหัสบดีที่ 09 ตุลาคม 2014 เวลา 18:56 น.

นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท รักษาราชการรองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท ตั้งใจทุ่มเททำงานทั้งการก่อสร้างทางหลวงชนบทและก่อสร้างสะพาน รวมถึงการบำรุงรักษาทางและสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งจากการดำเนินงานตลอด 12 ปีที่ผ่านมา กรมทางหลวงชนบทได้ยกระดับมาตรฐานงานทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น ตลอดจนทำให้การขนส่งสินค้าด้านการเกษตรสู่ตลาดสัญจรได้อย่างสะดวก และที่สำคัญในปลายปีนี้ กรมฯ จะเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนนนทบุรี 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในการพัฒนาโครงข่ายการเชื่อมโยงพื้นที่สองฝั่งน้ำ มีลักษณะโครงสร้างเป็นสะพานรูปแบบผสมผสานระหว่างสะพานเคเบิลขึงและสะพานคอนกรีตอัดแรง มีความยาว 460 เมตร พร้อมถนนเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นโครงการสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตอำเภอเมืองนนทบุรี เชื่อมพื้นที่ตำบลบางกร่างและตำบลบางศรีเมือง (ทางฝั่งตะวันตก) เข้ากับ ตำบลสวนใหญ่และตำบลตลาดขวัญ (ทางฝั่งตะวันออก) ช่วยแบ่งเบาการจราจรบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเดิม โดยเฉพาะสะพานพระราม5 สะพานพระนั่งเกล้า เก่าและใหม่ สามารถใช้เป็นทางเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจร บนถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนงามวงษ์วานและถนนติวานนท์ คาดว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ประมาณปลายปี 2557

http://www.thanonline.com/index.php...e&id=249741&catid=176&Itemid=524#.VDcUdvmSxqU

ธ.ค.นี้เปิดใช้สะพานนนท์ 1

สำหรับ เงินลงทุนจากผลการศึกษา คาดว่าจะใช้วงเงินก่อสร้างประมาณ 54,326 ล้านบาท ล่าสุดจากการอัพเดตเงินลงทุนของแต่ละโครงการแล้ว มีแนวโน้มจะไต่ทะยานไปถึง 102,768 ล้านบาท

ขณะที่สถานะแต่ละโครงการที่กำลังแล้วเสร็จเป็น โครงการแรก มี "สะพานนนทบุรี 1" ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ที่ใช้เงินก่อสร้าง 3,796 ล้านบาท เริ่มสร้างเมื่อปี 2555 จะเปิดใช้เดือนธันวาคมนี้ จะเชื่อม 2 ฝั่งแม่น้ำพื้นที่ จ.นนทบุรี แนวเส้นทางเริ่มจากจุดใกล้โรงเรียนศรีบุณยานนท์ และชุมชนตลาดขวัญ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปสิ้นสุดโครงการที่ถนนราชพฤกษ์

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1415796418

เปิดสะพานข้ามเจ้าพระยาแห่งใหม่ ‘สะพานนนทบุรี 1

สะพานนนทบุรี 1 มีโครงสร้างเป็นลักษณะสะพานคานขึงกึ่งเคเบิลและคอนกรีต (Extradosed Pretressed Con-creteBridge) ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบสะพานแบบใหม่แห่งแรกและ แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งสะพานมีความยาวรวม 460 เมตร ความยาวช่วงกลางสะพาน 200 เมตร และความยาวช่วงข้างสะพานด้านละ 130 เมตร

วันพฤหัสบดี 25 ธันวาคม 2557 เวลา 10:12 น.

จากอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรและการเติบโตของโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรรที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองและเจริญเติบโตตามโครงข่ายถนนส่งผลให้ปัจจุบันกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาประสบปัญหาการจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะจุดที่จะต้องมีการข้ามจากฝั่งธนบุรีมายังฝั่งพระนคร หรือจากฝั่งพระนครไปยังฝั่งธนบุรี ดังนั้นการเดินหน้าก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจึงถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญในการกระจายปริมาณการจราจรและเชื่อมโยงให้ประชาชนได้เดินทางได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีสะพานทั้งหมด 17 แห่ง ซึ่งถือว่ายังไม่เพียงพอต่อปริมาณความต้องการใช้รถใช้ถนนของคนในสังคม ดังนั้นหน่วยงานรัฐจึงมีบทบาทอย่างมากที่จะต้องเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง โดยเมื่อประมาณเดือน พ.ค. พ.ศ. 2555 กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ผุดสะพานนนทบุรี 1 ขึ้น เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 18 ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 26 ธ.ค. 2557

นายปฐม เฉลยวาเรศ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวถึงแนวคิดในการก่อสร้างสะพานนนทบุรี 1 ว่า เมื่อ พ.ศ. 2527 ทช. ได้มีการศึกษาโครงการโดยได้รับทุนไจก้า (JICA) จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ทช. เห็นว่าในถนนนนทบุรี 1 นั้นเป็นถนนช่วงที่สั้นและมีแนวโน้มจะเจริญเติบโตกลายเป็นสังคมเมือง ซึ่งในอนาคตหากยังไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามารองรับจะส่งผลให้การจราจรหนาแน่นมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเริ่มโครงการในปี 2549 โดยแนวเส้นทางของสะพานมีจุดเริ่มต้นโครงการที่ถนนนนทบุรี 1 ซึ่งอยู่ด้านฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาและเชื่อมต่อเข้ากับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้านฝั่งตะวันตกบริเวณถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนท์ ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นถนนระดับดินในแนวซ้อนทับไปกับถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม-ท่าน้ำนนท์ ระยะทาง 1.7 กิโลเมตร จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการที่บริเวณถนนราชพฤกษ์ ระยะทางรวมทั้งสิ้น 4.3 กิโลเมตร

ทั้งนี้หากเปิดใช้สะพานนนทบุรี1ไปแล้วจะสามารถแบ่งเบาการจราจรในสะพานพระนั่งเกล้าเก่า สะพานพระนั่งเกล้าใหม่และสะพานพระราม 5 ได้ถึงร้อยละ 30 ต่อวัน ซึ่งขณะนี้สะพานพระราม 5 มีการประมาณการรถที่สัญจรผ่านประมาณ 96,550 คันต่อวัน ด้านสะพานพระนั่งเกล้า (เก่า) มีปริมาณการจราจรประมาณ 54,568 คันต่อวัน ส่วนสะพานพระนั่งเกล้า (ใหม่) มีปริมาณการจราจร 139,776 คันต่อวัน อย่างไรก็ตามคาดว่าเมื่อสะพานนนทบุรี 1 เปิดใช้งานจะมีประชาชนที่มาใช้บริการในช่วงแรกประมาณ 100,000 คันต่อวัน เนื่องจากมีจุดเชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์ซึ่งประชาชนที่เดินทางออกนอกเมืองก็จะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ด้านความปลอดภัยบนสะพานได้มีการออกแบบวิศวกรรมจราจรโดยมีราวกันตกเป็นราวกันกระแทกเพื่อป้องกันไม่ให้รถตกสะพานเมื่อเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งมีการออกแบบจุดกลับรถและจุดโครงข่ายในรัศมีที่มีความปลอดภัย

นายปฐม กล่าวต่อว่า สำหรับจุดขึ้น-ลงสะพาน มี 4 จุด คือ 1. ทางลงสำหรับรถในทิศทางที่จะลงถนนนนทบุรี 1 เพื่อไปท่าน้ำนนทบุรีพร้อมทางขึ้นสำหรับรถบนถนนนนทบุรีในทิศทางจากท่าน้ำนนทบุรีที่จะขึ้นสะพานโดยไม่ต้องผ่านแยกสัญญาณไฟจราจรบริเวณสามแยกถนนนนทบุรี 1–ถนนเลี่ยงเมือง 2. ทางขึ้นสำหรับรถบนถนนนนทบุรี 1 ในทิศทางจากถนนรัตนาธิเบศร์ที่จะไปท่าน้ำนนทบุรีต่อเชื่อมเข้ากับทางลงสะพาน สำหรับรถที่จะไปในทิศทางท่าน้ำนนทบุรี 3. ทางขึ้นบนถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี สำหรับรถในทิศทางขึ้นสะพานโดยไม่ต้องผ่านแยกสัญญาณไฟจราจรบริเวณสามแยกถนนนนทบุรี 1–ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และ 4. สะพานข้ามแยกบริเวณตลาด อ.ต.ก. 3 ในทิศทางจากสะพานไปถนนพิบูลสงคราม โดยจุดรับรถทั้ง 4 จุดจะมีการรับและระบายรถในถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนพิบูลสงคราม ถนนท่าน้ำนนท์ ถนนนนทบุรี 1 และรถที่มาจากสนามบินน้ำ รวมทั้งจะรับ-ส่งเพื่อช่วยระบายรถที่ออกสู่ถนนราชพฤกษ์โดยไม่ต้องผ่านจุดที่รถติดได้เลย

นอกจากการก่อสร้างสะพานนนทบุรี 1 แล้ว ทช. ยังมีโครงการที่จะก่อสร้างสะพานบริเวณสนามบินน้ำเพื่อเชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษก และถนนวิภาวดีรังสิต เพิ่มอีกหนึ่งแห่งเพื่อแบ่งเบาปัญหาการจราจรติดขัดบนสะพานพระนั่งเกล้าและสะพานพระราม 4 โดยสะพานสนามบินน้ำจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาในถนนติวานนท์ได้ด้วย นอกจากนี้ ทช. ยังได้มีแผนที่จะออกแบบให้สะพานดังกล่าวเชื่อมต่อกับทางด่วนพิเศษอุดรรัถยา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการศึกษาได้ประมาณปี 2559

ว่ากันว่าหากเป็นไปได้ในกรุงเทพฯและปริมณฑลควรจะมีสะพานที่มีความห่างกันทุก ๆ 1 กิโลเมตร เพื่อกระจายการจราจรได้ทั่วถึง.

http://www.dailynews.co.th/Content/bangkok/289694/เปิดสะพานข้ามเจ้าพระยาแห่งใหม่+‘สะพานนนทบุรี+1’

"สะพานนนท์1"ดันราคาที่ดินพุ่งไร่ละ20ล้าน ขยายถนนใหม่เชื่อมวงแหวน-"เพอร์เฟค"แข่งกว้านซื้อผุดโครงการ

วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23:17:10 น.

"สะพานนนท์ 1" เปิดหน้าดินสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1-ถนนราชพฤกษ์บูม ขึ้นทำเนียบทำเลทอง "คิวเฮ้าส์-ธนาสิริ" รับอานิสงส์เต็ม ๆ ถนนตัดผ่านหน้าโครงการ "เพอร์เฟค"ไม่ตกเทรนด์ ซุ่มซื้อที่ดิน 130 ไร่ ผุดบ้านเดี่ยวราคา 6-7 ล้านบาทรองรับ ราคาที่ดินกระฉูดไร่ละ 10-20 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบททุ่มอีก 2-3 พันล้าน ตัดถนนใหม่เพิ่ม 4.5 กม. ต่อเชื่อมถึงกาญจนาภิเษก เริ่มเวนคืนและก่อสร้างปี"60

หลังตอกเข็มเมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ในที่สุดโครงการสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณนนทบุรี 1 และถนนต่อเชื่อม รวมระยะทาง 4.3 กิโลเมตร (เฉพาะสะพานความยาว 460 เมตร) ก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา สะพานนนท์ 1 ทำเลทอง ประเมินกันว่าหลังโครงการเปิดใช้แล้ว นอกจากจะเป็นโครงข่ายถนนและสะพานใหม่ที่เชื่อมการเดินทางของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและกรุงเทพฯให้สะดวกแล้ว ยังเป็นทำเลที่น่าจับตามองในอนาคต

เนื่องจากจะเป็นการเปิดพื้นที่การพัฒนาใหม่ ๆ ตลอดแนวเส้นทาง โดยจะมีทางต่างระดับที่เป็นจุดเชื่อมต่อการขึ้น-ลงกับถนนสายสำคัญ เช่น ถนนพระราม 5 ถนนราชพฤกษ์ ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนพิบูลสงคราม เป็นต้น

พื้นที่ว่างรอพัฒนาอีกเพียบ

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้ลงพื้นที่สำรวจแนวเส้นทาง สภาพพื้นที่ยังเป็นบ้านส่วนบุคคล เนื่องจากถนนเส้นนี้ตัดผ่านพื้นที่สวน แต่โดยรวมเริ่มเห็นการปรับหน้าดินที่เป็นพื้นที่ว่าง เพื่อพัฒนาก่อสร้างให้เห็นบ้างแล้ว ตลอดสองข้างทางในแนวถนนตัดใหม่ช่วงที่ลงจากสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะไปเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์ อาทิ ร้านค้า อาคารพาณิชย์ ร้านอาหาร ฯลฯ



สำหรับที่ดินเปล่าตลอดแนวถนนยังมีให้เห็นและปักป้ายประกาศให้เช่าระยะยาวเป็นระยะ ๆ ส่วนโครงการบ้านจัดสรรยังไม่มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาลงทุนมากนัก เนื่องจากโครงการเพิ่งจะเปิดใช้ ปัจจุบันยังคงเป็นโครงการเก่าที่ได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้ที่ทำให้การเดินทางเข้า-ออกโครงการสะดวกยิ่งขึ้น

คิวเฮ้าส์-ธนาสิริรับอานิสงส์เต็ม ๆ

เช่น โครงการหมู่บ้านเดอะ Cluster Ville, โครงการธนาสิริ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์ ของบริษัท ธนาสิริกรุ๊ป พื้นที่ 33 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม จำนวน 175 ยูนิต เนื้อที่ 37-60 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 140-185 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท ปัจจุบันยังมียูนิตเหลือขายอยู่

โครงการคาซ่าวิลล์พระราม 5 ของบริษัท คาซ่าวิลล์ จำกัด ในเครือควอลิตี้เฮ้าส์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จก่อนขาย เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ตดีไซน์ใหม่ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน พร้อมครัวไทยแยกส่วน ที่จอดรถ 2 คัน ขนาด 50.6-164.5 ตารางวา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 137-180 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท

ด้านราคาที่ดิน จากการประเมินของกรมธนารักษ์รอบบัญชี 2555-2558 ติดถนนนนทบุรี 1-ถนนสนามบินน้ำอยู่ที่ 60,000 บาท/ตารางวา ถนนนครอินทร์อยู่ที่ 80,000 บาท/ตารางวา ถนนราชพฤกษ์อยู่ที่ 50,000-65,000 บาท/ตารางวา ปัจจุบันราคาซื้อขายที่ดินในตลาดบริเวณดังกล่าวมีการปรับตัวสูงขึ้นหลายเท่าตัวนับจากโครงการเริ่มก่อสร้าง

นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาสิริกรุ๊ป เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทมีโครงการธนาสิริ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์ เปิดตัวมา 1 ปีเศษ อยู่ในละแวกใกล้เคียงทางขึ้นลงสะพานนนท์ 1 เชื่อว่าหลังจากเปิดใช้สะพาน ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว เนื่องจากช่วงที่ก่อสร้างสะพานเป็นอุปสรรคการจราจรมาก

ปัจจุบันโครงการธนาสิริ ราชพฤกษ์ฯ เป็นบ้านเดี่ยว-บ้านแฝด บนที่ดิน 30-70 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 3.99-9 ล้านบาท มียอดขาย 35% ส่วนราคาที่ดินละแวกนี้ปัจจุบันไร่ละ 10 ล้านบาท ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้นกว่า 30% คาดว่าปี 2558-2559 ราคาจะปรับขึ้นเป็นไร่ละ 12-15 ล้านบาท

เพอร์เฟคผุดบ้านเดี่ยวดัก

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า เมื่อเปิดใช้สะพานนนทบุรี 1 จะเพิ่มศักยภาพให้กับถนนราชพฤกษ์ เพราะมีทางเลือกใช้เดินทางข้ามไปจังหวัดนนทบุรีเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันใช้สะพานพระนั่งเกล้าเป็นเส้นทางหลัก อนาคตจะทำให้โซนนี้บูมขึ้นอีก เพราะบริเวณใกล้เคียงจุดขึ้นลงสะพานมีที่ดินเปล่าอีกมาก สามารถพัฒนาได้ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ อย่างไรก็ตามปัจจุบันราคาที่ขยับขึ้นสูงแล้ว ที่ดินติดถนนประกาศขายไร่ละกว่า 10-20 ล้านบาท ส่วนที่ดินในซอยไร่ละ 6-7 ล้านบาท

ทั้งนี้เพอร์เฟคมีที่ดินย่านราชพฤกษ์ 130 ไร่ ห่างจากเชิงสะพาน 1-2 กิโลเมตร ปี 2558 เตรียมเปิดบ้านเดี่ยว 2 โครงการ คือ 1)เพอร์เฟค เพลส ราคายูนิตละ 6-7 ล้านบาท เนื้อที่รวม 70 ไร่ และ 2)เพอร์เฟค พาร์ค ราคายูนิตละ 4-5 ล้านบาท เนื้อที่รวม 60 ไร่ คาดว่าจะพัฒนาไปได้อีก 3 ปี ก็จะปิดการขาย

ทุ่ม 3 พันล้านขยายถึงวงแหวนฯ

นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากเปิดใช้สะพานนนทบุรี 1 เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้โครงข่ายมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น กรมมีแผนจะขยายเส้นทางออกไปอีกจากจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณถนนราชพฤกษ์ไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษก ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร เงินลงทุนประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท โดยจะก่อสร้างเป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจร ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดโครงการและคัดเลือกแนวเส้นทาง เพื่อให้มีการเวนคืนที่ดินให้น้อยที่สุด ซึ่งกรมตั้งเป้าจะขอจัดสรรงบประมาณปี 2560 มาก่อสร้างและเวนคืนที่ดิน จะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี หากได้รับการอนุมัติโครงการและงบประมาณก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2562

นายดรุณกล่าวว่า สำหรับโครงการนี้จะเป็นการก่อสร้างบนพื้นที่ใหม่ เมื่อสร้างเสร็จจะเพิ่มโครงข่ายการเดินทางให้เชื่อมโยงกันได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเปิดพื้นที่การพัฒนาใหม่ จากปัจจุบันบริเวณนี้เป็นพื้นที่ตาบอดและช่วงจุดสิ้นสุดโครงการจะเป็นทางตัน ต่อไปในอนาคตจะตัดทะลุตรงสามแยกตรงไปเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก จะเป็นโครงข่ายใหม่เชื่อมการเดินทางในแนวตะวันตกและตะวันออกให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1419676698

เล็งเพิ่มโครงข่ายส่งรถเข้าสะพานนนท์1

เล็งเพิ่มโครงข่ายส่งรถเข้าสะพานนนท์1 ปี 59 ทช.เตรียมศึกษาตัดถนนใหม่จากถนนราชพฤกษ์ทะลุวงแหวนกาญจนาภิเษกเพิ่มโคร่งข่ายถนนให้มากขึ้นหวังดึงประชาชนใช้สะพานนนท์ 1 ข้ามเจ้าพระยา

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2558 เวลา 20:55 น.

นายปฐม เฉลยวาเรศผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวงชนบท(ทช.)หลังจากทช.ได้เปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1 ปลายเดือนธ.ค.2557 ที่ผ่านมานั้น

ทช.ได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้างโครงการดังกล่าวทำการติดตามประเมินผลด้านการจราจรซึ่งพบว่าปริมาณการใช้งานของประชาชนอยู่ที่ประมาณวันละ 30,000คันต่อวันซึ่งถือว่ายังเป็นปริมาณที่น้อยกว่าคาดการเอาไว้โดยสาเหตุเบื้องต้นนั้นคาดว่าเนื่องประชาชนยังไม่ทราบว่าสะพานเปิดให้บริการประชาชนแล้วซึ่งอาจจะต้องมีการติดตามผลการประเมินอีกสักระยะนอกจากนี้บริเวณปลายทางขึ้นลงของสะพานนนท์1 ยังมีโครงข่ายการจราจรที่ยังไม่สมบูรณ์แบบเนื่องจากหากประชาชนใช้สะพานนนท์1จะสามารถเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์เท่านั้น

ซึ่งหากมีการเพิ่มเติมโครงข่ายถนนต่อเนื่องจากถนนราชพฤกษ์ให้สามารถวิ่งทะลุถึงถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ตนเห็นว่าจะมีประชาชนใช้บริการมากยิ่งขึ้นและโครงข่ายถนนมีความสมบูรณ์แบบ

นายปฐม กล่าวต่อว่าในปีงบประมาณ 2559ทช.ได้มีการเตรียมการศึกษาและสำรวจออกแบบเส้นทางที่ต่อเชื่อมสะพานนนทบุรี1ที่จะตัดทะลุไปถึงถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกระยะทางประมาณ4.6กิโลเมตรโดยเบื้องต้นได้มีการสำรวจพื้นที่เวนคืนและอสังหาริมทรัพย์คราวๆไปแล้วซึ่งการตัดถนนเส้นใหม่นั้นจะเป็นการตัดผ่านพื้นที่ปิดไม่มีชุมชนอยู่โดยรอบทั้งนี้ทช.คาดว่าจะไม่มีปัญหาในส่วนของการเวนคืนแต่อย่างใดเพราะการตัดถนนใหม่นั้นจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้สามารถนำที่ดินพัฒนาได้ดียิ่งขึ้นอย่างไรก็ตามหากสามารถดำเนินการก่อสร้างถนนตัดทะลุไปถึงถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้เสร็จสิ้นจะส่งผลให้โครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อกับสะพานนนท์1มีประสิทธิภาพในการใช้งานประชาชนเปลี่ยนเส้นทางมาใช้เพิ่มซึ่งก็จะสามารถแบ่งเบาปัญหาการจราจรในสะพานพระนั่งเกล้า(เดิม)และสะพานพระนั่งเกล้า(ใหม่)ได้ดีขึ้น.“

http://www.dailynews.co.th/bangkok/331238

ประเมินสะพานนนท์1คุมค่าลงทุน พบรถใช้40,000 คันต่อวัน

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2558 เวลา 12:10 น.

นายปฐมเฉลยวาเรศน์ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพานกรมทางหลวงชนบท(ทช.)เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ทช.ได้มีการเปิดให้บริการสะพานข้ามแม่น้ำพระยาแห่งใหม่สะพานนนทบุรี 1ไปเมื่อวันที่ปลายเดือนธ.ค.57ผ่านมาทช.ได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้างโครงการดังกล่าวทำการติดตามประเมินผลด้านการจราจรและผลกระทบอื่นๆทั้งข้อดีข้อเสีย เพื่อดูว่าคุ้มค่าการลงทุนมากน้อยแค่ไหน จากผลการประเมินพบว่าในแต่วันทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นมีรถที่วิ่งผ่านสะพานนนทบุรี1ประมาณ40,000คันต่อวัน

ซึ่งถือว่าเป็นไปตามการคาดการปริมาณการจราจรก่อนที่จะมีการก่อสร้างสะพานอย่างไรก็ตามช่วงที่มีการเปิดให้บริการในช่วงแรกนั้นยังพบว่าปริมาณรถที่วิ่งผ่านมีจำนวนต่ำกว่าที่มีการคาดการไว้แต่เมื่อเปิดให้บริการไปสักระยะประชาชนเริ่มมีการปรับตัวและหันมาใช้สะพานมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามจากผลการประเมินพบว่าปริมารการจราจรของรถที่ใช้บริการสะพานนนทบุรี1นั้นมีแน้วโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถแบ่งเบาปริมาณจราจรสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง สะพานพระนั่งเกล้า และสะพานพระราม 5 ได้เป็นอย่างดี

http://www.dailynews.co.th/bangkok/359478